วันอาทิตย์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

เพลงธารน้ำใจ - สุรชัย จันทิมาธร อีกหนึ่งกำลังใจแด่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมไทย 2553

            "...ธารน้ำใจ ที่ไหลมา ซับน้ำตาคนบนแผ่นดิน
              ธารน้ำใจที่ไหลริน   เผื่อผืนถิ่นถิ่นนี้งอกงาม.."



            ในเวบ กลุ่มศิลปะ ดนตรี กวีประชาชนแห่งนี้ หลายท่านคงได้คลิกฟังเพลง "ธารน้ำใจ" จากเสียงร้องของคุณไก่ แมลงสาบ ซึ่งบทเพลงนี้ พี่หงา สุรชัย จันทิมาธร ได้ขับร้องในสไตล์ของตัวเองเช่นกัน อยู่ในอัลบั้ม รวมพลคนอาสา ธารรัก ธารน้ำใจ สู่ไทยอันดามัน ชุดที่ 3 ซึ่งเป็นผลงานเพลงที่ทำขึ้นในช่วงเหตุการณ์พิบัติภัย "สึนามิ" ในภาคใต้ เมื่อ 26 ธ.ค.2553




            ในครั้งนั้น เครือข่ายศิลปินเพื่อชีวิต ได้รวมตัวกันจัดมหกรรมดนตรีขึ้น มีศิลปินมาร่วมงานมากมาย และสุรชัย จันทิมาธร เป็นหนึ่งในศิลปินที่มาร่วมงานในครั้งนั้น และได้ขับร้องเพลง "ธารน้ำใจ" ไว้ด้วย




            เมื่อเกิดวิกฤติที่คนไทยต้องพบกับความสูญเสีย ความเดือดร้อนครั้งใด เรามักจะได้ยินเสียงเพลงจากสุรชัย จันทิมาธรแทบทุกครั้ง บทเพลงเก่าของพี่หงา ถูกหยิบมาเผยแพร่อยู่บ่อยๆ และในวิกฤติน้ำท่วมไทย ต.ค.- พ.ย.2553 บทเพลง "ธารน้ำใจ" จากเสียงร้องของ สุรชัย จันทิมาธร ได้ถูกนำมาเผยแพร่ ให้กำลังใจกับคนไทยผู้ประสบภัยกันบ้างแล้ว





รวมข่าว ธารน้ำใจ ช่วยเหลือน้ำท่วมไทย


สมเด็จพระเทพฯ พระราชทานถุงยังชีพ 2,000 ชุด ผู้ประสบภัยภาคใต้
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    6 พฤศจิกายน 2553 17:26 น.


       วันนี้ (6 พ.ย.) สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เจ้าหน้าที่กองราชเลขานุการในพระองค์จัดถุงยังชีพพระราชทาน ประกอบด้วยเครื่องอุปโภคบริโภค และยาสามัญประจำบ้าน จำนวน 2,000 ถุง ส่งผ่านไปให้หน่วยเฉพาะกิจสิรินธรเป็นการเร่งด่วน เพื่อนำไปมอบให้กับผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ที่ความช่วยเหลือยังไปไม่ถึง เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนเฉพาะหน้า

มูลนิธิเพื่อนพึ่ง(ภาฯ)ยามยาก มอบถุงยังชีพผู้ประสบอุทกภัยสงขลา
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    6 พฤศจิกายน 2553 17:51 น.


       ภารกิจเรือหลวงจักรีนฤเบศรในวันนี้ (6 พ.ย.) มีการนำถุงยังชีพของมูลนิธิเพื่อนพึ่ง (ภา) ยามยาก ไปแจกจ่ายให้กับผู้ประสบอุทกภัยใน อ.ระโนด จ.สงขลา และพื้นที่ใกล้เคียง โดยมีชาวบ้านจำนวนมากมารอรับ
           ชาวบ้านกล่าวว่า ยังต้องการน้ำดื่มและอาหารแห้งจำนวนมาก เนื่องจากบางพื้นที่มีระดับน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร ไม่สามารถเดินทางออกมาได้ ขณะที่ พล.ร.อ. ณรงค์ เทศวิศาล ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ กล่าวว่า จากการตรวจสอบ พบบ้านเรือนได้รับความเสียหายจากลมพายุมากเป็นพิเศษ และมีอีกหลายพื้นที่ที่ยังไม่สามารถส่งความช่วยเหลือไปถึงได้




“ในหลวง-พระราชินี” ทรงพระราชทานน้ำดื่มสะอาดให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วมขอนแก่น   
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    5 พฤศจิกายน 2553 15:14 น.


ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ประชาชนชาวขอนแก่น ผู้ประสบภัยน้ำท่วมในหลายพื้นที่ ต่างซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงห่วงใยราษฎรมีพระราชดำรัสให้จังหวัดที่ประสบอุทกภัยดูแลราษฎรไม่ให้ขาดแคลนน้ำสะอาดอุปโภค บริโภค โดยจังหวัดขอนแก่นได้บูรณาการทำงานร่วมกันทุกภาคส่วนปล่อยขบวนรถน้ำพระราชทานทันที
      


      
       วันนี้ (5 พ.ย.) ณ ลานหน้าศาลาผูกเสี่ยว ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น นายสมบัติ ตรีวัฒน์สุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานในพิธี โบกธงปล่อยขบวนรถยนต์บรรทุกน้ำดื่มสะอาด แจกจ่ายแก่ประชาชนผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดขอนแก่นจำนวน 23 คัน ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงห่วงใยราษฎรผู้ประสบอุทกภัยที่ขาดแคลนน้ำดื่มสะอาดบริโภค จึงมีพระราชดำรัสให้จังหวัดที่ประสบอุทกภัยดูแลราษฎร มิให้ขาดแคลนน้ำสะอาดเพื่ออุปโภคบริโภค
      
       โดยในพื้นที่จังหวัดขอนแก่นผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ได้รับใส่เกล้าใส่กระหม่อมปฏิบัติตามพระราชดำรัส โดยบูรณาการทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐและเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มณฑลทหารบกที่ 23 สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมปล่อยแถวขบวนรถบรรทุกน้ำดื่มฯ กระจายไปยังพื้นที่ที่ยังมีน้ำท่วมขัง เช่น บ้านเหล่านกชุม ต.พระลับ บ้านโนนเขวา ตำบลดอนหัน อ.เมือง จ.ขอนแก่น
      
       ทั้งนี้ จังหวัดขอนแก่น ประสบภัยน้ำท่วมต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 18 ตุลาคม จนถึงวันที่ 4 พฤศจิกายนนี้รวมพื้นที่ประสบภัยถึง 20 อำเภอ จากทั้งหมด 26 อำเภอ แยกเป็นจำนวน 126 ตำบล 1,218 หมู่บ้าน มีราษฎรประสบภัยทั้งสิ้น 82,672 ครัวเรือน จำนวน 390,495 คน
      
       พื้นที่การเกษตรเสียหาย 288,067 ไร่ ถนนชำรุดเสียหาย 318 สาย ซึ่งสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดขอนแก่น เกิดจาก 3 สาเหตุหลัก คือน้ำป่าจากเพชรบูรณ์, น้ำหลากมาจากชัยภูมิ และน้ำจากลำน้ำพองเอ่อล้นตลิ่ง
      
       สำหรับพื้นที่เขตอำเภอเมืองขอนแก่น ที่เป็นจุดวิกฤต มี 7 ตำบล ซึ่งยังมีน้ำท่วมขัง โดยระดับน้ำเริ่มลดลงและทรงตัว เฉลี่ย 15-50 ซม.โดยระดับน้ำที่ยังสูงถึง 50 ซม.อยู่ที่ตำบลดอนหัน 6 หมู่บ้าน และตำบลบ้านหว้า 1 หมู่บ้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนและประชาชนชาวขอนแก่น ต่างร่วมใจระดมการช่วยเหลือบรรเทาภัย และส่งถุงยังชีพไปยังชาวบ้านที่ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง
      
       ด้านสำนักงานเกษตรจังหวัดขอนแก่น ทางเจ้าหน้าที่เกษตรจังหวัดและเกษตรอำเภอในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ได้ร่วมใจบรรจุข้าวกล่องหลายพันกล่อง ซึ่งพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ ทรงประทานโรงครัว จากครัวสายใยรักแห่งครอบครัว ประกอบอาหารแจกจ่ายผู้ประสบอุทกภัยในทุกอำเภอที่ประสบภัยในจังหวัดขอนแก่น ตลอดจนให้มีหน่วยแพทย์เคลื่อนที่พระราชทานรักษาผู้เจ็บป่วยจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย



ผู้แทนพระองค์มอบสิ่งของพระราชทานช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม อ.ชนบท
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    4 พฤศจิกายน 2553 16:28 น.


