วันจันทร์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2554

เชิญพ่อแม่พี่น้องผู้มีหัวใจรักชาติไปพบกันที่ตลาดโรงเกลือ+ ข่าวความเคลื่อนไหว เขจรจับ 7 คนไทย

ขอเชิญพ่อแม่พี่น้องผู้มีหัวใจรักชาติไปพบกันที่ตลาดโรงเกลือมีเวทีของเครือข่ายประชาชนคนไทยหัวใจรักชาติตั้งอยู่ที่นั่นเพื่อขับเคลื่อนให้กับคนไทยทั้ง7คนที่ถูกจับอยู่ในเขมร..พวกเราจะไปรออยู่ที่นั่น..ไปกันให้มากๆนะพี่น้อง.....Kunpra


ข่าวจาก www.15thmove.net/
ฟิฟทีนมูฟ – เมื่อเวลา ๑๑.๐๐ น. วันที่ ๒ มกราคม ๒๕๕๔ คนไทยหลายกลุ่มซึ่งเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการเสียอธิปไตยแตามแนวชายแดนด้าน ประเทศกัมพูชา ในนาม “กลุ่มประชาชนไทยหัวใจรักชาติ” ซึ่งมีตัวแทนจากองค์กรภาคประชาชน ตัวแทนจากภาคต่าง ๆ ร่วมแถลงข่าวเพื่อเปิดเผยข้อเท็จจริงเกี่ยวกับพื้นที่ซึ่งคนไทยทั้ง ๗ คนถูกกุมตัวโดยทหารเขมร แจ้งกำหนดการเคลื่อนไหว ซึ่งนัดหมายเดินทางไปยังพื้นที่ในจังหวัดสระแก้ว

การแถลงข่าวนำโดยคุณไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ม.ล.วัลย์วิภา จรูญโรจน์ คุณการุณ ไสยงาม และตัวแทนจากภาคต่าง ๆ รวมถึงคนไทยที่เคยถูกจับกุมตัวเมื่อคราวที่แล้วและกรณีล่าสุด

จากการออกมายอมรับของรัฐบาลและเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศที่ ระบุว่าคนไทยที่ถูกจับกุมทั้งหมดถูกจับกุมในเขตของกัมพูชา ลึกเข้าไป ๑.๒ กิโลเมตร โดยเป็นการยอมรับเมื่อคราวที่เดินทางไปพบนายฮอร์ นัมฮง ที่พนมเปญ และการยอมรับโดยกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย รวมถึงกรมแผนที่ทหาร ภายหลังมีการแพร่กระจายแผนที่พร้อมพิกัดที่ถูกจับกุมซึ่งอ้างข้อมูลที่ได้ จากกัมพูชาฝ่ายเดียว การแถลงข่าวช่วงต้นนอกจากชี้แจงประเด็นต่าง ๆ ทำความเข้าใจเกี่ยวกับความเป็นมาของพื้นที่ โดยเฉพาะหมู่บ้านโชคชัยที่กัมพูชาเรียกว่า “โจ็กเจ็ย” นั้นเป็นพื้นที่ของไทยแต่ได้ให้กัมพูชาซึ่งหนีภัยสงครามกลางเมื่องเมื่อคราว เกิดการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ได้เข้ามาอยู่อาศัยตามคำขอร้องของสหประชาชาติ โดยมีการกั้นรั้วลวดหนามไว้เป็นสัดส่วน พื้นที่ดังกล่าวตั้งอยู่ใกล้กับหลักเขตที่ ๔๖

