บลูส์แมนที่ทุ่งวัวแล่น : เพลงทำมือของคนตาปรือ
พืช สะพาน
กล่องพัสดุ ขนาดย่อมส่งถึงผมผู้เป็นผู้รับ เมื่อวันทำงานสุดท้ายของสัปดาห์ก่อนโน้น ภายในเป็นแผ่นซีดีเพลง ชุด บลูส์แมนที่ทุ่งวัวแล่น Blues Man at Thung Wua Lan โดยสุเมธ สะพาน จำนวน ๙ แผ่น บรรจุในกล่องแพ็คเก็จขนาดดีวีดี ปกเป็นกระดาษสีเหลือง และสีชมพู คละกัน ภาพประกอบปก เป็นฝีมือสเก็ตซ์ของเจ้าของผลงานเพลง ชื่อภาพเช่นเดียวกับชื่อชุด แต่ ไม่มีเพลงใดในชุด ชื่อเดียวกับชื่อภาพ และชื่อชุด... หน้าปก ยังติดแผ่นสติกเกอร์วงกลมเล็กๆสีขาวเขียนด้วยลายมือ ว่า Hand Made ราวจะย้ำว่า “นี่คืองาน ทำมือจริงๆนะ...”
“บลูส์แมนที่ทุ่งวัวแล่น” คืองานเพลงทำมือ ที่เป็นงานเดี่ยวชุดแรกของสุเมธ สอดจิตต์ (ครูเมธ สะพาน) หนึ่งในสมาชิกวงดนตรีเพื่อชีวิตปักษ์ใต้ “สะพาน” ที่ยังมีเรี่ยวแรงทำงานเพลงแบบเหลือเฟือ และเป็นงานเพลงที่ได้รับอนุมัติจากผม ซึ่งผู้ร่วมวงให้ทำงานเพลงเดี่ยวได้ โดย ไม่พักต้องแยกวง ครูเมธ เพื่อนผมจึงฉลองเสียเต็มคราบ ด้วยการทุ่มเททำเพลงชุดนี้ที่ ห้องข้าวเร็คคอร์ด บ้านปากนคร จังหวัดนครศรีธรรมราช ในสตูดิโอแบบส่วนตัว ด้วยอารมณ์และฝีมือแบบส่วนตัว และแบบเหมารวม ทั้งการ แต่งเพลง เรียบเรียงดนตรี เล่นกีต้าร์นานาชนิด ทั้ง โปร่ง ไฟฟ้า สายเอ็น สิบสองสาย เล่นคีย์บอร์ด เบสกีต้าร์ เพอร์คัสชั่น ร้องนำ ร้องประสาน ชนิดที่ว่าพึ่งตนเองให้มากที่สุด พึ่งฝีมือพรรคพวก เพียงแค่มาสร้างเสริมเติมสีสันบางส่วนในเพลงเท่านั้น เพื่อสร้างน้ำเสียงของงานเพลงที่เป็นเฉพาะตัว แบบที่มีลายเซ็น ครูเมธ สะพานชัดเจน ดังที่เจ้าตัวถึงกับแปะโป้ง ลายพิมพ์หัวแม่มือ พร้อมเขียนโค๊ดหมายเลขประจำแผ่นซีดี ไว้ทุกแผ่น ทุกแผ่นที่เจ้าตัวลงทุนไรท์แผ่นเองอย่างพิถีพิถัน แผ่นต่อแผ่น ทำปก บรรจุกล่อง พร้อมจัดส่ง ทำประชาสัมพันธ์เอง ยืนยันว่า นี่คืองานทำมือ ที่เอาลายนิ้วมือศิลปินเป็นประกัน
เนื่องจากครูเมธ เป็นเพื่อนรักของผม ดังนั้น ที่ผมจะบอกเล่าต่อจากนี้ไป จึงมิใช่บทวิจารณ์เพลง หากเป็นการแนะนำงานเพลง หรือถ้าจะพูดว่า เป็นการเชียร์เพลง ก็ย่อมได้ เพราะคงไม่ผิดหากเพื่อนจะเชียร์เพื่อน เพราะผมคงจะบอกใครๆได้อย่างเต็มปาก หลังจากฟังงานเพลงชุดนี้จบว่า “ครูเมธเพื่อนพ้ม....”