       ศูนย์ข่าวขอนแก่น- ผู้แทนพระองค์มอบสิ่งของพระราชทาน ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในอำเภอชนบท จ.ขอนแก่น ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมแม้ระดับน้ำในลำน้ำพอง-น้ำชี เริ่มทรงตัว แต่มีชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนเฉียด 8 หมื่นครอบครัว พื้นที่เกษตรเสียหายกว่า 4.5 แสนไร่
      
       พล.อ.ต.สรชัย ชีวะกลินรัตนศักดิ์ ผู้อำนวยการกองงานในพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เป็นผู้แทนพระองค์มอบถุงยังชีพพระราชทานสายใยรักแห่งครอบครัว จำนวน 900 ชุด ให้กับผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วม ที่วัด บ.ดอนดู่ ม.9 ต.ศรีบุญเรือง อ.ชนบท จ.ขอนแก่น
      
       พร้อมทั้งมอบเงินพระราชทาน จากกองทุนพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ จำนวน 50,000 บาท สำหรับเป็นทุนจัดตั้งโรงครัวสายใยรัก ในการจัดทำอาหารประกอบเลี้ยงแจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัยในพื้นที่
      
       สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในเขต จ.ขอนแก่น ขณะนี้ถึงแม้ระดับน้ำในลำน้ำพองและแม่น้ำชี จะเริ่มทรงตัว แต่ก็สร้างความเสียหายให้กับประชาชนและพื้นที่ทางการเกษตรได้รับความเสียหาย ครอบคลุม 20 อำเภอ 124 ตำบล 1,191 หมู่บ้าน 78,112 ครัวเรือน ประชาชนได้รับความเดือดร้อนรวม 377,948 คน
      
       ขณะที่พื้นที่ไร่นาและผลผลิตทางการเกษตรเสียหายรวม 450,746 ไร่ โดยที่จังหวัดได้ทำการตั้งศูนย์สำหรับการให้ความช่วยเหลือประชาชนในด้านต่างๆ อย่างเต็มที่


หมอ รพ.หนองคาย นำ “แห่กันหลอน” รับบริจาคช่วยน้ำท่วม
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    4 พฤศจิกายน 2553 15:56 น.

หนองคาย- แพทย์โรงพยาบาลหนองคาย นำคณะแห่กันหลอนรับบริจาคเงินจากญาติผู้ป่วย สมทบทุนมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม
      
       เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (4 พ.ย.) นายแพทย์ อาคม เสือสาวะถี แพทย์หญิง โมฬี นาคสาร ได้นำคณะพยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ ชมรมจริยธรรมโรงพยาบาลหนองคาย แห่กันหลอนไปตามตึกต่างๆ ภายในโรงพยาบาลหนองคาย เพื่อรับบริจาคเงินกับญาติผู้ป่วย เจ้าหน้าที่ และผู้มาติดต่อราชการที่โรงพยาบาลหนองคาย ตามจิตศรัทธา
      
       หลังจากนั้น จะนำเงินที่ได้รับบริจาคทั้งหมดนี้ไปสมทบกับมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย เพื่อนำไปให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนชาวไทยที่ประสบภัยน้ำท่วมในหลายพื้นที่
      
       ขณะนี้แม้ว่าสถานการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัดจะเริ่มคลี่คลายลงบ้างแล้ว แต่เนื่องจากมีผู้ประสบภัยจำนวนมากยังคงต้องการความช่วยเหลือ โดยเฉพาะในด้านปัจจัยพื้นฐานในการฟื้นฟู เยียวยา สภาพจิตใจ ชีวิตความเป็นอยู่ และบ้านเรือน การประกอบอาชีพต่อไป หน่วยงาน หรือประชาชนที่ไม่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยก็พยายามหาหนทางช่วยเหลือ
      
       สำหรับการแห่กันหลอน เป็นประเพณีการรับบริจาคเงินแบบดั้งเดิมของชาวอีสาน ที่ส่วนใหญ่มักจะปฏิบัติกันในช่วงที่ต้องการปัจจัยสมทบทำบุญให้กับวัด แต่ก็สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับกิจกรรมการทำบุญประเภทอื่นได้เช่นเดียวกัน

ชาวนากาฬสินธุ์เฮ รัฐเตรียมจ่ายเงินชดเชยน้ำท่วมนาข้าวไร่ละ 2,098 บาทต่อไร่กว่า 100 ล้านบาท
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    4 พฤศจิกายน 2553 14:41 น.

กาฬสินธุ์ - ชาวนากาฬสินธุ์เฮ รัฐบาลเตรียมจ่ายเงินชดเชยน้ำท่วมนาข้าว 2,098 บาทต่อไร่ เผย พื้นที่กาฬสินธุ์ถูกน้ำท่วมนาข้าวเสียหายไปแล้วกว่า 5 หมื่นไร่ วงเงินช่วยเหลือ 103 ล้านบาท ด้านผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรฯลงพื้นที่ชี้แจงแนวทางช่วยเหลือ ระบุเงินถึงมือชาวกาฬสินธุ์ภายใน 60 วัน ขณะที่ผู้ว่าฯกาฬสินธุ์สั่งทุกภาคส่วนเฝ้าระวังน้ำล้นพนังลำชีไหลเข้าท่วมบ้านและไร่นาของประชาชนอย่างใกล้ชิด
      