คุณจิ๊บ ในฐานะที่ร่วมคณะไปกับนายวีระ สมความคิด และ นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้ชี้จุดเกิดเหตุประกอบแผนที่ ยืนยันชัดว่าทั้ง ๗ ถูกจับกุมโดยทหารเขมรซึ่งมีประมาณ ๗-๘ คน พร้อมอาวุธ ในเขตไทย เหตุเกิดในที่นาของนายเบ ในการแถลงข่าวมีการยืนยันแผนที่ และหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส. ๓) ที่ออกตั้งแต่ ๑๖ ธันวาคม ๒๕๑๗ (ก่อนเหตุการณ์สงครามกลางเมืองในเขมร) โดยระบุว่าทิศใต้จรดหลักเขตแดนประเทศกำพูชาที่ ๔๖ จุดที่ถูกจับกุมตัวอยู่ในนาบริเวณที่ห่างจากหลักเขตค่อนข้างมาก และห่างจากจุดที่ทางการกัมพูชาระบุว่าเป็นหมู่บ้านโชคชัย (ค่ายอพยพกัมพูชา) ร่วม ๑ กิโลเมตร ดูรูปประกอบการชี้ตำแหน่งด้านล่าง (ทุกภาพสามารถคลิกเพื่อขยายใหญ่ได้)

หลังชี้แจงข้อเท็จจริงสถานที่ซึ่ง ๗ คนไทยถูกจับกุม นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ได้ประกาศกำหนดการเคลื่อนไหวโดยระบุจะเดินทางไปชุมนุมใหญ่และพิสูจน์ข้อเท็จ จริงที่จุดเกิดเหตุ ต.เนินหมากมุ่น จ.สระแก้ว โดยนัดรวมตัวและออกเคลื่อนออกจากประตู ๔ ทำเนียบรัฐบาลในเวลาเที่ยง วันที่ ๓ มกราคม ๒๕๕๔ และเริ่มการชุมนุมใหญ่พร้อมกับคณะจากภาคต่าง ๆ ในพื้นที่ในวันที่ ๔ มกราคม ๒๕๔๔ เวลาเที่ยง

-----------

สื่อเขมร เผย 7 คนไทยจะติดคุกช่วงสั้นๆ ก่อนถูกปล่อยตัวกลับ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 3 มกราคม 2554 20:16 น.

       สำนักข่าวดึมอัมปรึล รายงานอ้างแหล่งข่าวนักวิเคราะห์การเมืองเปิดเผยว่า " 7 คนไทยจะถูกคุมขังเป็นเวลาสั้นๆ ในคุกกัมพูชา และพวกเขาจะได้รับการอภัยโทษจากฝ่ายกัมพูชาและปล่อยตัวกลับบ้าน"
       ทั้งนี้ กัมพูชาอนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยม 7 คนไทยที่ถูกจับตัวไป เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 3 ม.ค. โดยหลังจากที่นางพัชรีพร วิกิตเศรษฐ์ ภรรยาของนายพนิช วิกิตเศรษฐ์ สส.พรรคประชาธิปัตย์ เดินทางกลับถึงไทยในเย็นวันเดียวกัน ไม่ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนแต่อย่างใด
       นายชวนนท์ อินทรโกมารสุต เลขานุการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า 7คนไทยที่อยู่ในเรือนจำยังคงมีความเป็นอยู่ปกติดี ขณะนี้ทางการไทย ยังไม่ได้ยื่นประกันตัว และไม่แน่ใจว่าในวันพรุ่งนี้ (4ม.ค.) ทางการกัมพูชาจะนำ 7 คนไทย ขึ้นศาลหรือไม่




โทษ 7 คนไทยต่ำสุดจำคุก 6 เดือน-ผู้นำรัฐบาลมีสิทธิ์เจรจาได้
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 3 มกราคม 2554 19:36 น.

       นายหัตถชัย เพ็งแจ่ม ประธานการค้าการท่องเที่ยวตลาดช่องสะงำ กล่าวว่า ได้เดินทางเข้า จ.เสียมราฐ ประเทศกัมพูชา ซึ่งนักธุรกิจชาวกัมพูชา สอบถามตนและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกรณีที่คนไทย 7 คนถูกจับ ทราบว่าแท้จริง ทางทหารกัมพูชาไม่อยากจับกุม แต่การที่คนไทยซึ่งเข้าประเทศอย่างผิดกฏหมายท้าทายให้จับกุมเรื่องจึงลุกลาม ออกไป
        ประธานการค้าการท่องเที่ยวตลาดช่องสะงำ กล่าวอีกว่า กรณีนี้อย่างน้อยต้องติดคุก 6 เดือน หากต้องการพ้นผิดต้องตั้งทนายความตามกระบวนการยุติธรรมของกัมพูชา หรือหากจะให้ความช่วยเหลือ ต้องมีการประสานในระดับผู้นำรัฐบาลเท่านั้นถึงจะสามารถช่วยได้


