มีบทเพลงมากมายที่ผ่านหูคนเราในปัจจุบัน แต่มีเพียงไม่กี่เพลงเท่านั้น ที่มีคุณค่า มีความหมายต่อชีวิตและเปลี่ยนความคิดของคนเราได้ จากถ้อยคำบางคำในบทเพลงนั้น
มีหนุ่มน้อยนักศึกษาวัย 20 ปี เรียนอยู่ที่ขอนแก่น ซึ่งเป็นน้องชายของเพื่อนสนิทของผู้สื่อข่าว เพื่อนมักจะโทรมาปรึกษาอยู่บ่อยๆเกี่ยวกับเรื่องของน้องชายกับปัญหาชีวิตที่เกิดขึ้นหลายอย่างที่ยังคงหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้สักที
ดูเหมือนผู้เป็นพี่ ก็คงไม่เข้าใจในโลกส่วนตัวของน้องมากนัก แม้จะพยายามสอบถาม แต่ก็ไม่เคยได้รับคำตอบสักที
ดูเหมือนว่า ชีวิตของหนุ่มน้อยคนนี้ จะดูเลื่อนลอยไปวันๆ ไม่มีแก่นสารใดๆทั้งสิ้น ผู้เป็นพี่พยายามหาวิธีช่วยเหลือน้องหลายวิธี แต่ก็ไม่เป็นผล แถมยังไม่รู้ว่า น้องมีปัญหาอะไรกันแน่
...แต่เมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 กรกฎาคม 2553 ที่ผ่านมา น้องชายเดินเข้ามาคุยกับพี่ ด้วยท่าทีที่เปลี่ยนไปจากเดิม น้องชายถือเครื่องเล่น mp3 แล้วบอกให้พี่ฟังเพลงที่ชื่อ "คนพเนจร" ดู น้องชายชอบเพลงนี้มากๆ จนพี่ชายรู้สึกแปลกใจ เพราะไม่เคยเห็นน้องชายชอบเพลงไหน ถึงขนาดเอามาให้พี่ชายฟังด้วยแบบนี้
น้องชายบอกว่า เล่นอินเทอร์เนตแล้วลองค้นหาข้อมูลไปเรื่อยๆ คลิกไปจนเจอเพลง "คนพเนจร" ในเวบแห่งหนึ่งเลยลองคลิกฟังดู แล้วรู้สึกสะดุดใจกับหลายคำในเพลงนี้ ทำให้นั่งคิดอะไรหลายอย่าง พอเพลงจบแล้วก็คลิกฟังอีกรอบ รู้สึกชอบเลยดูชื่อเพลง แล้วหาวิธีดาวน์โหลดเอามาให้ฟัง
ผู้สื่อข่าวฟังที่เพื่อนเล่าแล้ว ถึงกับอึ้ง เวบนั้น ก็น่าจะเป็นเวบ บ้านศิลปะ ดนตรี กวีประชาชน แห่งนี้นี่เอง พอฝากถามถึงน้องชายว่า เวบที่ว่า เป็นแบบไหน ชื่อเวบอะไร ปรากฏว่า เป็นบ้าน บ้านศิลปะ ดนตรี กวีประชาชน
เวบนี้จริงๆ
บทเพลงคนพเนจร ในอัลบั้ม Theแมลงสาบ Project 1 ชุด ไอ้ถิก คนบ้าประจำซอย ผลงานเพลงที่ผลิตขึ้นมาเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ซึ่งเป็นอัลบั้มที่หาฟังยากมากๆ คุณไก่ แมลงสาบพึ่งจะอนุญาติให้นำเพลงมาเผยแพร่ทางอินเทอร์เนตได้ไม่นาน เพื่อเพิ่มช่องทางให้ผู้สนใจคลิกเข้ามาฟังบทเพลงดีๆเหล่านี้ได้ทุกเวลาที่ต้องการ ซึ่งบทเพลงในแบบของ Theแมลงสาบ Project บางคนฟังแล้วชื่นชอบ บางคนฟังแล้วเฉยๆ เนื้อหาในบทเพลงอาจจะไปตรงกับวิถีชีวิตหรือความคิดของคนฟังในเวลานั้น เมื่อเนื้อหาของเพลง เขียนได้ตรงใจคนฟัง จึงกลายเป็นความประทับใจในเวลาเพียงเสี้ยววินาที
"....เพลงนี้ พอฟังแล้ว เหมือนได้หยุดทบทวนตัวเองในช่วงเวลาที่กำลังสับสนกับชีวิตของตัวเอง บางคำในเพลงฟังแล้วรู้สึกเหมือนคนร้องพยายามจะบอกอะไรบางอย่างกับเรา เหมือนที่ผ่านมา เราเป็นคนพเนจร หาคำตอบให้กับชีวิตตัวเอง แต่ในบทเพลงก็เหมือนกับจะให้คำตอบบางอย่างไว้แล้ว...."
