วันอังคารที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2554

อำลา- อาลัย ปอง ปรีดา เจ้าของเพลงสาวฝั่งโขง



ปอง ปรีดา


    อีกหนึ่งตำนานเพลง            ผู้ยิ่งใหญ่


    ได้จากไปอาลัยหา              มาล่วงลับ


    จากเพียงร่างฝากบทเพลง   ไว้สดับ


    ให้ได้รับความสุข                 ตลอดไป


               ถึงอดีตมองเห็นงาม             ตามฝังโขง


               เพลงพาลงรำร่าย                 ไม่เลือนหาย


               ต่อแต่นี้เหลือผลงาน            ฝากแทนกาย


               สิ่งสุดท้ายอันยิ่งใหญ่           ปองปรีดา


อำลา-อาลัย
ด้วยจิตคาราวะ



วัลลภ พลเสน
กลุ่มศิลปะดนตรี กวีประชาชน





เพลงสาวฝั่งโขง ภาพประกอบฉบับอำลา-อาลัย 2554

  เพลงที่คนไทยจดจำได้ มากที่สุดคือ "สาวฝั่งโขง" ผลงานการประพันธ์ของ ปอง ปรีดา โดยมีครูนคร ถนอมทรัพย์ และครูร้อยแก้ว รักไทย ได้ช่วยปรับปรุงคำร้องและทำนอง

   " โอ้...ฝั่งลำน้ำโขง ยามเมื่อแลงค่ำลง สาวเจ้าคงลงเล่นตามท่า สาวเจ้าคงสิเพลินหนักหนา ข้อยหรือมาคอยท่า สาวเจ้าอย่ามัวหลงลม

 ขึ้น...จากโขงเถิดหนา มาเฝ้าคอยขวัญตา น้องอย่าช้าเพราะเฮาเฝ้าคอย โขงพาใจข้อยนี้เลื่อนลอย เกรงฮักเฮาจะผ่อน ไหลล่องลอยบ่กลับคืนมา

 โอ้...หนอแม่สาวฝั่งโขง ข้อยหรือหลงคอยเจ้า ฮักสาวเจ้านั้นหนักหนา ขอให้สาวเจ้าโปรดเมตตา เพียงบอกคำฮักมา ขวัญตาเจ้าอย่าเอียงอาย

 ข้อย...จากสาวฝั่งโขง นอนหลับตาบ่ลง คิดพะวงสาวเจ้าจะหน่าย แม้นได้สาวเจ้ามาแนบกาย ข้อยสิตายบ่ว่า นอนคอยท่าผวาแต่กอดหมอน"

  

 เพลงสาวฝั่งโขง บันทึกเสียงครั้งแรกเมื่อปี 2501 และเป็นสมาชิกวงดนตรีจุฬารัตน์ ของครูมงคล อมาตยกุล ในปีเดียวกันนั้น ฉะนั้น "ปอง" จึงกล่าวกับทุกคนว่า "ถ้าไม่มีครูมงคล จะไม่มีปอง ปรีดา ในโลกนี้"

 เสน่ห์ของเพลงสาวฝั่งโขง ยังตราตรึงอยู่ในใจนักเพลง ด้วยท่วงทำนองดนตรี เสียงผิวปาก และเสียงร้องแบบคนอีสาน