เขมรเผยแพร่คลิป 7 คนไทยท้าทายให้จับกุม
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 3 มกราคม 2554 16:22 น.

       คลิปภาพความยาว 5 นาที ที่ทางการกัมพูชายึดได้จากคณะของ นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ และนายวีระ สมความคิด แกนนำเครือข่ายหัวใจรักชาติ ซึ่งถูกถ่ายทอดออกอากาศไปแล้วในประเทศกัมพูชา พร้อมกับระบุว่า คนไทยท้าทายให้กัมพูชาจับกุม
        โดยคลิปภาพเริ่มที่นายวีระ สมความคิด พานายพนิชไปที่หลักเขตแดนไทย-กัมพูชา ที่นายวีระระบุว่า เดิมเป็นที่นาของคนไทย แต่ถูกกัมพูชายึดครอง หลังจากที่ยึดถือแผนที่ 1 ต่อ 2 แสน หลังจากนั้นคณะของนายวีระและนายพนิช รวม 7 คน เดินเท้าเข้าไปในดินแดนที่กัมพูชายึดครอง ทั้งที่รู้ว่าเข้าไปแล้วจะถูกทางการกัมพูชาจับกุมตัว และเป็นไปตามคาดการณ์ เมื่อทหารกัมพูชากลุ่มหนึ่งได้ควบคุมคนกลุ่มนี้ทั้ง 7 คน แต่ในภาพไม่พบว่ามีการใช้เครื่องพันธนาการแต่อย่างใด




"ปานเทพ"เชื่อ 7 คนไทยไม่รุกล้ำอธิปไตยกัมพูชา
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 3 มกราคม 2554 15:22 น.

       นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยืนยันว่า มีการประสานงานจาก นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.กรุงเทพมหานคร ที่อ้างอิงคำสั่งของนายกรัฐมนตรี ขอให้พันธมิตรฯ ร่วมลงพื้นที่พิสูจน์อธิปไตยบริเวณปราสาทพระวิหาร โดยได้ติดต่อมายัง นายเทพมนตรี ลิมปพยอม เมื่อวันที่ 26 ธันวาคมที่ผ่านมา แต่ทางพันธมิตรฯ เกรงว่าจะไม่ปลอดภัยจึงปฏิเสธไป ภายหลังนายพนิชได้ประสานงานไปยัง นายวีระ สมความคิด แกนนำเครือข่ายกลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติ หลังมีปัญหาข้อร้องเรียนของประชาชนในพื้นที่ จ.สระแก้ว ว่าไม่สามารถที่จะเข้าไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่ที่มีเอกสารสิทธิ์ได้ ทำให้มีการลงพื้นที่ใน จ.สระแก้วจนถูกทางกัมพูชาควบคุมตัว
        สำหรับการเคลื่อนไหวของกลุ่มเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติที่ จ.สระแก้ว วันพรุ่งนี้ ถือว่าเป็นสิทธิ์ของผู้ชุมนุม ในส่วนของพันธมิตรฯ นั้นไม่ได้ร่วมเคลื่อนไหวกับเครือข่ายนี้มาตั้งแต่ต้น แต่แนวทางที่จะดำเนินการคือ การนำข้อเท็จจริงมาเปิดเผย เพราะเชื่อว่าคนไทยทั้ง 7 คน ไม่ได้รุกล้ำอธิปไตยกัมพูชา ส่วนการชุมนุมของพันธมิตรในวันที่ 25 มกราคม ยังคงเป็นการแสดงจุดยืนเดิมในการคัดค้านบันทึกข้อตกลงไทย-กัมพูชา ปี 2543 และการผลักดันชาวกัมพูชาออกจากพื้นที่




“ปานเทพ” ยัน “พนิช” อ้างคำสั่งนายกฯ ไปชายแดน-ซัด กต.อย่าด่วนสรุป 7 คนไทยล้ำแดนเขมร
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 3 มกราคม 2554 15:56 น.

