ถึงร่างกายจะมอดไหม้ โดย วิไลวรรณ แซ่เตีย
(ว่าด้วยความทรงจำและการระลึก ถึง)
วิไลวรรณ แซ่เตีย
ความดีที่จำไว้ยังคงอยู่
พี่สุวิทย์ วัดหนู ทำงานกับคนจนมาโดยตลอด โดยเฉพาะชาวชุมชนแออัดและคนไร้บ้าน รู้จักกับพี่สุวิทย์ เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ไม่ค่อยสนิทกัน เมื่อช่วงสถานการณ์ทางการเมือง ปี 2549 ที่ต้องทำงานร่วมกันในนามพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เจอกันทุกคืนบางคืนพวกเราอยู่ด้วยกันจนสว่าง ที่ท้องสนามหลวงและทุกที่ที่มีเวทีพันธมิตร
บางครั้งพี่สุวิทย์ก็มีเรื่องคุยให้สนุกในสถานการณ์ที่เครียด เวลาประชุมร่วมกัน พี่สุวิทย์ก็จะประเมินสถานการณ์ในมุมต่างๆ อย่างรอบคอบและใจเย็น พี่สุวิทย์เป็นโฆษกคู่กับคุณสาวิทย์ แก้วหวาน บางคืนเสียงก็หายไป ดีฉันและเพื่อนอยู่หลังเวทีเราจะช่วยกันหากาแฟ ขนม ข้าว กินด้วยกัน ความผูกพันที่เราได้ร่วมกันในช่วงหลายเดือนบนถนนการต่อสู้ในระบอบทักษิณ ไม่มีใครบ่นว่าเหนื่อยหรือท้อเมื่อก้าวต้องเดินหน้าต่อไป
พี่สุวิทย์ยึดโยงอยู่กับเวทีตลอด บางคืนตาแดงก่ำเพราะไม่ได้นอนหลายคืน เราได้แต่มองหน้าและเข้าใจถึงความรู้สึกของทุกคนดีในช่วงนั้น หลังปิดม็อบแล้ว แต่เราก็ไปเจอกันเสมอตามงานสัมมนาและพวกเราคุยกันช่วงตำรวจรังควานพันธมิตร พี่สุวิทย์และอีกหลายคนถูกหมายจับ ส่วนตัวดิฉันถูกหมายเรียกให้เป็นพยาน พวกเราเจอกันก็คุยกัน พี่สุวิทย์บอกว่า อยากจับก็จับเลย ไม่หาคนประกัน น้ำเสียงหนักแน่นของพี่สุวิทย์ แต่ก็เปลี่ยนสีหน้าเป็นเศร้าและพุดต่อว่า เป็นห่วงความรู้สึกของแม่มาก และบ่นว่าเห็นใจและเป็นห่วงพี่รสนา เพราะเป็นผู้หญิงคนเดียวในหมู่ผู้ชายทั้งหมด ถ้าถูกจับไปแล้วจะอยู่อย่างไร ความรู้สึกที่ดีที่มีต่อคนอื่นเสมอ กิจกรรมต่างๆของแรงงาน กลุ่มของพี่สุวิทย์ วดัหนู เราจะรวมกันเสมอ วันแรงงานปี 2549 สลัม 4 ภาค ที่ร่วมกันเสนอปัญหาต่อรัฐบาล พี่สุวิทย์ยืนอยู่ข้าง และบอกว่าดีใจที่เคนมาเยอะ ดิฉันคุยกับพี่สุวิทย์ให้ขึ้นพูดบนเวที พี่สุวิทย์บอกว่าไม่ได้มาพูด มาให้กำลังใจพวกเรา พุดแล้วหัวเราะอย่างมีความสุข ในช่วงที่เราเคลื่อนไหว
เจอพี่สุวิทย์ ครั้งสุดท้ายในงานครบรอบ 6 เดือนวิทยุเสียงกรรมกร วันที่ 24 ธันวาคม 2549 ในช่วงบ่ายมีกิจกรรมในการแข่งขันกีฬาหลายประเภท พี่สุวิทย์ สุริยะใส ไผ่ ตั้ม พี่วสันต์ และอีกหลายๆคน ลงแข่งขันฟุตบอลในทีมพันธมิตร และแข่งกับทีมวิทยุเสียงกรรมกร คุณสาวิทย์ แก้วหวานเป็นหัวหน้าทีม การแข่งขันเริ่มขึ้น กองเชียร์ข้างสนามร้องเพลงสู้อย่างสนุกสนาน พี่สุวิทย์ถุกแซวจากกองเชียร์ เพราะวิ่งไม่ไหว
หลังจากแข่งบอลเสร็จ ในช่วงตะวันเริ่มตกอากาศเริ่มเย็น พวกเราเอาสื่อมาปูนั่งล้อมวงกินข้าว มีกิจกรรมอย่างสนุก หลังจากวันนั้นมาก็ไม่เจอพี่สุวิทย์อีกเลย
เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2550 เวลา 07.00 น. เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เมื่อเปิดรับเสียงที่พูดตามสายบอกถึงความเสียใจ ไผ่ เสน่ห์ พูดว่า พี่วิ พี่สุวิทย์ วัดหนู ตายแล้ว พวกเราทุกคนเสียใจที่ต้องสูญเสียนักต่อสู้เพื่อคนจนที่มีอุดมการณ์ และจุดยืนไม่เคยเปลี่ยน พวกเรานับถือพี่สุวิทย์เหมือนพี่ เพราะเป็นคนที่มีความเอื้ออาทรต่อคนอื่นเสมอทุกครั้งที่เจอกัน พี่สุวิทย์จะเรียกติดปากว่า ป้าวิ เหมือนทุกคน
ไปงานศพพี่สุวิทย์ที่วัดสามัคคีบรรพต เจอคุณสุวรรณี ภรรยาพี่สุวิทย์ พูดด้วยน้ำเสียงที่เศร้าบอกว่าคิดถึง วันที่เราไปงานรถไฟแข่งฟุตบอลในวันนั้น เรื่องราวที่พูดถึงพี่สุวิทย์ คือ ความรู้สึกที่ดีที่ดิฉันและเพื่อนๆคงจะจดจำไว้ในความทรงจำตลอดไป และจะไม่ลืมนักต่อสู้เพื่อคนจนที่ชื่อ สุวิทย์ วัดหนู
ที่มา สุวิทย์ วัดหนู นักรบประชา เคียงข้างคนจน
คณะจัดทำหนังสืออนุสรณ์แห่ง ชีวิต สุวิทย์ วัดหนู
วันที่ 20 ธันวาคม 2495 - วันที่ 11 มีนาคม 2550
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น