สิ้นแล้วปอง ปรีดา เจ้าของเพลงสาวฝั่งโขง

           ปอง ปรีดา หรือ นายคำปัน ผิวขำ อายุได้ 74 ปี หรือนักร้องนัก แต่งเพลงโด่งดังในอดีต เจ้าของเพลงสาวฝั่งโขง, สาวบ้านใด๋, สาวป่าซาง, เบิ่งโขง, ล่องโขงคืนเพ็ญ, คิดถึงฝั่งโขง ฯลฯ ได้เสียชีวิตลงแล้วเมื่อเวลา 11.00 น. ของวันที่ 6 มกราคม 2554 ที่ผ่านมา ณ โรงพยาบาลชัยบาดาล จ.ลพบุรี เนื่องจากป่วยมานานด้วยหลายโรคทั้งเบาหวาน ปอดติดเชื้อ ตับอักเสบ เลือดจาง ท่ามกลางบรรยากาศของความโศกเศร้าของคนในครอบครัวที่เฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิดจนลมหายใจ
จากการเสียชีวิตดังกล่าว นางประดิษฐ์ ผิวขำ อายุ 50 ปี ซึ่งเป็นภรรยาอยู่กินกับ ”ปอง ปรีดา” ได้เผยว่า ”ที่ผ่านมาร่างกายพี่เขาแข็งแรงมาโดยตลอด ก็ยังรับจ้างร้องเพลงอย่างต่อเนื่อง เรียกค่าตัวแตกต่างกันไปตามสถานที่ใกล้-ไกล ถ้าต้องเดินทางไปร้องไกลก็อยู่ที่ 1 หมื่นบ้าน ถ้าใกล้ๆ ก็อยู่ที่ 4-5 พันบาท รับวันละงาน เพราะต้องว่าจ้างรถเขาไป ที่ไกลสุด ก็ไปร้องเพลงที่ จ.สุราษฎร์ธานี, จ.อุบลราชธานี, จ.เชียงใหม่, จ.เชียงราย ครั้งล่าสุดที่ไปก็ที่ จ.ขอนแก่น จนมาเมื่อปีที่แล้วสุขภาพเริ่มไม่ค่อยดี ปวดขาไปไหนมาไหนไม่ค่อยสะดวก และมาป่วยหนักเมื่อช่วงปลายปี ก็พาไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลชัยบาดาล แล้วก็ส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลจังหวัดลพบุรี ก่อนส่งตัวกลับมาที่โรงพยาบาลชัยบาดาลอีกครั้ง แล้วพี่ก็เสียชีวิต”
สำหรับชีวิตคู่ของตนกับสามีนั้นก็อยู่กินกันมาเป็นเวลานานกว่า 32 ปี มีลูกชายด้วยกันหนึ่งคน คือ นายเอกชัย ผิวขำ หลังจากแต่งงานแล้ว สามีตนได้ย้ายจาก จ.ขอนแก่น มาสร้างครอบครัวด้วยกันที่ บ้านหนองเต่า ต.ชัยนารายณ์ อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี ยึดอาชีพร้องเพลง แต่งเพลง และทำเกษตรกรรม มาอย่างต่อเนื่อง สุขภาพร่างกายแข็งแรงดี จนกระทั่งปี พ.ศ. 2553 เริ่มมีปัญหาเรื่องสุขภาพ และมาตรวจพบว่าป่วยเป็นโรคเบาหวาน ตับอักเสบ เลือดจาง ปอดติดเชื้อ เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 53 จึงได้พาไปเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลชัยบาดาลจนกระทั่งเสียชีวิต
          ล่าสุด สำหรับศพของ ปอง ปรีดา นั้นครอบครัวได้เคลื่อนศพมาตั้งบำเพ็ญ กุศลทางศาสนา ที่ศาลามรรค 8 วัดธารีรัฐการาม (วัดหนองเต่า) ต.ชัยนารายณ์ อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี และมีพิธีรดน้ำศพ เวลา 17.00 น. โดยมี นายนิยม วรปัญญา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.ลพบุรี เป็นประธานในพิธี ท่ามกลางบรรยากาศโศกเศร้าของคนในครอบครัว ชาวบ้าน และแฟนเพลงที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงมาร่วมพิธีจำนวนหนึ่ง และมีพิธีสวดพระอภิธรรมในเวลา 19.00 น. ทั้งนี้กำหนดสวดพระอภิธรรม ''ปอง ปรีดา'' จะมีวันที่ 6-10 มกราคม 2554 เวลา 19.00 น. ที่ศาลา มรรค 8 มีพิธีฌาปนกิจ ณ เมรุวัดธารีรัฐการาม (วัดหนองเต่า) วันที่ 11  มกราคม 2554 เวลา 15.00 น.

          ส่วนทางด้านลูกชายนายเอกชัย ผิวขำ อายุ 28 ปี ลูกชายคนเดียวของ ''ปอง ปรีดา'' ปัจจุบันทำงานอยู่ที่ บ.สหฟาร์ม กล่าวว่า ''พ่อเป็นคนอารมณ์ดี พูดจาตรงไปตรงมา เป็นคนจริงใจโกรธง่ายหายเร็ว รักครอบครัว พ่อบอกให้ตั้งใจเรียนหนังสือสูง ๆ ตั้งแต่ผมยังเด็ก พ่อไม่เคยสนับสนุนให้ผมเป็นนักร้อง ท่านบอกว่าไม่อยากให้ผมต้องลำบากเหมือนท่าน ท่านเลยไม่ค่อยพูดเรื่องเพลงให้ผมฟัง ก่อนเสียท่านก็ไม่ได้สั่งอะไร แต่สิ่งที่ผมห่วงคือเรื่องลิขสิทธิ์เพลงของท่าน เพราะพ่อเป็นคนที่หวงเพลงที่แต่งขึ้นมามาก ๆ ท่านจำได้หมดว่าแต่งเพลงอะไรไว้บ้าง ผ่านงานศพไปแล้ว ก็จะดำเนินการเรื่องนี้ครับ''