โฆษกพันธมิตรฯ แฉ “พนิช” อ้างคำสั่ง “มาร์ค” โทร.ชวน “เทพมนตรี” ลงสระแก้ว แต่เจ้าตัวเมิน หวั่นไม่ปลอดภัย จึงชวน “วีระ” ไปแทนจนโดนจับ ชี้ ม็อบพระวิหารชุมนุมสระแก้ว ก็เป็นสิทธิ์ ยันไม่เกี่ยวกับพันธมิตรฯ แต่พร้อมนำข้อเท็จจริงสู้ ติง กต.อย่าด่วนสรุป 7 คนไทยล้ำแดนเขมร ด้าน“พล.ต.จำลอง”ยันยังไม่ไปสระแก้ว ต้องหารือแกนนำฯ ก่อน
    
       วันนี้ (3 ม.ค.) นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวยืนยันว่า มีการประสานงานจาก นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.กรุงเทพมหานคร ที่อ้างอิงคำสั่งของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ขอให้พันธมิตรฯ ร่วมลงพื้นที่พิสูจน์อธิปไตยบริเวณปราสาทพระวิหาร โดยได้ติดต่อมายัง นายเทพมนตรี ลิมปพยอม เมื่อวันที่ 26 ธันวาคมที่ผ่านมา แต่ทางพันธมิตรฯ เกรงว่า จะไม่ปลอดภัยจึงปฏิเสธไป ภายหลัง นายพนิช ได้ประสานงานไปยัง นายวีระ สมความคิด แกนนำเครือข่ายกลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติ หลังมีปัญหาข้อร้องเรียนของประชาชนในพื้นที่ จ.สระแก้ว ว่า ไม่สามารถที่จะเข้าไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่ที่มีเอกสารสิทธิได้ ทำให้มีการลงพื้นที่ใน จ.สระแก้ว จนถูกทางกัมพูชาควบคุมตัว
    
       สำหรับการเคลื่อนไหวของกลุ่มเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติที่ จ.สระแก้ว วันพรุ่งนี้ นายปานเทพ กล่าวว่า ถือว่าเป็นสิทธิ์ของผู้ชุมนุม ในส่วนของพันธมิตรฯ นั้น ไม่ได้ร่วมเคลื่อนไหวกับเครือข่ายนี้มาตั้งแต่ต้น แต่แนวทางที่จะดำเนินการ คือ การนำข้อเท็จจริงมาเปิดเผย เพราะเชื่อว่า คนไทยทั้ง 7 คน ไม่ได้รุกล้ำอธิปไตยกัมพูชา นอกจากนี้ยังเห็นว่ากระทรวงการต่างประเทศไม่ควรด่วนสรุปว่าคนไทยทั้ง 7 คน รุกล้ำเขตแดนกัมพูชา นั่นเพราะการปักปันเขตแดนบริเวณหลักเขตที่ 46 ยังไม่แล้วเสร็จ จะบอกได้อย่างไรว่าเรารุกล้ำเขตแดน ส่วนการชุมนุมของพันธมิตรฯในวันที่ 25 มกราคม ยังคงเป็นการแสดงจุดยืนเดิมในการคัดค้านบันทึกข้อตกลงไทย-กัมพูชา ปี 2543 และการผลักดันชาวกัมพูชาออกจากพื้นที่
    
       ด้าน พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เปิดเผยว่า ตามที่มีข่าวว่าตนจะเดินทางไปที่ชายแดนจังหวัดสระแก้วในวันที่ 5 ม.ค.นี้ ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ทั้งนี้ หากจะเดินทางไปจริงๆ จะต้องหารือกับแกนนำพันธมิตรฯ ทุกคนก่อน เพื่อให้การช่วยเหลือคนไทยทั้ง 7 คนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9530000184870


พยานคณะ "พนิช-วีระ" ยันไม่ได้ล้ำแดนเขมร ย้ำทหารไทยไม่ช่วยเหลือ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 3 มกราคม 2554 13:13 น.







