เห็นได้จากผลงานเพลง "เสียงจากคีตาญชลี" ที่มีเนื้อร้องท่อนหนึ่งว่า "หากฉันเป็นนก จะร้องขับขาน กล่อมดวงวิญญาณผู้กระหายสงคราม ให้อยู่ด้วยความรัก อยู่ด้วยความงดงาม ด้วยความละ โลภ โกรธ หลง"
เมื่อเวลาผ่านไป กลับได้เห็นวงดนตรีนี้ขึ้นบรรเลงบนเวทีของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อ ประชาธิปไตย เรียกร้องให้ต่อสู้กับกัมพูชา ทวงคืนพื้นที่อธิปไตยของไทย..
ซึ่งพี่อ๊อดได้กล่าวเปิดใจในประเ้ด็นนี้ว่า
"การขึ้นเวทีพธม.ถือเป็นความ
ในค่ำคืนวันที่ 26 ก.พ.2554 คีตาญชลี จึงขึ้นเวทีรวมพลังปกป้องแผ่้นดิน ยืนยันจุดยืนเดิม และมอบบทเพลงต่างๆสู่ผู้ชุมนุมอีกครั้ง
+++++ บทความจากมติชนออนไลน์ +++++
"คีตาญชลี"ไม่ได้"เปลี๊ยนไป๊..!!" เชื่อสงครามเพื่อปกป้องตัวเอง"ต้องทำ" ป้องกันถูกย่ำยี
วันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554 เวลา 14:00:23 น
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1298439908&grpid=01&catid&subcatid
เกิดเสียงวิจารณ์อย่างหนาหูว่า วง"คีตาญชลี" เปลี๊ยนไป๊..!! จากเดิมเคยเป็นวงดนตรีของสองสามีภรรยาชาวเพชรบุรี "สมศักดิ์ และ สุรินทร์ อิสมันยี" ที่หลายคนมองว่าวงดนตรีเพื่อชีวิตนี้ มีจุดยืนเพื่อเสรีภาพและสันติภาพ
เห็นได้จากผลงานเพลง "เสียงจากคีตาญชลี" ที่มีเนื้อร้องท่อนหนึ่งว่า "หากฉันเป็นนก จะร้องขับขาน กล่อมดวงวิญญาณผู้กระหายสงคราม ให้อยู่ด้วยความรัก อยู่ด้วยความงดงาม ด้วยความละ โลภ โกรธ หลง"
เมื่อเวลาผ่านไป กลับได้เห็นวงดนตรีนี้ขึ้นบรรเลงบนเวทีของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อ ประชาธิปไตย เรียกร้องให้ต่อสู้กับกัมพูชา ทวงคืนพื้นที่อธิปไตยของไทย..
"สมศักดิ์ อิสมันยี" หรือ "อ๊อด" หัวหน้าวงคีตาญชลี เปิดเผยกับ"มติชนออนไลน์" ยืนยันจุดยืนยังเหมือนเดิม คีตาญชลีไม่ได้เปลี่ยนไป
"คนที่ติดตามผลงานของเรามาตั้งแต่แรก ในช่วงหลังพ.ศ.2520 จะเห็นว่าเราได้ประกาศตัวชัดเจนแล้วว่าสงครามเพื่อแผ่นดิน หรือสงครามเพื่อความเป็นธรรมนั้น ต้องทำ ถ้าเราไม่สู้เขา เราก็ถูกย่ำยี อย่างประเทศเพื่อนบ้านของเรา เวียดนาม ถ้าไม่ต่อสู้ ก็ถูกย่ำยี ไม่ได้หลุดจากความเป็นอาณานิคมของชาติตะวันตก"
พร้อมยืนยันว่าสงครามเพื่อปกป้องตัวเองนั้น ไม่สวนทางกับ"สันติภาพ"
"ผมเคยไปญี่ปุ่น ได้ไปเยี่ยมบ้านเพื่อนที่ต่อต้านสงคราม แต่ในบ้านของเขาก็มีธงชาติญี่ปุ่นสัญลักษณ์พระอาทิตย์มีรัศมีแขวนอยู่ผนัง บ้าน ซึ่งสัญลักษณ์นี้หมายถึงว่าญี่ปุ่นจะครองโลก ทำให้ผมกลับมาคิด หลังจากตอนแรกที่จินตนาการว่าไม่เอาสงครามเลย"
เมื่อถามถึงมุมมองของวงคีตาญชลีต่อพื้นที่ทับซ้อนของไทยและกัมพูชา สมศักดิ์ กล่าวว่า มองอย่างเดียวกับนักวิชาการพันธมิตรฯ เพราะเขามีใช้เหตุผลที่มีน้ำหนักในการอธิบาย พร้อมทั้งใช้ตรรกะทั้งสองด้าน ไม่ว่าเป็นด้านไทยหรือกัมพูชา
"อะไรที่เป็นของเราก็ต้องประกาศว่าเป็นของเรา ต้องพูดให้รู้เรื่องและตรงไปตรงมา ไม่ใช่บอกว่าเอ็มโอยู 43 เราได้ประโยชน์ ฟังแล้วรู้สึกว่าเราไปโกงเขาหรือเปล่า อยากให้บอกมาเลยว่าตรงนี้เป็นของเรา ตรงนี้เป็นของเรา อย่างตรงไปตรงมา"
ถามว่า เมื่อไรจะได้เห็นวงคีตาญชลีขึ้นเวทีพันธมิตรฯ อีกครั้ง สมศักดิ์กล่าวว่า ยังไม่มีคิว แต่ถ้าเราว่างเมื่อไร จะโทรประสานขอคิวขึ้นเวทีกับฝ่ายจัดงาน
นี่คือพูดจากวงคีตาญชลีที่ยืนยันว่าตัวเองไม่ได้เปลี่ยนไป และเป็นวงเดียวที่เคยร้องเพลง "หากฉันเป็นนก จะร้องขับขาน กล่อมดวงวิญญาณผู้กระหายสงคราม ให้อยู่ด้วยความรัก อยู่ด้วยความงดงาม ด้วยความละ โลภ โกรธ หลง..."
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น