หากพูดถึงสุเวศน์ ภู่ระหงษ์ นอกจากการเป็นศิลปินพื้นบ้าน, ศิลปินดีเด่นด้านวัฒนธรรม หรือ ศิลปินเพลงเพื่อชีวิตแล้ว ลุงสุเวศน์ยังมีบทบาท ในการทำงานกับชุมชนท้องถิ่น เป็นทั้งประธานสภาวัฒนธรรมของตำบลแสลง อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี, ประธานวิทยุชุมชนของจังหวัดจันทบุรี, เป็นวิทยากรของ ปปส., กองทุนหมู่บ้าน, ฯลฯ ทำโครงการให้กับชุมชนท้องถิ่นมากมาย ได้พบเจอเหตุการณ์หลายอย่างที่จะต้องตัดสินใจ แก้ไขปัญหาในแต่ละเรื่องให้ดีที่สุด และนี่คือ 2 เหตุการณ์ ซึ่งเป็นบทเรียนจากชุมชน เรื่องเล็กๆที่ทำให้เกิดน้ำตา- รอยยิ้ม- ความประทับใจเกิดขึ้น จากการยึดหลักคุณธรรม
ในชุมชนตำบลแสลง มีการตั้งกลุ่มสัจจะออมทรัพย์ ...... มีคนในชุมชนเป็นคณะกรรมการกลุ่ม ตั้งกฎระเบียบไว้ข้อหนึ่งว่า คนที่เป็นสมาชิกกลุ่มสัจจะออมทรัพย์ต้องเป็นสมาชิกเป็นเวลา 6 เดือน จึงมีสิทธิ์กู้เงินได้ มีผู้หญิงคนหนึ่ง กู้-ยืมเงินคนอื่นแล้ว ไม่ยอมใช้เงินคืน คราวนี้มาขอกู้เงินจากกลุ่มสัจจะออมทรัพย์ เงื่อนไขอีกข้อหนึ่งคือ จะต้องหาคนมาค้ำประกันการกู้ ผู้หญิงคนนี้พยายามหาคนมาค้ำประกัน แต่ไม่มีใครยอมช่วย เพราะรู้กันดีว่า ผู้หญิงคนนี้ กู้เงินแล้วไม่ยอมใช้คืน เธอพยายามเดินหาคนค้ำประกันตลอด 6 เดือน แต่ไม่มีใครช่วยเลย
เธอต้องการกู้เงิน 5,000 บาท แต่ไม่มีใครกล้าค้ำประกันให้ เมื่อลุงสุเวศน์ ภู่ระหงษ์ซึ่งติดตามเรื่องนี้มาตลอด ก็คิดจะให้โอกาสกับผู้หญิงคนนี้ เพราะเห็นเธอเดินหาคนค้ำประกันมาตลอด 6 เดือน แต่ถูกปฏิเสธมาตลอด ลุงสุเวศน์จึงตัดสินใจให้เธอกู้ ยอมเป็นคนค้ำประกัน ร่วมกับกรรมการท่านหนึ่ง คิดว่า อย่างน้อยก็เสียเงินคนละ 2,500 บาท จึงตัดสินใจให้กู้
หลังจากกู้เงินไปแล้ว ปรากฏว่าผู้หญิงคนนี้ ไม่เคยเบี้ยวหนี้อีกเลย ไม่เคยเสียประวัติเรื่องการเงินอีกเลย ใช้หนี้ตามที่ตกลงไว้
มีผู้หญิงในชุมชนอีกคนหนึ่ง สมัครเป็นสมาชิกกลุ่มสัจจะออมทรัพย์ ฝากเงินไว้ 4,000 บาท ซึ่งตามระเบียบ ภายใน 6 เดือนห้ามถอนเงิน และกู้เงิน จนกว่าจะครบ 6 เดือน แต่เมื่อเวลาผ่านไปเพียง 1 เดือนเท่านั้น ผู้หญิงคนนี้เสียชีวิต ลูกสาวอายุ 20 ปี ไม่มีเงินซื้อโลงศพ เลยมาขอให้คณะกรรมการกลุ่มสัจจะออมทรัพย์ ขอให้เปลี่ยนชื่อจากชื่อของแม่ เป็นชื่อของลูก เพื่อจะได้ถอนเอาเงินมาซื้อโลงศพ
ตามระเบียบแล้ว ต้อง 6 เดือนจึงมีสิทธิ์กู้-ถอนเงินได้ แค่ 1 เดือนจึงผิดระเบียบ ส่วนในเรื่องการเปลี่ยนชื่อ ยิ่งผิดระเบียบ ทำไม่ได้ แต่ลูกสาวไม่มีเงินจริงๆ ไม่มีเงินซื้อโลงศพ และจัดงานศพให้แม่
ลุงสุเวศน์และคณะกรรมการกลุ่มสัจจะออมทรัพย์ได้ประชุมกัน หลายคนเห็นว่า ลูกสาวอายุ 20 ปี ถ้ากู้เงินไปแล้ว ก็คงไม่มีปัญญาหาเงินมาใช้หนี้ได้ เพราะยังไม่มีงานทำ แล้วจะเป็นการสร้างนิสัยเสียให้กับเด็กอีกด้วย
..แต่เมื่อผู้เป็นแม่เสียชีวิต ..ลูกสาวก็ต้องจัดงานศพให้
ลุงสุเวศน์จึงปรึกษากับคณะกรรมการว่า เอายังงี้ดีไหม ให้เงินเถอะ ถือว่าเป็นการทำบุญ กลุ่มสัจจะออมทรัพย์มีกองทุนที่เป็นสวัสดิการให้สมาชิกที่เสียชีวิตรายละหมื่น แล้วการบริหารกองทุนที่ผ่านมาก็มีผลกำไรมากพอสมควร น่าจะเอากำไรส่วนนี้มาใช้ ให้เป็นเงินทำบุญไปเถอะ ให้เด็กเอาเงินไปซื้อโลงศพ ทำบุญให้แม่....
เมื่อลูกสาวรู้เรื่อง เข้ามาพบลุงสุเวศน์ เธอคลานเข้ามากราบ ร้องไห้ออกมาที่ตรงนั้น ... ซึ่งความจริงแล้ว เป็นเรื่องที่ผิดกฎระเบียบที่ตั้งไว้ แต่ก็ตัดสินใจให้ เพราะคุณธรรมในใจ เหตุการณ์นี้เป็นความประทับใจที่อยู่ในใจของคนในชุมชนมาจนถึงวันนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น