       วันนี้ (4 พ.ย.) ที่ศาลาวัดท่ากลาง บ้านท่ากลาง ม.8 ต.เจ้าท่า อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ นายจักรี สุจริตธรรม ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เขต 12 นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจ.กาฬสินธุ์ นายธนูสินธุ์ ไชยสิริ นายอำเภอกมลาไสย พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่พบประประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมนาข้าว เพื่อชี้แจงแนวทางการช่วยเหลือของรัฐบาล พร้อมทั้งเข้าติดตามสถานการณ์น้ำชีที่กำลังล้นพนังกั้นน้ำเข้าท่วมไร่นาของเกษตรกร
      
       นายจักรี สุจริตธรรม ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เขต 12 กล่าวว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัด ทำให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรเป็นกรณีพิเศษเมื่ออังคาร 2 พฤศจิกายนที่ผ่าน โดยมีนโยบายช่วยเหลือเกษตรกรที่นาข้าวถูกน้ำท่วม 2,098 บาทต่อไร่ จากเดิม 606 บาทต่อไร่ พืชไร่ 2,921 บาทต่อไร่ จากเดิม 837 บาทต่อไร่ พืชส่วนและอื่นๆ 4,908 บาทต่อไร่ จากเดิม 912 บาทต่อไร่
      
       ส่วนกรณีไม้ผลยืนต้นที่ไม่เสียหายและสามารถกลับมาออกผลได้ รัฐบาลจะจ่ายชดเชยให้ 2,454 บาทต่อไป บ่อปลา 3,406 บาทต่อไร่ รายละไม่เกิน 5 ไร่ ปลากระชังตารางเมตรละ 257 บาท รายละไม่เกิน 80 ตารางเมตร และกุ้ง ปู หอย 9,098 บาทต่อไร่ รายละไม่เกิน 5 ไร่
      
       นายจักรี กล่าวต่อว่า จากข้อมูลของสำนักงานเกษตรจ.กาฬสินธุ์ มีเกษตรกรที่เดือดร้อนจากปัญหาอุทกภัย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนาข้าวที่ถูกน้ำท่วม ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2553 ทั้งหมด 6,313 ราย นาข้าวถูกน้ำท่วม 48,868 ไร่ วงเงินความช่วยเหลือ 103 ล้านบาท ซึ่งตามมติรัฐมนตรีให้จ่ายเงินชดเชยผ่านธนาคาร ธ.ก.ส.ภายใน 90 วัน แต่ต้องให้ถึงมือเกษตรทุกราย ทั้งนี้ ในส่วน จ.กาฬสินธุ์ จะได้รับเงินชดเชยก่อนพื้นที่อื่น
      
       เนื่องจากทางจังหวัดทำงานรวดเร็ว คาดว่า เกษตรกรน่าจะได้รับเงินชดเชยภายใน 60 วัน ซึ่งนอกจากเงินชดเชยแล้วรัฐบาลยังมีห่วงพี่น้องเกษตรกรที่มีปัญหาหนี้สินที่กู้ยืมเงินมาลงทุน โดยรัฐบาลได้มีนโยบายพักต้น และงดดอกเบี้ยผู้ที่เป็นหนี้ ธ.ก.ส.เป็นระยะเวลา 3 ปีอีกด้วย
      
       นายจักรี กล่าวอีกว่า ส่วนสถานการณ์น้ำในลำน้ำชีในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ขณะนี้ยังคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เนื่องจากปริมาณน้ำที่ไหลมาจากเขื่อนอุบลรัตน์จ.ขอนแก่นและชัยภูมิกำลังไหลมาถึง ซึ่งเท่าที่ตรวจสอบระดับน้ำยังไม่ล้นพนังกั้นน้ำเข้ามา แต่ก็มีนาข้าวบางส่วนที่ถูกน้ำท่วม
      
       โดยทาง นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้สั่งการให้ทุกภาคส่วน ทั้งส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา พร้อมทั้งเตรียมความพร้อมรับมือแล้ว



“องอาจ” ตรวจพื้นที่น้ำท่วมโกสุมพิสัยมอบของช่วยชาวบ้าน
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    4 พฤศจิกายน 2553 14:29 น.

มหาสารคาม- รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจพื้นที่น้ำท่วมและมอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในเขตอำเภอโกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม
      
       นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่บ้านท่างาม หมู่ 14 และบ้านหนองบัวเรียน หมู่ 8 ต.ยางท่าแจ้ง อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม เพื่อตรวจพื้นที่น้ำท่วมและมอบถุงยังชีพเพื่อช่วยเหลือราษฎรผู้ประสบอุทกภัยจำนวน 170 ชุด
      
