วันพฤหัสบดีที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ธรรมะดีๆ.....ในตัวเรามีอยู่ 3 คน


*ณ วัดบ้านไร่แห่งหนึ่ง ****

**หลวงตาเพิ่งกลับจากการบิณฑบาต **
**เห็นลูกศิษย์วัดนั่งร้องไห้สะอึกสะอื้น **
**จึงเข้าไปถามไถ่ว่าเป็นอะไร ****
**ลูกศิษย์ตอบกลับมาว่า **  
**ผมถูกใส่ร้าย ผมไม่ได้ขโมยเงินในหอพระ **
**แต่ผมเข้าไปปัดกวาดเช็ดถูบ่อย ๆ ****
**ทุกคนก็หาว่าผมเป็นขโมย ไม่มีใครเชื่อผมเลย **ฮือ ฮือ **

**หลวงตานั่งลงข้าง ๆ ****พยักหน้าเข้าใจแล้วสอนลูกศิษย์ว่า **
**เจ้ารู้ไหม ในตัวเรามีคนอยู่สามคน **

**คนแรกคือ คนที่เราอยากจะเป็น **
**คนที่สองคือ คนที่คนอื่นคิดว่าเราเป็น ****
**คนที่สามคือ ตัวเราที่เป็นเราจริง ๆ **' **

**ลูกศิษย์หยุดร้องไห้ นิ่งฟังหลวงตา ***

**คนเราล้วนมีความฝัน ความทะยานอยาก **
**ตามประสาปุถุชนทั่วไป ไม่ใช่สิ่งเลวร้าย **
**บางครั้งความฝันก็เป็นสิ่งสวยงาม **
**เป็นพลังที่ทำให้เราก้าวเดิน ****
**เช่น บางคนอยากเป็นนักร้อง เป็นนักมวย **เป็นดารา **
**ถ้าถึงจุดหมายเราก็จะรู้สึกว่าโลกนี้ช่างสว่างไสวสวยงาม **
**ดังนั้นเราควรมีความฝันไว้ประดับตน เพื่อเป็นเครื่องหล่อเลี้ยงหัวใจ **


**มาถึงไอ้ตัวที่สอง **จะเป็นเราแบบที่คนอื่นยัดเยียดให้เป็น **
**บางครั้งก็ยัดเยียดว่าเราดีเลิศ จนเราอาย **
**เพราะจิตสำนึกเรารู้ดีว่ามันไม่จริงหรอก **
**แต่เราก็ยิ้มรับ ** แต่บางครั้งไอ้ตัวที่สองนี้ก็มหาอัปลักษณ์ **
**จนไม่อยากจะนึกถึง **ซ้ำร้ายยังเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา **
**เพราะมันเป็นโลกในมือคนอื่น **มันเป็นสิ่งแปลกปลอมที่คนอื่นยื่นให้ **

**อย่างคนขับสิบล้อจอดรถอยู่ข้างทางเฉย ๆ **
**เช้ามาพบศพใต้ท้องรถ ****ก็ต้องขับรถหนี **
**ทั้งที่ศพนั้น ถูกรถชนตายอีกฝั่งแล้วดันถลามาใต้ท้องรถ **
**แต่ขึ้นชื่อว่าเป็นคนขับสิบล้อ บางคนก็ตัดสินไปแล้วว่าเขาเป็นฆาตกร **


**สมัยที่หลวงตายังไม่ได้บวชเคยไปส่งเพื่อนผู้หญิงที่มีผัวแล้ว **
**เพราะเห็นว่าบ้านเป็นซอยเปลี่ยว ส่งได้สองครั้งก็เป็นเรื่อง **
**ชาวบ้านซุบซิบนินทา หาว่าเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน **
**คนที่เห็นนั้นมองคนอื่นด้วยใจที่หยาบช้า ไร้วิจารณญาณ ใจแคบ **
**มองคนอื่นผ่านกระจกสีดำแห่งใจตัวเอง **คนเหล่านี้มีอยู่ทั่วไปในสังคม **

**เจ้าต้องจำไว้นะ **ทุกครั้งที่เราว่าคนอื่นเลว คนอื่นไม่ดี **
**ก็เท่ากับเราประจานความมืดดำในใจตัวเองออกมา **
**เห็นสิ่งไม่ดีของใครจงเตือนตัวเองว่าอย่าทำ **อย่าเลียนแบบ **
**นั่นแหละวิถีของนักปราชญ์ **ถ้าเอาไปว่าร้ายนินทาเรียกว่าวิถีของคนพาล ***
**แล้วเราต้องทำตัวอย่างไรละครับในเมื่อเราต้องเจอคนเหล่านั้นเรื่อย ๆ **
**ลูกศิษย์หยุดร้องไห้แล้วเริ่มสนทนาโต้ตอบหลวงตา **

**เจ้าต้องทำความเข้าใจจิตใจมนุษย์ **
**เรียนรู้ว่าความเข้าใจผิดเกิดขึ้นได้ **
**เราห้ามใจใครไม่ได้ สิ่งใดที่เราไม่ได้ทำ ไม่ได้คิด ไม่ได้เป็น **
**แต่คนอื่นคอยยัดเยียดให้เรา เราก็ไม่ควรให้ความสำคัญ **
**เพราะเราสัมผัสได้ว่าสิ่งนั้นไม่มีอยู่จริง ใจเราควรสงบนิ่ง **
**ยังไม่ต้องชำระ ****ใจคนอื่นต่างหากที่ควรซักฟอกให้ขาวสะอาดกว่าที่เป็นอยู่ **
**เขาเหล่านั้นเป็นบุคคลที่น่าสงสารมีเวลามองคนอื่น **
**แต่ไม่มีเวลามองตัวเอง **จงแผ่เมตตาให้เขาไป เข้าใจใช่ไหม **
**เข้าใจครับหลวงตา **
**เด็กน้อยยิ้มมีความสุขอีกครั้ง **

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

สุเวศน์ ภู่ระหงษ์ ศิลปินประชาชน

เรื่องที่น่าสนใจของกลุ่มศิลปะ ดนตรี กวีประชาชน

ความเห็นต่อ กลุ่มศิลปะ ดนตรี กวีประชาชน