เมื่อเครื่องเล่นซีดี กลืนกิน และโลมเลียแผ่นไปทีละแทร็ก เปิดหัวด้วย เสียงกระดึงวัว เป็นแว่บแรก ที่ทำให้ผมนึกถึงความสอดคล้องกับชื่อชุด “บลูส์แมนที่ทุ่งวัวแล่น” แต่ทว่า หากหมายถึงสถานที่ “ทุ่งวัวแล่น” คือ พื้นที่ชายหาดแถวแห่งหนึ่งของจังหวัดชุมพร บรรดาปิยมิตรของเพื่อนนักเขียนรางวัลซีไรต์ผู้ล่วงลับ “กนกพงศ์ สงสมพันธ์” คงรู้ดีว่า ทุ่งวัวแล่นเป็นที่ที่ดีอีกแห่ง ที่นักเขียนหนุ่มไปใช้ชีวิตอยู่ช่วงหนึ่ง ในการสร้างสรรค์งานเขียน แล้วเพลง “เส้นทางสายตาปรือ” ก็ขับขานบรรเลงออกมา ลีลาเพลงชวนโยกตัวหรือจะโงนเงนก็ว่าได้ ท่วงทำนองเนื้อเพลงสวยงามตามแบบฉบับครูเมธ ผมพลันนึกภาพเพื่อนๆ ผู้มีสายตาปรือทั้งหลาย ไม่ว่าจะปรือด้วยอารมณ์ประมาณไหน อารมณ์ฝัน อารมณ์เมา อารมณ์รัก ฯลฯ คนตาปรือส่วนใหญ่ จะเป็นผู้เห็นโลกงาม ถึงคนภายนอกจะมองเป็นผู้ที่ยากต่อการเข้าถึง แต่คนตาปรือทั้งหลายก็เป็นผู้ไม่อันตราย ไม่เหมือน “คนตาล่อ”(คนเห็นแก่ได้ คิดแต่จะเอา) ทั้งหลายที่มีอยู่ทั่วสังคม...เพลงนี้ครูเมธ เขียนในช่วงเวลาตีสอง เมื่อปลายปี ๒๕๕๐ ที่ร้านบ้านพระจันทร์เรืองฤทธิ์ นครศรีธรรมราช ดูจากเวลา และสถานที่แล้ว น่าจะเป็นห้วงเวลาที่ครูเมธและผู้อยู่แวดล้อม(ถ้ามี) “ปรือกันได้ทีแล้ว....”
เพลงชายติดเกาะ ,จิ๊กโก๋โบราณ, มือกีต้าร์พ่อลูกอ่อน และฝากฟ้า ล้วนแล้วเป็นเพลงที่สะท้อน ว่า ตัวตนแท้จริงครูเมธ เป็นคนโรแมนติกร้ายกาจ แต่พอถึงคราวจะเอาจริงกับเรื่องราวทางสังคม ท่านก็สุดแสนจะซีเรียส นั่นจะว่ากันอีกโสตหนึ่ง ทุกเพลงเรียบเรียงดนตรีประณีต สมดีกรีปริญญาโททางดนตรี ที่มีวิทยานิพนธ์หนากว่าดานเฉียง(เขียง) สับดูกวัว ถ้าใครชอบเพลงภาษาสวยๆในเชิงกวี ดนตรีที่มีชั้นเชิงก็เข้าทาง โดยเฉพาะเพลง “ชายติดเกาะ” เพลงนี้โคตรจะโรแมนติก สำหรับผู้ที่จะหลีกลี้หนีไกลผู้ไกลคนไปติดเกาะกับใครสักคน ภาษากวีที่ครูเมธใช้ ไม่ใช่ แค่เป็นเกาะกลางทะเล หรือเกาะกลางถนน แต่เป็น เกาะกลางใจที่ผูกพัน... เพลง”จิ๊กโก๋โบราณ” ถ้าใครฟังเผินๆ ไม่ช่ำชองภาษาสำเนียงใต้ อาจเผลอไผลว่าเป็นเพลงภาษาต่างประเทศ ครูเมธสอดใส่อารมณ์แบบจิ๊กโก๋รุ่นใหญ่ได้ที่ทีเดียว เพียงแต่ผมไม่แน่ใจว่าเด็กรุ่นใหม่ จะรู้จักคำว่าจิ๊กโก๋กันหรือไม่...ต้องลองฟังกัน เพลง “มือกีต้าร์พ่อลูกอ่อน” ออกไปในทางบัลลาดเศร้าลึกๆ สะท้อนชีวิต นักดนตรีกลางคืน และเพลง “ฝากฟ้า” เขียนตั้งต้นโดยสมาชิกสะพานเพลงออนไลน์ คุณเอ๊ะ ศุภวรรณ จากเมืองขอนแก่น ครูเมธสามารถทำให้ท่วงทำนองไม่ออกมาโหลๆแต่ก็ไม่ฟังยากจนเกินไป พร้อมเสียงนักร้อง คุณกุ้ง พิมพ์นิยม ก็ทำให้เพลงน่าสนใจขึ้นมามาก