       โดยปริมาณน้ำชีจากจังหวัดชัยภูมิ และน้ำพองจากเขื่อนอุบลรัตน์ได้ไหลมารวมตัวกัน ณ ฝายมหาสารคาม บ้านคุยเชือก ตำบลหนองบัว ส่งผลให้ระดับน้ำชีสูงขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุด ระดับน้ำได้เซาะแนวกระสอบทรายที่กั้นแม่ชีพังทลาย ส่งผลให้ปริมาณน้ำจำนวนมหาศาล ไหลเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร และบ้านเรือนราษฎรที่อยู่ติดริมฝั่งแม่น้ำชี
      
       โดยพื้นที่อำเภอโกสุมพิสัยได้รับผลกระทบจำนวน 12 ตำบล 97 หมู่บ้าน ผู้ประสบภัย 30,226 รวม 7,321 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย 54,350 ไร่ บ้านเรือนถูกน้ำท่วม 145 หลัง วัด 3 แห่ง และโรงเรียน 2 แห่ง


“เขยฝรั่ง” เมืองช้างน้ำใจงาม พายเรือช่วยชาวนาเก็บเกี่ยวข้าวจมใต้น้ำ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    3 พฤศจิกายน 2553 16:32 น.


สุรินทร์- “ลูกเขยฝรั่ง” เมืองช้าง น้ำใจงาม พายเรือช่วยชาวนาเก็บเกี่ยวข้าวจมใต้น้ำ โดยไม่คิดค่าแรงใดๆ เผย 3 อำเภอริมแม่น้ำมูล “ชุมพลบุรี-ท่าตูม-รัตนบุรี” จ.สุรินทร์ บ้านเรือน นาข้าว จมบาดาลมานานกว่า 1 สัปดาห์ เดือดร้อนหนัก คาดอีกไม่ต่ำกว่า 1 สัปดาห์ ถึงจะเข้าสู่ภาวะปกติ
      
       วันนี้ (3 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุรินทร์รายงานถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ จ.สุรินทร์ ล่าสุด วันนี้ ระดับน้ำแม่น้ำมูลยังท่วมขยายวงกว้างขึ้นอย่างต่อเนื่องใน อ.ชุมพลบุรี อ.ท่าตูม และ อ.รัตนบุรี และน้ำเหนือที่ไหลจากโคราชได้เริ่มผ่านเขต จ.สุรินทร์ ไปยัง อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ บางส่วนแล้ว แต่ยังเหลือปลายมวลน้ำที่ยังหนุนเอ่อท่วมในพื้นที่เขต 3 อำเภอดังกล่าว ซึ่งคาดว่า ระดับน้ำจะทรงตัวใน 2-3 วันนี้และทยอยลดระดับลง โดยจะใช้เวลาอีกไม่ต่ำกว่า 1 สัปดาห์ถึงจะเข้าสู่ภาวะปกติ
      
       สำหรับนาข้าวหอมมะลิเกือบ 1 แสนไร่ในพื้นที่ 3 อำเภอ ซึ่งถูกแม่น้ำมูลเอ่อเข้าท่วมมานานกว่า 1 สัปดาห์ นั้นกว่าน้ำจะลดลงเข้าสู่ภาวะปกติข้าวที่ออกรวงใกล้เก็บเกี่ยวจะได้รับความเสียเป็นอย่างมากแน่นอน ขณะที่ในหลายพื้นที่เกษตรกรจำนวนมากยังคงพากันพยายามลุยน้ำลอยคอเก็บเกี่ยวข้าวในนาที่จมอยู่ใต้น้ำเท่าที่จะทำได้
      
       โดยเฉพาะในพื้นที่ ต.ชุมพลบุรี อ.ชุมพลบุรี ซึ่งนาข้าวติดแม่น้ำมูลถูกน้ำท่วมมานานกว่า 1 สัปดาห์ เกษตรกรยังคงระดมว่าจ้างแรงงานชาวบ้านวันละ 200 บาท มาช่วยกันลุยน้ำลอยคอเก็บเกี่ยวข้าวอย่างโกลาหล โดยนำเรือพายมาขนรวงข้าวจากกลางทุ่งนาที่มีน้ำท่วมสูง กว่า 1 เมตร ขึ้นไปมาตากแดดบนถนน
      
       ในจำนวนนี้ผู้สื่อข่าว พบว่า มีชาวต่างชาติ คือ นายเอสวิ่ง โคสเตอร์ อายุ 40 ปี ซึ่งแต่งงานกับภรรยาชาวตำบลชุมพลบุรี อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ ได้มาพายเรือช่วยเหลือเกษตรกรขนรวงข้าวที่เกี่ยวขึ้นมาจากใต้น้ำนำไปตากแดดบนถนนอย่างขะมักเขม้น โดยไม่คิดค่าแรงแต่อย่างใด
      