1 ใน 3 คนไทยที่ร่วมเดินทางพร้อมคณะพนิช-วีระ ยืนยันไม่ได้รุกล้ำแดนเขมร เผยเดินไปไม่ถึง 250 เมตร ในที่ดินของคนไทยกลับถูกทหารเขมรล้อมจับ งง!! "พนิช" บอกประสานงานไว้แล้วแต่ทำไมถูกจับ เผย ตชด.ในพื้นที่ไม่รู้เรื่อง ซ้ำไม่ช่วยเหลือทั้งที่เห็นถูกจับต่อหน้าต่อตา พร้อมปฏิเสธไม่มีถนนตามที่รัฐบาลระบุ
     
       วันนี้(3 ม.ค.) รายการสภาท่าพระอาทิตย์ ที่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี ดำเนินรายการโดยนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ และมีแขกรับเชิญ คือ อาจารย์วีรพันธ์ มาลัยพันธุ์ อดีตคณะบดีคณะโบราณคดีมหาวิทยลัยศิลปากร พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ ปรึกษาศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาพลังแผ่นดินเชิงคุณธรรม โดยมีการพูดคุยถึงกรณี 7 คนไทยถูกจับกุมตัวที่ อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม และถูกตั้งข้อหาเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และบุกรุกพื้นที่ทหารโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยได้มีการเชิญ 1 ใน 3 คนไทยที่เดินทางกับคณะของนายพนิช วิกฤติเศรษฐ ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ และนายวีระ สมความคิด แต่ไม่ได้ถูกทหารกัมพูชาจับกุม
     
       คุณจิ๊บ อำภา คนไทยที่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้น ระบุว่า ในวันที่ 29 ธ.ค. นายพนิช ได้ติดต่อมาทางนายแซมดิน (เลิศบุตร) เพื่อให้ติดต่อนายวีระ เพื่อเข้าไปพิสูจน์พื้นที่ที่มีการร้องเรียนกัน ซึ่งตนได้ตามเรื่องเขาพระวิหารมานานแล้ว ร่วมกับกลุ่มของนายวีระ จึงได้เข้าไปร่วมพิสูจน์ด้วย ก็ได้ชวนเพื่อนที่โดนจับเข้าไปร่วมไปด้วย โดยไปพบกับกลุ่มของนายพนิช ที่มีเลขาร่วมเดินทางมาด้วย ซึ่งมีรถยนต์ที่เดินทางเข้าไป 2 คัน โดยเมื่อเดินทางเข้าไปในพื้นที่ได้ผ่านด่านตชด.ถึง 8-9 ด่าน แต่ไม่มีด่านไหนเรียกตรวจคณะเราเลย ทั้งที่ก่อนหน้านั้นที่เดินทางเข้าไปได้มีการเรียกตรวจทุกด่าน ทั้งนี้พี่ที่นั่งรถไปด้วยกันเห็นว่ามีตชด.โบกมือให้เรา อยู่ในป้อม แต่ไม่รู้ว่ายกมือเพื่อเรียกตรวจ แต่เหมือนยกมืออำลาให้เรา
     
