อุดรธานี : 6 พ.ค.54 เวลาประมาณ 13.30 น. นายมนัส ถำวาปี อายุ 37 ปี ชาวบ้านเหล่ากล้วย ต.เสอเพลอ อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี เดินทางไปแจ้งความต่อ พ.ต.ท.สิงหราช แก้วเกิดมี พนักงานสอบสวน ที่สภอ.เมืองอุดรธานี เพื่อเอาผิดกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่ได้สั่งให้คนของกฟผ.ลงไปในแปลงนาของนายมนัส และทำการตัดโค่นต้นไม้จนโล่งเตียน คิดคำนวณความเสียหายเป็นเนื้อที่ประมาณ 7 ไร่ ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (5 พ.ค.) เมื่อเวลาประมาณบ่ายโมงถึงบ่ายสามโมง โดยมีหลักฐานเป็นภาพถ่าย จำนวน 5 แผ่น
ที่นาของนายมัส ตั้งอยู่ในเขตหมู่บ้านทอนกลาง หมู่ที่ 9 ต.หนองไผ่ อ.เมือง จ.อุดรธานี ซึ่งกฟผ.ได้ทำการสำรวจแนวเขตเพื่อเดินสายไฟฟ้าแรงสูง ขนาด 500 กิโลโวลต์ (KV) น้ำพอง 2 – อุดรธานี 3 ผ่านพื้นที่บริเวณดังกล่าว แต่นายมนัส ร่วมกับชาวบ้านจำนวนหนึ่งคัดค้าน ไม่ยินยอมรับค่าทดแทนจากกฟผ. และในขณะนี้เรื่องอยู่ในระหว่างการฟ้องร้องต่อศาลปกครองเพื่อให้กฟผ.เพิกถอนแนวสายส่งไฟฟ้า
นายมนัส ถำวาปี กล่าวว่า ปกติตนจะเดินสำรวจดูแปลงนาเป็นประจำทุกวัน แต่เมื่อวานนี้ไม่ได้ออกมาเพราะต้องไปทำงานรับจ้างในเมืองตั้งแต่เช้า พอตกเย็นมีชาวบ้านโทรศัพท์มาบอกว่า ได้พบเห็นชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่ง ขับรถกระบะสีบอร์นเงิน มาจอดแล้วนำเลื่อยโซ่ยนต์ และมีด เดินลิ่วลงไปตัดต้นไม้ในที่นาล้มระเนระนาดหมดเลย พอชาวบ้านถามพวกเขาก็บอกว่ากฟผ.ได้เคลียร์กับเจ้าของที่นาเรียบร้อยแล้ว
“พอได้ยินข่าวผมแทบล้มทั้งยืนเลย ทำไมกฟผ.ถึงป่าเถื่อนกับชาวบ้านได้ขนาดนี้ ทั้งๆ ที่รู้ว่าพวกผมไม่ยินยอมก็บังคับ จะเอาให้ได้ ซึ่งที่ผ่านมา กฟผ.ใช้ทุกวิถีทางเพื่อให้ชาวบ้านยินยอม มีทั้งเอาเงินมาล่อให้ชาวบ้านแตกแยกกัน เอาคนมาข่มขู่ให้ชาวบ้านกลัว ส่วนคราวนี้ลอบกัดข้างหลังกันอย่างดื้อๆ เลย และถ้าผู้มีอำนาจกระทำกับชาวบ้านคนหาเช้ากินค่ำแบบนี้แล้วชาวบ้านจะหวังพึ่งใครได้” นายมนัสกล่าว ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
ด้านพ.ต.ท.สิงหราช แก้วเกิดมี พนักงานสอบสวน ได้กล่าวกับนายมนัสว่า ในเรื่องนี้ตนจะทำหนังสือ เพื่อสอบถามไปยัง กฟผ. ว่าได้สั่งการให้คนเข้ามาดำเนินการตัดต้นไม้ในแปลงนาของนายมนัสจริงหรือไม่ ซึ่งหากพบว่ามีการดำเนินการจริงตนก็จะดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย และก็จะแจ้งความคืบหน้าให้นายมนัสได้ทราบโดยทันที
นายบุญเลี้ยง โยทะกา คณะกรรมการชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบจากแนวสายส่งไฟฟ้าแรงสูง (คชส.) ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ชาวบ้านเคารพกฎหมายมาโดยตลอด แต่กฟผ.เป็นผู้มีหน้าที่ทำตามกฎหมายกลับละเมิดสิทธิชาวบ้าน และทำผิดกฎหมายเสียเอง ซึ่งการแจ้งความของนายมนัสในวันนี้ คชส. ก็คงไม่คาดหวังอะไรมากว่าตำรวจจะสามารถนำตัวผู้กระทำผิด หรือ กฟผ.มาลงโทษได้ แต่ก็ต้องดำเนินการเอาไว้เพื่อให้เป็นอุทาหรณ์
“พวกเรายืนยันด้วยเหตุด้วยผลเสมอมาว่าต้องรอคำพิพากษาของศาลปกครองเสียก่อน ถ้าศาลตัดสินออกมาอย่างไรก็ค่อยมาว่ากัน แต่กฟผ.ไม่เคยฟัง ในกรณีนี้ก็เช่นเดียวกัน ดังนั้น คชส.เห็นว่าระหว่างรอศาล ควรจัดให้มีเวทีการเจรจาระหว่างชาวบ้านกับกฟผ.โดยมีคนกลางเข้ามาร่วมรับฟัง และหาทางออก เพราะถ้าหากปล่อยให้คู่กรณี (ชาวบ้านกับกฟผ.) คุยกันเองไม่มีจุดจบแน่ ซึ่งในขณะนี้ คชส.ก็กำลังประสานงานคณะกรรมการสิทธิ์ฯ (คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ) ให้ช่วยเป็นคนกลาง ” นายบุญเลี้ยงกล่าว
/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/
นายเดชา คำเบ้าเมือง ศูนย์สื่อชุมชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม
ตู้ปณ. 14 อ.เมือง จ.อุดรธานี 41000
โทรศัพท์ : 081-3696266
อีเมล์ : decha_61@yahoo.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น