นี่เป็นคำอธิบายที่น้องชายของเพื่อน บอกออกมา ผู้สื่อข่าวลองเปิดฟัง เพลง คนพเนจร รู้สึกว่า เป็นบทเพลงที่มีความหมายที่ดี มีข้อคิดในบทเพลงหลายๆจุด แต่ผู้สื่อข่าวฟังแล้ว ไม่ได้รู้สึกแบบที่น้องชายของเพื่อนบอกมา
บางทีอาจจะขึ้นอยู่กับช่วงเวลาของชีวิต วันเวลาในช่วงนี้ของน้องคนนี้ มีหลายอย่างตรงกับเนื้อหาในบทเพลง คนพเนจร แต่ชีวิตในปัจจุบันของผู้สื่อข่าวไม่ได้ตรงกับบทเพลงนี้เหมือนอย่างน้อง จึงไม่ได้รู้สึกประทับใจมากมายเหมือนน้องคนนี้
แต่ที่น่าปลื้มใจ คือ บทเพลงนี้ ซึ่งหาฟังยาก เป็นเพลงที่เขียนออกมาเมื่อ 20 ปีก่อน ในวันและวัยของคนร้องและคนเขียนเพลงที่อยู่ในช่วงแสวงหาจุดหมายในชีวิตเช่นกัน น่าปลื้มใจที่บทเพลงที่มีกลุ่มคนฟัง จำนวนที่ไม่มากนักในปัจจุบัน ยังมีคนค้นพบ และฟังอย่างตั้งใจ ทั้งๆที่มีบทเพลงมากมายในยุคปัจจุบัน ที่เปิดให้ฟังนับครั้งไม่ถ้วน
แต่น้องคนนี้ ยังค้นพบบทเพลง คนพเนจร เปิดฟังและได้ข้อคิดเตือนสติของตัวเองได้..
ถึงแม้ น้องคนนี้ อาจจะเป็น 1 ในแสนคน หรือหนึ่งในล้านคนที่ค้นพบ-ฟังเพลงนี้แล้วคิดจนได้คำตอบบางอย่างก็ตาม
คนพเนจร
คำร้อง ต่อ พลเสน
ทำนอง แมลงสาป
บนเส้นทางที่แสนไกล จะก้าวไปดั่งใจหวัง
คงจะพบที่สุขสันต์ มีสักวันได้เป็นจริง
ตะวันจะลับขอบฟ้า เหมือนเป็นสัญญาเตือนให้
หยุดพักผ่อนอย่าร้อนใจ แล้วเอนกายลงข้างทาง
หรีดหริ่งประสานเสียง เป็นสำเนียงกล่อมไพร
หิ่งห้อยเจ้าน้อยไฟ วนเวียนไปไร้ทุกข์ตรม
บนเส้นทางที่ผ่านไป แดนศิวิไล อยู่ไกลห่าง
ไม่เคยพบเส้นทาง ฟ้าเลือนลางจะถามใคร
เดินทางมานานวัน เส้นทางนั้นย่อมเปลี่ยนแปลง
อ่อนระโหยโรยแรง ภายใต้แสงจันทรา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น