       คุณจิ๊บ ระบุอีกว่า เมื่อไปถึงที่จุดเกิดเหตุนายพนิช และนายวีระเดินตามกันเข้าไปก่อน เพราะเป็นทุ่งนา ประมาณ 250 เมตร
       แต่ตน และเลขานายพนิช และเพื่อนอีกคนเดินเข้าไปได้ประมาณ 100 เมตร จากจุดที่จอดรถ สักพักก็เห็นว่ามีทหารเขมรถือปืนออกมาจากดงอ้อย โดยเลขานายพนิชระบุว่าจะตะโกนเรียกบอกนาย แต่ก็ไม่ได้เรียกเพราะคิดว่านายพนิชและนายวีระเห็นแล้ว อย่างไรก็ตาม โดยความเข้าใจของตนคิดว่าทางการกัมพูชาทราบเรื่องแล้ว คิดว่านายพนิชการประสานงานกันล่วงหน้าแล้ว เนื่องจากไม่มีการเรียกตรวจ แต่ทางทหารเขมรก็เข้าไปล้อมกลุ่มนายพนิชและนายวีระ ทั้ง 7 คน ซึ่งนายพนิชได้โทรศัพท์มาบอกเลขาฯว่าถูกจับแล้ว หลังจากนั้นก็มีตชด.ของไทยออกมาตะโกนเรียกเราให้กลับมา พร้อมกับบอกว่ากลุ่มของนายพนิชล้ำแดนเข้าไปแล้ว ซึ่งทั้ง 7 คนก็ถูกจับไปแล้ว ส่วนที่บอกว่าเราแหกด่านเข้าไปและถูกจับนั้นไม่เป็นความจริง
     
       อย่างไรก็ตาม คุณจิ๊บ ยืนยันว่า หลังจากนั้นเราก็ทำอะไรไม่ถูกพยายามโทรศัพท์บอกคนนั้นคนนี้ เพื่อให้ช่วยเหลือ ซึ่งทางเลขานายพนิชก็ติดต่อขอความช่วยเหลือจากทางเลขาของนายกฯเช่นกัน แต่ได้ยินว่านายกฯ ติดประชุมอยู่ ขณะนั้นทางตชด.ของไทยก็มาถามเราว่าเป็นใคร มาทำอะไร แล้วคนที่ถูกจับเป็นใคร เราก็บอกว่าเป็นส.ส. ซึ่งก็งงว่าทำไมไม่รู้เรื่อง ทั้งที่ก่อนหน้านั้นนายพนิช ได้ยืนยันว่าติดต่อประสานงานกับทางกัมพูชาไว้แล้ว ซึ่งทางเราก็เข้าใจอย่างนั้น แต่ทางตชด.ไม่รู้เรื่องเลย และก็ไม่ได้เข้าไปช่วยเหลือหรือยับยั้งทหารเขมรไม่ให้จับกุม 7 คนไทยเลย ซึ่งตนเชื่อว่าหากได้มีการยับยั้งหรือประสานกันจะสามารถช่วยเหลือได้
     
       ส่วนกรณีที่ทางการไทยระบุว่ามีวิดีโอที่ระบุว่า คณะคนไทยได้เดินล้ำเข้าไปในถนนของกัมพูชานั้น คุณจิ๊บยืนยันว่า ในวันแรกที่เดินทางเข้าไป ไม่เห็นถนนเลย แต่มาเห็นว่ามีถนนในอีกวันที่เดินทางลงพื้นที่กับคณะที่มาตรวจสอบ เพราะเห็นว่ามีรถวิ่ง แต่ไกลมากที่เห็นรถวิ่ง ซึ่งยืนยันว่าบริเวณนั้นไม่มีถนนเลย
ชมวิดีโอ http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9530000184809


กต.อ้างเช็กคลิปแล้วพบ “พนิช” ล้ำแดนจริง!! - ม็อบพระวิหารจ่อบุกสระแก้ว 4 ม.ค

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 2 มกราคม 2554 17:29 น.