          ส่วนในช่วงที่ ปอง ปรีดา ป่วยและทำการรักษาตัวอยู่นั้น ก็ได้มีคนในวงการเพลงทั้งลูกทุ่ง และเพลงเพื่อชีวิต วงการบันเทิง ได้ให้การช่วยเหลือกันหลายส่วน เช่น นายห้างประจวบ จำปาทอง มอบเงินให้ 2 หมื่นบาทและ แอ๊ด คาราบาว จัดคอนเสิร์ตเปิดมูลนิธิคาราบาว หาเงินช่วยเหลือศิลปินที่ป่วยมอบเงินช่วยเหลือมา 5 หมื่นบาท รวมถึง สรพงศ์ ชาตรี มอบเงินช่วยมา 2 หมื่นบาท

          สำหรับ ''ปอง ปรีดา'' มีชื่อจริงว่า นายคำปัน ผิวขำ เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2475 ที่ อ.เมืองขอนแก่น จบการศึกษาชั้น ม.2 (ระบบเก่า) แผนกช่างไม้ โรงเรียนช่างไม้ขอนแก่น ชื่นชอบเพลงของ สมยศ ทัศนพันธุ์ อย่างมาก ในวัยเด็กประกวดร้องเพลงรับรางวัลมานับไม่ถ้วน เคยตระเวนชกมวยในชื่อ ''วิเชียร ศิษย์จำเนียร'' ชก 25 ครั้งไม่เคยแพ้ใคร แต่ด้วยใจรักการร้องเพลงจึงแขวนนวมมา อยู่กับ ครูมงคล อมาตยกุล ซึ่งนำมาฝากกับวง ''ประเทืองทิพย์'' ของ ''ประเทืองทิพย์ บุญญประพันธ์'' ปอง ปรีดา ได้เป่าแคน เป่าปาก ให้กับนักร้องหลายคนที่ ครูมงคล อมาตยกุล นำมาบันทึกแผ่นเสียง ทั้ง สุรพล สมบัติเจริญ, ทูล ทองใจ ขณะที่ ครูนคร ถนอมทรัพย์ ได้แนะนำให้เขาแต่งเพลงด้วย เพลงแรกที่แต่งสำเร็จ และได้บันทึกแผ่นเสียงคือเพลง ''กลับอีสาน'' และต่อมาได้แต่งเพลง ''สาวฝั่งโขง''

          สำหรับ ชื่อ ''ปอง'' นั้น ครูมงคล เป็นคนตั้งให้ ส่วน ''ปรีดา'' นั้น สัมพันธ์ อูนากูล ตั้งให้ เขาถูกบรรจุเข้าเป็นนักร้องรุ่นแรก ๆ ของวงดนตรีจุฬารัตน์ ร่วมกับนักร้องดังในอดีตอย่าง เบญจมินทร์, ชัย อนุชิต, ทูล ทองใจ, พร ภิรมย์ ต่อมาไปอยู่กับวง ''รวมดาวกระจาย'' ของ ''ครูสำเนียง ม่วงทอง'' และลาออกไปตั้งวง ''ปอง ปรีดา'' ตระเวนรับงานแถว จ.อุดรธานี ก่อนยุบวงมาลงหลักปักฐาน สร้างครอบครัวอยู่ จ.ลพบุรี และรับจ้างร้องเพลงจวบจนชรา จนกระทั่งร่างกายไม่เอื้ออำนวยต่อการเดินทาง กระทั่งเสียชีวิตเมื่ออายุ 74 ปี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

สุเวศน์ ภู่ระหงษ์ ศิลปินประชาชน

เรื่องที่น่าสนใจของกลุ่มศิลปะ ดนตรี กวีประชาชน

ความเห็นต่อ กลุ่มศิลปะ ดนตรี กวีประชาชน