(23 มิถุนายน) เวลาประมาณ 13.00 น. ณ ห้องประชุมคำชะโนด ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี นายแพทย์นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ ประธานอนุกรรมการเฉพาะกิจด้านที ่ดินและป่า คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ได้เชิญตัวแทนจากการไฟฟ้าฝ่ ายผลิตแห่งประทศไทย(กฟผ.) คณะกรรมการชาวบ้านผู้ได้รั บผลกระทบจากแนวสายส่งไฟฟ้าแรงสู ง(คชส.) รวมทั้งตัวแทนจากหน่ วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง อาทิ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี พนักงานอัยการ ปลัดอำเภอเมือง และผู้กำกับการสถานีตำรวจภู ธรอำเภอกุมภวาปี เพื่อประชุมติดตามปัญหาการละเมิ ดสิทธิมนุษยชนตามที่ คชส.ได้ทำหนังสือร้องเรียนไป
การจัดเวทีของ คณะกรรมการสิทธิฯ ในครั้งนี้ได้จัดขึ้นมาเป็นครั้ งที่ 3 ต่อการติดตามแก้ไขปัญหาข้อพิ พาทระหว่าง กฟผ. กับ กลุ่มชาวบ้าน อันเนื่องมาจากการดำเนิ นโครงการแนวสายส่งไฟฟ้า 500 กิโลโวลต์(KV) น้ำพอง 2 – อุดรธานี 3 พาดผ่านที่ดินทำกินของชาวบ้าน จึงรวมตัวกันคัดค้านการดำเนิ นการของ กฟผ. ด้วยเหตุผลที่ละเมิดสิทธิชุมชน และกังวลใจต่อผลกระทบด้านสิ่ งแวดล้อมและสุขภาพที่จะเกิดขึ้ นจากการดำเนินโครงการ แต่สถานการณ์ลุ กลามบานปลายจนนำไปสู่เหตุการณ์ กฟผ. นำเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุ มชาวบ้านและนักศึกษา จำนวน 15 คน ที่ร่วมกันปกป้องสิทธิชุมชน ในวันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา คณะกรรมการสิทธิฯ จึงได้จัดเวทีเจรจาไกล่เกลี่ ยแก้ไขปัญหาข้อพิพาทที่เกิดขึ้น
นายแพทย์นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
“กรรมการสิทธินั้นมีบทบาทหน้าที ่เป็นคนกลางในการเจรจาไกล่เกลี่ ยปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้น จึงอยากให้ กฟผ. และชาวบ้านได้มีทางออกของปั ญหาร่วมกัน ซึ่งกรรมการสิทธิไม่ได้มีหน้าที ่ในการคิดแทนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่ทั้งสองฝ่ายต้องคุยกันให้รู้ เรื่อง ให้ได้ข้อสรุปร่วมกันมันถึ งจะเดินหน้าต่อไปได้ ไม่เช่นนั้นแล้วการดำเนินการของ กฟผ. ก็จะเป็นไปได้ยาก ส่วนฝ่ายชาวบ้านก็จะร้องเรี ยนมาที่กรรมการสิทธิฯ อีก ปัญหาก็จะไม่ยุติสักที”
ด้าน นายสุเทศ จารุสาร หัวหน้าโครงการจัดกรรมสิทธิ์ที่ ดินขยายระบบส่งไฟฟ้าที่ 10 ได้ชี้แจงการดำเนิ นการของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่ งประเทศไทย (กฟผ.) ต่อคณะกรรมการสิทธิฯ ว่า