อธิบดีกรมสารนิเทศ คาดภรรยา “พนิช” ได้เยี่ยมสามีพรุ่งนี้ ยันทูตไทยประสานใกล้ชิด โต้ “ปานเทพ” ยันเช็กคลิปแล้วพบล้ำแดนจริง คาดคงหลงกัน ด้านคนไทยหัวใจรักชาติ บุกกองทัพภาค 1 ยื่นหนังสือจี้แม่ทัพจัดการ เล็งบุกสระแก้วอังคารนี้ “ชาญวิทย์” ชี้ส่อบานปลาย เชื่อ “วีระ” พา “พนิช” ลงพื้นที่หวังปลุกชาตินิยม คาดได้อภัยโทษเหมือน “ศิวรักษ์” แนะเจรจาปักปันเขตแดน
     
       วันนี้ (2 ม.ค.) นายธานี ทองภักดี อธิบดีกรมสารนิเทศ ในฐานะโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงความคืบหน้ากรณี 7 คนไทยถูกจับกุมตัวที่ อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม และถูกตั้งข้อหาเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และบุกรุกพื้นที่ทหารโดยไม่ได้รับอนุญาตว่า เนื่องจากเป็นวันหยุดราชการ คาดว่าญาติของผู้ที่ถูกจับกุม รวมถึงภรรยาของนายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ ที่เดินทางไปกัมพูชาแล้วจะได้เข้าเยี่ยมในวันที่ 3 มกราคมนี้ ซึ่งสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ จะขอให้ความช่วยเหลือ และประสานงานอย่างใกล้ชิด แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีใครแจ้งความประสงค์ขอเดินทางไปเยี่ยมเพิ่มเติม
     
       นายธานีกล่าวถึงกรณีที่นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ระบุว่า รัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศด่วนสรุปเร็วเกินไปว่าคนไทยทั้ง 7 คนรุกล้ำพื้นที่กัมพูชา ทั้งที่การพิสูจน์จากภาพวิดีโอยังไม่เสร็จสิ้นว่า จากการตรวจสอบเสร็จสิ้นไปแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศ และฝ่ายความมั่นคงยืนยันตรงกันว่ามีการรุกล้ำเข้าไปจริงโดยเป็นการพลัดหลง กัน
     
       ขณะที่ กลุ่มเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ เดินทางไปยื่นหนังสือถึง พล.ท.อุดมเดช สีตบุตร แม่ทัพภาคที่ 1 ผ่าน พ.ต.สรายุทธ ศรลัมพ์ นายทหารเกณฑ์กองทัพภาคที่ 1 เพื่อเรียกร้องให้ติดตามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเขตแดนของไทย ให้ความเป็นธรรมแก่คนไทยทั้ง 7 คน และปกป้องไม่ให้กัมพูชาแสดงอธิปไตยเหนือดินแดนไทย พร้อมแจ้งให้กองทัพภาคที่ 1 ได้รับทราบถึงการที่กลุ่มจะเดินทางไปเคลื่อนไหวที่ จ.สระแก้ว ในวันที่ 4 มกราคมนี้
     
       ด้าน นายชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาตร์ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ กล่าวยอมรับว่า กรณีคนไทย 7 คนถูกควบคุมมีโอกาสที่จะบานปลายกระทบความสัมพันธ์ระหว่างไทยและกัมพูชา และมองว่าการลงพื้นที่ของกลุ่มคนไทยครั้งนี้เป็นเรื่องทางการเมือง เพื่อปลุกกระแสชาตินิยม เนื่องจากไม่มีการแจ้งให้ฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่ทหารรับทราบจนนำมาซึ่ง ปัญหา โดยกรณีนี้อาจจะเป็นเช่นเดียวกับกรณีนายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ ที่ต้องขอพระราชทานอภัยโทษจากกษัตริย์กัมพูชา และเห็นว่าแนวทางที่จะเป็นทางออกคือการเจรจาโดยใช้ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่าง กัน เช่นเดียวกับปัญหาการปักปันเขตแดนและพื้นที่ทับซ้อน ซึ่งทั้งสองฝ่ายต้องดำเนินการด้วยท่าทีที่เป็นมิตร
ดูวิดีโอ http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9530000184600

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

สุเวศน์ ภู่ระหงษ์ ศิลปินประชาชน

เรื่องที่น่าสนใจของกลุ่มศิลปะ ดนตรี กวีประชาชน

ความเห็นต่อ กลุ่มศิลปะ ดนตรี กวีประชาชน