       นายเอสวิ่ง โคสเตอร์ อายุ 40 ปี ชาวฮอลแลนด์ เปิดเผยว่า ได้แต่งงานอยู่กินกับภรรยาชาวชุมพลบุรีเป็นลูกเขยชาวสุรินทร์มานานกว่า 3 ปีแล้ว และเห็นว่าชาวนาไทยกำลังทุกข์ยากลำบากจากน้ำท่วมนาข้าวเป็นจำนวนมาก จึงอาสามาช่วยโดยไม่คิดค่าแรงใดๆ ถือว่าเป็นงานที่สนุกดีเพราะตนชอบพายเรืออยู่แล้ว
      
       ทั้งนี้ จ.สุรินทร์ ประสบอุทกภัยจากแม่น้ำมูลเอ่อเข้าท่วมบ้านเรือและพื้นที่การเกษตรอย่างหนักจำนวน 3 อำเภอ ประกอบด้วย อ.ชุมพลบุรี น้ำท่วม 9 ตำบล 62 หมู่บ้าน ประชาชนเดือดร้อน 33,239 คน รวม 8,569 ครัวเรือน พื้นที่นาข้าวเสียหายประมาณ 30,150 ไร่ , อ.ท่าตูม น้ำท่วม 9 ตำบล ประชาชนเดือดร้อน 3,5000 คน นาข้าวเสียหาย 35,000 ไร่ , อ.รัตนบุรี น้ำท่วม 6 ตำบล ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 23,000 คน นาข้าวเสียหาย 7,500 ไร่


โคราชระดมล้างใหญ่ “รพ.มหาราช” - รวมน้ำท่วมสูญ 2.2 พันล้าน สังเวย 22 ศพ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    2 พฤศจิกายน 2553 18:37 น.


ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - โคราชรวมพลังล้างทำความสะอาดครั้งใหญ่ รพ.มหาราชนครราชสีมา หลังถูกน้ำท่วมหนักนานกว่า 10 วัน เพื่อชำระล้างสิ่งสกปรก ป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคที่มากับน้ำ ขณะ รพ.เปิดให้บริการได้เต็มรูปแบบแล้ว มีเพียงโรงซักรีดที่เสียหายหนัก ยังใช้การไม่ได้ ต้องส่งเสื้อผ้าผู้ป่วยซักภายนอก ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมล่าสุดบางส่วนใน 9 อำเภอ ยังท่วมสูง พื้นที่เกษตรเสียหายกว่า 1.7 ล้านไร่ เสียชีวิต 22 ราย รวมสูญกว่า 2,200 ล้าน
      
       วันนี้ (2 พ.ย.) ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา เจ้าหน้าที่จากเทศบาลนครนครราชสีมา ร่วมกับ กำลังทหาร จากกองพันทหารช่างที่ 202 และ มณฑลทหารบกที่ 21 กองทัพภาคที่ 2 กองบิน 1 พร้อมคณะผู้บริหาร และ เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา กว่า 400 คน ช่วยกันล้างทำความสะอาดครั้งใหญ่ (BIG CLEANING DAY) ภายในพื้นที่บริเวณโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา หลังถูกน้ำจากลำน้ำลำตะคองไหลเข้าท่วมครั้งใหญ่ระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร ตั้งแต่วันที่ 17 ต.ค.และกลับเข้าสู่ภาวะปกติ เมื่อวันที่ 27 ต.ค.ที่ผ่านมา
      
       โดยมีรถบรรทุกน้ำ และรถดับเพลิงจากทางเทศบาลนครนครราชสีมา กองทัพภาคที่ 2 และกองบิน 1 จำนวน 10 คัน ได้ระดมฉีดน้ำชำระล้างสิ่งสกปรกก่อนที่เจ้าหน้าที่จะใช้ไม้กวาด และแปรงขัดถูทำความสะอาดสถานที่โดยรอบโรงพยาบาลทุกจุด เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคที่มากับน้ำ
      
       สำหรับการให้บริการผู้ป่วยของโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ขณะนี้สามารถเปิดให้บริการได้เต็มรูปแบบแล้ว มีเพียงอาคารซักรีด ที่ถูกน้ำท่วมเสียหายหนัก ยังคงไม่สามารถใช้การได้ โดยทางโรงพยาบาล ต้องนำเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มของผู้ป่วย ส่งซักภายนอก
      
       ด้าน ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยจังหวัดนครราชสีมา สรุปสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ล่าสุดวันนี้ (2 พ.ย.) ว่า โดยภาพรวมในหลายอำเภอได้กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้วและอยู่ระหว่างการฟื้นฟู แต่ยังมีน้ำท่วมขังในบางพื้นที่ของ 9 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เมืองนครราชสีมา เช่น ต.จอหอ บ้านเกาะ ต.บ้านเกาะ และ ต.หมื่นไวย, อ.พิมาย ใน ต.กระชอน น้ำสูงประมาณ 1 เมตร, อ.ชุมพวง น้ำสูงประมาณ 80 ซม.ใน ต.ดอนลำดวน และ ต.บ้านยาง, อ.โนนสูง ระดับน้ำประมาณ 20 ซม.
      