เพลง “โลมาสีชมพู” เป็นเพลง เชิงอนุรักษ์ ที่มีลักษณะเฉพาะถิ่น และต่อต้านโรงงานนิวเคลียร์ ที่อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช นี่เป็นอีกโสตหนึ่งในทางเพลงของครูเมธ ที่ผมว่า เพียงว่าเพลงแนวต่อต้านของครูเมธ มีทิศทางที่นิ่มนวลแต่หนักแน่นขึ้น ตามวัย ตามวุฒิภาวะ
เพลง “มิตรภาพยาวไกล” สำหรับความรักต่อเพื่อน ตามประสาคนรักเพื่อนอย่างครูเมธ เพลงนี้ น่าจะเป็นเพลงมาร์ช คนรักเพื่อนได้ จะ ใช้ร้องในงานรวมรุ่น ก็น่าได้ ถ้าเมาๆกอดคอร้องคลอกัน น่าเป็นภาพที่อบอุ่นประทับใจ
ส่วนเพลงบรรเลงอีก ๔ เพลง มีทั้ง Song of the Sky , Give Her Time to be Free Salween : River of Soul, Andaman Memory 2010 ผมไม่ขอกล่าวถึง ไว้ให้ไปฟังกันเอาเองจะดีกว่า ท้าทายกว่า
“บลูส์แมนที่ทุ่งวัวแล่น” มีจำนวน ๑๑ เพลง เป็นเพลงแบบบรรเลง ๔ เพลง และทุกเพลงที่เป็นเพลงบรรเลง จะตั้งชื่อเพลงเป็นภาษาอังกฤษ ถ้าว่าไปแล้ว คงเจตนา “ขายหรั่ง”หรือเพื่อการสื่อสารทางดนตรีกับชาวต่างประเทศ เพื่อให้ “หรั่งฟังได้” นอกนั้นเพลงที่เป็นเสียงร้องโดยรวมๆ อยู่ในโทนเพลงรักโรแมนติก ผนวกอารมณ์ฝันๆ เป็นเสียงร้องของ กุ้ง พิมพ์นิยมเสียสองเพลง และที่เป็นเสียงร้องของครูเมธจริงๆ เพียงแค่ ๕ เพลง เท่านั้น ถือว่า เป็นการวางสัดส่วนเพลงอย่างชาญฉลาด ด้วยครูเมธ คงรู้ตัวดีว่า เสียงร้องของตัวเอง ไม่แข็งแรงพอ ที่จะเอาเพลงทั้งชุดอยู่ เพราะเป็นนักเขียน นักคิด นักดนตรี มากกว่าความเป็นนักร้อง งานชุดนี้ จึงมีภาคดนตรี ที่แข็งแรง กว่าภาคเสียงร้อง หากคุณคิดที่จะรื่นรมย์กับดนตรีสดๆ ดิบๆ ที่ใช้กลองสด และเสียงกีต้าร์สดหลากหลายชนิด ยี่ห้อ ที่ครูเมธประดังบันทึกบรรจุ คุณไม่บังควรพลาดงานชุดนี้...
พืช สะพาน
ที่มา http://www.sapanpleang.com/forum/index.php/topic,527.0/prev_next,next.html#new
ด้านในเพ็กเก็จ มีแผ่นซีดีเพลง กับ Songs & Photos Book ฉบับทำมือ.
บลูส์แมนที่ทุ่งวัวแล่น..
ความหมายก็คือ ไอ้บ่าวนั่นเศร้ามาก เลยเดินไปเล่นกีตาร์อยู่กลางทุ่ง จนวัวฝูงต้องวิ่งหนี..
สังเกตุให้ดี จะเห็นลายแปะโป้ง.. หัวแม้มือขวา... ที่ใช้เล่นกีตาร์ของไอ้บ่าวนั่นด้วยนะครับ
มีลายเซ็นเล็กๆ พร้อมรันนิ่งนัมเบอร์ ขำๆ ไว้ด้วยสิ
ปกหลังซีดี บลูส์แมน..
มาแล้วครับพี่น้อง...
สดๆ ร้อนๆ จากห้องข้าวเร็คคอร์ด บ้านปากนคร.. นครศรีธรรมราช...
สั่งซื้อที่ http://www.sapanpleang.com
ค่าcd+ค่าจัดส่ง 150 บาท
เส้นทางสายตาปรือ
สุเมธ สะพาน
บลูส์แมนที่ทุ่งวัวแล่น
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น