“เรื่องของคดีความหลังจากเวที ประชุมที่คณะกรรมการสิทธิในครั้ งที่แล้ว ท่านผู้กำกับสถานีตำรวจกุมภวาปี ได้มามาเป็ นคนกลางในการเจรจาไกล่เกลี่ย โดยทาง กฟผ. ได้ทำหนังสือแจ้งไปยังพนั กงานสอบสวนแล้วว่าไม่ประสงค์ จะให้ผู้ต้องหาทั้ง 15 คน ได้รับโทษ ส่วนการดำเนินงานของ กฟผ. นั้น ได้ทำการลงสำรวจที่ดินและทรัพย์ สินที่แนวสายส่งพาดผ่านแล้วเสร็ จ และจะส่งข้อมูลให้กับชาวบ้านเจ้ าของที่ดิน ซึ่งชาวบ้านเจ้าของที่ดินก็ได้ ให้ความร่วมมือในการดำเนิ นงานของ กฟผ. ด้วยดี อย่างไรก็ดี เมื่อพูดคุยกันเสร็จในวันนี้ กฟผ.ก็จะขอลงพื้นที่ดำเนินการก่ อสร้างเสาที่เหลืออยู่เพี ยงเสาเดียวในที่นาของพ่อบุญเลี้ ยงในวันพรุ่งนี้ ตามที่ได้ตกลงกันไว้”
ในส่วนของ พ.ต.อ.สมชาย พิมพ์ชู ผู้กำกับการสถานีตำรวจภู ธรอำเภอกุมภวาปี ได้กล่าวว่า
“ผมรู้สึกอึดอัดใจเป็นอย่ างมากที่พี่น้องประชาชนที่ปกป้ องสิทธิชุมชนของตนเองต้องมาถู กจับกุม ซึ่งในวันนั้นทาง สภ.กุมภวาไม่ได้เข้าไปยุ่งเลย แต่ก็มีตำรวจจากทางอื่นจับกุ มชาวบ้านมาส่งไว้ที่สถานี ซึ่งผมก็จะต้องทำหน้าที่ให้ดีที ่สุดและให้ความเป็นธรรมสำหรับทุ กฝ่าย ตัวผมเองก็มีความเข้าใจชาวบ้ านที่อยู่เฉยๆ ก็สายไฟมาผ่านหลังคาบ้านตนเอง ย่อมต้องมีความกังวลใจต่ อผลกระทบที่จะเกิดขึ้น”
สำหรับ นายบุญเลี้ยง โยธทะกา แกนนำคณะกรรมการชาวบ้านผู้ได้รั บผลกระทบจากแนวสายส่งไฟฟ้าแรงสู ง(คชส.) ได้แสดงความคิดเห็นในครั้งนี้ว่ า
“ผมรู้สึกเห็นใจพี่น้องชาวบ้ านและนักศึกษาที่ต้องมาถูกคดี ซึ่งพวกผมไม่ได้ขัดขวาง กฟผ. แต่อย่างใด แต่ที่ผ่านมา กฟผ. ไม่ได้สร้างความกระจ่างชัดให้กั บกลุ่มชาวบ้านเลยในเรื่ องของรายละเอียดของโครงการฯ และปัญหาผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ซึ่งผมก็มีความกังวลใจต่ อผลกระทบที่จะเกิดขึ้น และเรื่องการสำรวจรังวัดและจ่ ายค่าทดแทน กฟผ. ก็ไม่มีความชัดเจน จึงอยากให้มีการคุยกันให้รู้เรื ่องด้วย ส่วนทาง กฟผ. จะเข้ามาก่อสร้างเสาในที่ นาของผม ก็ไม่ได้ขัดข้องแต่อย่างใด”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากทุกฝ่ายที่เข้าร่วมเวที ในครั้งนี้ ได้พูดคุยแลกเปลี่ยน และซักถามข้อคิดเห็นร่วมกันเสร็ จแล้ว กฟผ. ได้มีการนัดหมายกับ กลุ่มชาวบ้าน เพื่อที่จะชี้แจงผลการประเมิ นราคาค่าทดแทนจากการลงพื้นที่ สำรวจที่ดินและทรัพย์สิ นของชาวบ้านที่ได้รั บผลกระทบจากแนวสายส่งไฟฟ้าในวั นที่ 27 มิ.ย.นี้ โดยจะมีตัวแทนจากหน่ วยงานราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่ วมเป็นสักขีพยานด้วย และในส่วนของคดีความตำรวจนั ดหมายฟังผลการสรุปสำนวนในวันที่ 6 ก.ค.
/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/- /-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/- /-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/- /-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/
นายสมพงศ์ อาษากิจ ศูนย์ข้อมูลสิทธิมนุษยชนและสั นติภาพ (ศสส.) อีสาน
ตู้ ปณ.14 อ.เมือง จ.อุดรธานี 41000
โทร.086 – 2317637 อีเมล์ : ton_mekong@hotmail.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น