ณุ บูรพา ได้เขียนบทกวี ทองนาค เสวกจินดา มอบแด่นักสู้ผู้จากไป ดังนี้
ทองนาค เสวกจินดา
เมื่อเสียงร้อง คนแผ่นดิน มันฮึดสู้
ประกาศกู้ ดินนำ้ฟ้า เคยอาศัย
ธรรมชาติ กำลัง ถูกทำลาย
ปีศาจร้าย กระพือฟ้า ท้าแผ่นดิน
เพื่อลูกหลาน วันหน้า ได้อาศัย
ขจัดภัย ถ่านหิน ให้สูญสิ้น
ให้มองฟ้า เป็นฟ้า ไม่อายดิน
ให้มองดิน ไม่อายฟ้า ไม่อายใคร
ด้วยมือเปล่า ตีนเปล่า เราก้าวสู้
ต่อศัตรู นายทุน ไม่หวั่นไหว
แล้วปีศาจ ก็ท้ารบ ด้วยปืนไฟ
ยินคนตาย นายทองนาค เสวกจินดา
เขาต่อสู้ เพื่อลูกหลาน และบ้านเกิด
ถิ่นกำเนิด ของสรรพสัตว์ หมู่มัจฉา
เขาต่อสู้ ด้วยสำนึก และศรัทธา
ดินนำ้ฟ้า พึ่งพา อาศัยกัน
เงียบเสียงปืน แต่ไม่เงียบ เสียงกู่ร้อง
ท่วงทำนอง บรรเลง ประสานฝัน
จากหนึ่งศพ ปลุกล้านเสียง เข้าโรมรัน
ท้าทายมัน ทวงนำ้ฟ้า เรากลับคืน
หลับเถิดหลับ ทองนาค เสวกจินดา
หลับเถิด เทวดา ผู้ขำขื่น
เจ้างามแล้ว งามด้วยใจ ผู้หยัดยืน
เจ้าพลิกฟื้น ปลูกสำนึก สมุทรสาคร
ณุ บูรพา
29/07/54
ปมการเสียชีวิตทองนาค เสวกจินดา
นายทองนาค เสวกจินดาเสียชีวิต เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ.2554 ที่โรงพยาบาลมหาชัยเนื่องจากถูกคนร้ายลอบยิงที่บริเวณหน้าบ้านพักตนเอง ตำรวจสัณนิษฐานว่าคนร้ายมีความเป็นมีอาชีพพอสมควรเพราะปืนที่ใช้เป็นรุ่นหายาก มีรายงานว่าเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ.2554 ที่ผ่านมา นายทองนาคไปขึ้นศาลปกครองเพื่อเป็นพยานในการดำเนินคดีกับบริษัทเทคนิคทีม ที่นำถ่านหินเข้ามาในพื้นที่หมู่ที่ 4 ต.ท่าทราย โดยมีคดีความกันมาตั้งแต่ประมาณเดือนกันยายน 2553 หลังกลับจากศาลก็เรียกประชุมแกนนำ โดยนายทองนาคระบุว่ามีคนข่มขู่ให้ระวังตัวให้ดี จึงแจ้งแกนนำทุกคนให้เพิ่มความระมัดระวัง แต่สุดท้ายตัวเองก็ถูกยิง
[แก้] ปฏิกิริยา
หลังเกิดเหตุทาง พล.ต.ท.พงษ์สันต์ เจียมอ่อน ผบช.ภาค 7 ประกาศตั้งรางวัลนำจับคนร้าย 100,000 บาท สำหรับผู้ที่แจ้งเบาะแส หรือสามารถชี้ตัวมือปืนรายนี้จนนำสู่การจับกุมตัวมาดำเนินคดีได้ นายอภิสทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นได้สั่งกำชับให้หาคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว เพราะรัฐไม่ต้องการเห็นการคุกคามเสรีภาพ ในขณะที่ชาวบ้านจังหวัดสมุทรสาครได้ืำการแห่ศพรอบจังหวัดเพื่อเป็นการประณามผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ ส่วนแกนนำที่เหลือยืนยันว่าจะต่อสู้ต่อไป ส่วนประชาชนชาวจังหวัดสมุทรสาครกว่า 500 คนได้นำศพนาย ทองนาค เสวกจินดา แห่รอบจังหวัดเพื่อประณามคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น