ศิลปินเพื่อชีวิตที่เดินสายเล่นดนตรีตามที่ต่างๆ ร่ำรวยมีเงินเยอะจริงหรือ ?

            เพื่อนที่ไปเที่ยวร้านตะวันแดง สาดแสงเดือน ไปดูศิลปินเพื่อชีวิตคนโปรดที่มาเล่นดนตรีที่นี่ ดูไปแล้ว ศิลปินเพื่อชีวิตน่าจะร่ำรวยมากๆ ไปหลายจังหวัดเห็นขึ้นป้ายว่า จะมาเล่นคอนเสิร์ตที่นั่นที่นี่ แล้วก็มีงานเยอะ  ทั้ง คอนเสิร์ต, งานอีเว้นต์, งานจ้างไปเล่นดนตรีของเจ้าภาพงานต่างๆ ฯลฯ แต่ละที่ ค่าบัตรค่าโต๊ะ เป็นพันบาท แพงกว่าคอนเสิร์ตขายบัตรล้อมรั้วสังกะสีหลายเท่าตัว แบบนี้รับทรัพย์เพียบ
       

            แต่ความจริงแล้ว ศิลปินหลายคน ขาดเงิน ขาดทุน รายรับติดลบ แทบจะต้องไปขอหยิบยืมเงินจากคนรู้จักกัน ทั้งๆที่ศิลปินหลายคนมีชื่อเสียง มีงานเดินสายแสดงดนตรีอยู่ตลอดเวลา


            หลายงานที่ไปทำการแสดง มีทั้งงานที่ขายบัตรได้หมด และขายบัตรไม่ค่อยได้ ถ้าผู้จัดงานได้เงินน้อย ก็มักจะจ่ายเงินให้ศิลปิน ลดลง ศิลปินก็เห็นใจ จำเป็นต้องรับเงินไว้ เช่น ตกลงว่าจะจ่ายเงินเป็นหลักหมื่นบาท แต่พอเก็บตังค์ได้น้อย เลยให้แค่ 2 พัน บางรายจะจ่ายให้ทีหลัง บางรายให้สิ่งของที่มีค่าแทนเงิน


            การรับงานเยอะ ก็มีทั้งงานที่ได้เงินและไม่ได้เงิน เมื่อแสดงดนตรีจบ หัวหน้าวงก็ต้องเลี้ยงข้าว เลี้ยงเหล้าลูกน้องทุกครั้ง  ไม่ว่าจะได้เงินมากหรือน้อย ก็ต้องเลี้ยงลูกน้อง หลายครั้งต้องควักเงินตัวเองมาเลี้ยง พอกลับบ้านแทบจะไม่มีเงินเหลือติดกระเป๋าเลย


            เมื่อมาแสดง ก็จะต้องมีค่าน้ำมันรถ ที่จะต้องจ่ายทุกครั้ง


            ค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน ทั้งค่ากินอยู่ ค่าน้ำค่าไฟ ค่าน้ำมันรถ ค่าเดินทาง ค่าโรงแรมที่พัก ฯลฯ จะต้องจ่ายตลอด หลายงานมีรายจ่ายมากกว่ารายรับจนศิลปินเพื่อชีวิตหลายคน มีหนี้สินมากมาย


            คุณไก่ แมลงสาบ และทีมงาน ซึ่งเป็นผู้ประสานงานเครือข่ายศิลปินเพื่อชีวิต เล่าว่า บางครั้งที่ศิลปินเพื่อชีวิตบางท่าน โทรติดต่อมา ขอยืมเงิน มีบางคนที่เขาต้องขับรถไปรับ เพราะศิลปินคนนั้น แทบไม่เหลือเงินติดกระเป๋าเลยในเวลานั้น ทีมงานคุณไก่ ก็ต้องช่วยเหลือเท่าที่สามารถจะทำได้






             ถ้าเป็นศิลปินที่อยู่ในสังกัดค่ายเพลง ทางบริษัทจะดูแลศิลปินเป็นอย่างดี ป้อนงานให้ตลอด ศิลปินจะมีรายรับที่แน่นอน แต่จะต้องร้องเพลง ทำเพลงในแนวทางที่บริษัทกำหนด ซึ่งศิลปินเพื่อชีวิตหลายคน มักจะมีอุดมการณ์ และแนวทางการทำงานเป็นของตัวเอง และเลือกที่จะทำงานอย่างอิสระ แทนที่จะต้องถูกค่ายเพลงครอบงำความคิด กำกับการทำงานทุกอย่าง


            เมื่อเลือกทางเดินของตัวเอง ได้ทำงานตามที่อยากทำ ถึงแม้ศิลปินเพื่อชีวิตจะมีปัญหาทางการเงิน จนเดือดร้อน ทุกข์ใจอยู่ตลอด แต่สิ่งหนึ่งคือ น้ำใจ และมิตรภาพในหมู่มวลศิลปินเพื่อชีวิตที่คอยช่วยเหลือดูแลกันมาตลอด แม้จะทุกข์ยากลำบากเพียงใด แต่ศิลปินเพื่อชีวิตยังคงยืนหยัดสร้างสรรค์ผลงานเพลงในแนวทางของตนเองต่อไป....