       อ.คง ระดับน้ำอยู่ที่ 50 ซม.ใน ต.ตาจั่น และ ต.เทพาลัย, อ.ประทาย ระดับน้ำสูงประมาณ 90 ซม.ใน ต.ทุ่งสว่าง,ต.นางรำ, ต.ดอนมัน, ต.โคกกลาง และ ต.ตลาดไทร, อ.แก้งสนามนาง ระดับน้ำประมาณ 20 ซม., อ.เฉลิมพระเกียรติ ระดับน้ำอยู่ที่ 50 ซม., อ.ลำทะเมนชัย ระดับน้ำสูงประมาณ 1 เมตร และ อ.เมืองยาง ระดับน้ำประมาณ 40 ซม.ใน ต.เมืองยาง
      
       ทั้งนี้ จ.นครราชสีมา มีพื้นที่ประสบอุทกภัยทั้งสิ้น 32 อำเภอ 278 ตำบล 3,046 หมู่บ้าน 36 ชุมชน คิดเป็น 83% ของพื้นที่เขตการปกครองจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งมีทั้งหมด 32 อำเภอ 287 ตำบล 3,743 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับความเดือดร้อนกว่า 1.2 ล้านคน คิดเป็น 48% ของประชากร เสียชีวิต 22 คน พื้นที่การเกษตรเสียหายกว่า 1.7 ล้านไร่ คิดเป็น 20% ของพื้นที่การเกษตร มูลค่าความเสียหายล่าสุดรวมกว่า 2,200 ล้านบาท



มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯมอบถุงยังชีพช่วยราษฎรน้ำท่วมศรีสะเกษ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    2 พฤศจิกายน 2553 13:42 น.


       ศรีสะเกษ - มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ประจำจังหวัดศรีสะเกษ มอบถุงยังชีพและสิ่งของ ช่วยเหลือราษฎรผู้ประภัยน้ำท่วม 200 ราย ในเขตพื้นที่ 11 หมู่บ้าน อ.ศิลาลาด ขณะน้ำมูลเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ลุ่ม 2 ฟากฝั่งใน 6 อำเภอ
      
       วันนี้ (2 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ว่าการอำเภอศิลาลาด จ.ศรีสะเกษ นายประวัติ รัฐิรมย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ และคณะกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ประจำจังหวัดศรีสะเกษ ได้ร่วมกันมอบถุงยังชีพและสิ่งของช่วยเหลือราษฎรประสบภัยน้ำท่วม ในพื้นที่ ต.กุง อ.ศิลาลาด จำนวน 11 หมู่บ้าน จำนวน 200 ราย ซึ่งถูกลำห้วยเสียว ลำน้ำสาขาของแม่น้ำมูล เอ่อล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย
      
       นายประวัติ รัฐิรมย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมโดยรวมในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ล่าสุด วันนี้ (2 พ.ย.) วัดระดับน้ำมูลที่สถานีวัดน้ำ ฝายราษีไศล เอ็ม 5 มีระดับน้ำ 118.97 เมตร รทก. เพิ่มสูงขึ้นจากเมื่อวานนี้ (1 พ.ย.) 19 เซนติเมตร (ซม.) เป็นระดับน้ำในสัดส่วนที่เพิ่มสูงขึ้น
      
       โดยปริมาณน้ำมูลที่ไหลมาจาก จ.นครราชสีมา ได้ล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ราบลุ่ม 2 ฝั่ง ในเขตพื้นที่เสี่ยง 6 อำเภอ ได้แก่ อ.บึงบูรณ์ ,อ.ศิลาลาด ,อ.ราษีไศล ,อ.ยางชุมน้อย ,อ. กันทรารมย์ และ อ.เมืองศรีสะเกษ ซึ่งประเมินว่าในวันนี้ปริมาณน้ำสูงสุดได้ไหลมาถึงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ แล้ว จึงขอให้เกษตรกรที่มีพื้นที่ทำนาในบริเวณลุ่มน้ำได้เร่งเก็บเกี่ยวข้าว เพื่อลดความเสียหายจากภาวะน้ำท่วมในครั้งนี้


“ในหลวง-ราชินี” พระราชทานทรัพย์ช่วยเหลือราษฎรประสบอุทกภัยอีสาน
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    31 ตุลาคม 2553 19:24 น.


ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- “ ในหลวง-ราชินี” พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ 1 ล้านบาท ช่วยเหลือราษฎรผู้ประสบอุทกภัย 3 จังหวัดอีสาน ชาวโคราชสุดปลาบปลื้มในพระมหากรุณาธิคุณของทั้ง 2 พระองค์ ด้าน มทภ. 2 เผยมวลน้ำก้อนใหญ่จากโคราชไหลถึงสุรินทร์แล้วและกำลังเข้าท่วมพื้นที่เกษตร- บ้านเรือน ปชช. คาดถึงอุบลฯ 6 พ.ย.นี้ ย้ำรับมือไหว เชื่อไม่ส่งกระทบมากนัก เหตุแม่น้ำโขงต่ำกว่า ชี-มูล ง่ายต่อการระบาย
      
       วันนี้ (31 ต.ค.) เมื่อเวลา 16.00 น. ที่บริเวณลานข้างอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) ถ.ราชดำเนิน อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) เป็นประธานพิธีมอบสิ่งของพระราชทาน เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย พร้อมมอบถุงยังชีพของกองทัพบกให้แก่ประชาชนชาว จ.นครราชสีมา ที่ประสบปัญหาน้ำท่วมครั้งใหญ่เป็นประวัติการณ์
      
       พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า กองทัพภาคที่ 2 ได้รับแจ้งจากสำนักพระราชวังว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์จำนวน 1,000,000 บาท ให้กองทัพภาคที่ 2 จัดหาสิ่งขอพระราชทานให้แก่ประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ จ.นครราชสีมา , จ.บุรีรัมย์ และ จ.ชัยภูมิ
      
       ฉะนั้นเพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามพระราชประสงค์ กองทัพภาคที่ 2 จึงได้จัดพิธีพระราชทานสิ่งของแก่ผู้ประสบอุทกภัย ซึ่งประชาชนผู้ประสบภัยชาวจังหวัดนครราชสีมาที่ได้รับพระราชทานสิ่งของในครั้งนี้ ต่างซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณที่ทั้ง 2 พระองค์ทรงห่วงใยราษฎร และ ปลาบปลื้มปิติเป็นอย่างยิ่ง
      
       พล.ท.ธวัชชัย กล่วต่อว่า ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคอีสานนั้น ล่าสุดมวลน้ำก้อนใหญ่ที่ไหลจาก จ.นครราชสีมา ตามแม่น้ำมูลได้ไหลไปถึงจ.สุรินทร์ และกำลังท่วมพื้นที่ทางการเกษตรและบ้านเรือราษฎร โดยเฉพาะ ใน อ.ชุมพลบุรี และ อ.ท่าตูม สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในจ.นครราชสีมา โดยรวมกลับเข้าสู่ภาวะปกติเกือบทั้งหมดแล้ว มีเพียงอำเภอที่อยู่ปลายน้ำเช่น อ.ประทาย ,ลำทะเมนชัย และ อ.เมืองยาง ยังมีน้ำท่วมอยู่ แต่มีแนวโน้มลดระดับลงอย่างต่อเนื่อง ส่วน จ.ชัยภูมิ เข้าสู่ภาวะปกติและอยู่ระหว่างการฟื้นฟู
      
       สำหรับ จ.ขอนแก่น ปริมาณน้ำยังท่วมสูงในหลายพื้นที่ของ อ.บ้านแฮด และ อ.เมือง ส่วนที่ อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และจะส่งผลกระทบต่อ อ.เมืองในอีก 1-2 วันนี้ ด้าน จ.บุรีรัมย์ ระดับน้ำในพื้นที่ 4 อำเภอ คือ อ.พุทไธสง, คูเมือง, แคนดง และ อ.สตึก ยังท่วมสูงมีแนวโน้มลดลงอย่างช้า ๆ
      
       ขณะที่ จ.อุบลราชธานี ระดับน้ำในลำน้ำชีลดลงประมาณ 1 ซม. ส่วนน้ำในลำน้ำมูล ลดลงประมาณ 6 ซม. ซึ่งเจ้าหน้าที่ของกรมชลประทานใช้เครื่องสูบน้ำเร่งระดมสูบน้ำเพื่อรองรับมวลก้อนน้ำขนาดใหญ่ที่จะเดินทางมาถึงในวันที่ 6 พ.ย.นี้ คาดว่าจะไม่สร้างความเสียหายมากนัก อาจท่วมในพื้นที่ที่เคยเกิดน้ำท่วมซ้ำซากเท่านั้น เนื่องจากระดับน้ำของแม่น้ำโขงต่ำกว่าแม่น้ำมูลและแม่น้ำชีประมาณ 7 เมตร และน้ำจากลำน้ำทั้ง 2 จะไหลไปถึงแม่น้ำโขงไม่พร้อมกัน ฉะนั้นจึงง่ายต่อการระบายน้ำ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

สุเวศน์ ภู่ระหงษ์ ศิลปินประชาชน

เรื่องที่น่าสนใจของกลุ่มศิลปะ ดนตรี กวีประชาชน

ความเห็นต่อ กลุ่มศิลปะ ดนตรี กวีประชาชน