รายงานสถานการณ์ : วันที่ 24 มีนาคม 2554
ปกป้องพื้นที่ของตนจากการบุกรุกกับขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงาน...ใครชอบธรรม?
การกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐเรียกได้ว่า “สุดเถื่อน! จริงๆ” ขออภัยมา ณ โอกาสนี้ ที่ต้องขึ้นต้นด้วยคำแรงในลักษณะนี้ เพราะนึกไม่ออกเลยว่าจะหาคำใดมากล่าวแทนได้ดีกว่านี้อีกแล้ว อันเนื่องมาจากการพยายามทุกวิถีทางของเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. ที่จะลงไปในที่ดินของชาวบ้านเพื่อทำการก่อสร้างเสาและวางแนวสายส่งไฟฟ้าแรงสูง(ขนาด 500 กิโลโวลต์ (KV) น้ำพอง 2 – อุดรธานี 3 ที่ไทยจะรับซื้อไฟฟ้าจากเขื่อนน้ำงึม สปป.ลาว) พาดผ่านที่นาของชาวบ้านในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี
ทว่า ขณะนี้กลุ่มชาวบ้านจำนวน 55 ราย กำลังยื่นฟ้องคดีขอให้ กฟผ. เพิกถอนการก่อสร้างแนวสายส่งไฟฟ้าดังกล่าว ต่อศาลปกครองขอนแก่น และคดียังอยู่ในการพิจารณาของศาลปกครองอุดรธานี (โอนคดีจากศาลปกครองขอนแก่นมายังศาลปกครองอุดรธานี) แต่ กฟผ.ไม่รอรับฟังคำตัดสินของศาล เร่งเดินหน้าดำเนินการ โดยมีหนังสือแจ้งมายังกลุ่มชาวบ้าน ที่ถูกเสาไฟฟ้าและแนวสายส่งพาดผ่านจำนวน 10 ราย ในพื้นที่บ้านแม่นนท์ หมู่ 2 ต.หนองไผ่ อ.เมือง และบ้านเหล่ากล้วย หมู่ 3 ต.เสอเพลอ อ.กุมภวาปี ว่าจะลงมาทำการก่อสร้างเสาและขอเข้าพื้นที่ ซึ่งรายละเอียดตามหนังสือระบุว่าจะเริ่มเข้ามาดำเนินการตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม 2554 ที่ผ่านมา
แต่พฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ กฟผ. กลับปลิ้นปล้อน กล่าวคือ ใช้วิธีการจู่โจมโดยไม่ให้ชาวบ้านตั้งตัวทัน ยกโขยงกันมา 3 คันรถกระบะติดแค็ป ตั้งแต่เช้าของวันที่ 15 มีนาคม (ทั้งๆ ที่ในหนังสือแจ้งว่าเป็นวันที่ 17 มีนาคม) พอมาถึงก็ไม่พูดพร่ำฟังเสียงใคร หรือจะให้เกียรติเจ้าของบ้านโดยกล่าวคำขออนุญาตสักเล็กน้อยก็ไม่มี เดินลิ่วเข้าที่ดินของชาวบ้านเลยทันทีโดยมีจุดประสงค์ที่จะเข้าไปสำรวจดินก่อนทำการก่อสร้างเสาไฟฟ้า ดังเช่น กรณีของนายบุญเลี้ยง โยทะกา ชาวบ้านแม่นนท์ ซึ่งได้ออกมาขัดขวางเอาไว้ก่อนและยื้อกันนานเกือบ 1 ชั่วโมง จนชาวบ้านข้างเคียงหลาย 10 คน ทนดูพฤติกรรมของ เจ้าหน้าที่ กฟผ.ไม่ไหว จึงออกมาช่วย และให้กำลังใจนายบุญเลี้ยง หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ กฟผ. เห็นท่าจะไม่ดี ก็ค่อยถอยร่นขึ้นรถกลับไป
ช่วงบ่ายวันเดียวกันกลุ่มชาวบ้านจึงรีบทำหนังสือส่งไปถึง คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ร้องขอให้เจ้าหน้าที่ กฟผ. ยุติการลงพื้นที่เพื่อเข้ามาดำเนินการก่อสร้างเสาไฟฟ้าแรงสูงในบริเวณที่ดินของชาวบ้านในรายที่ยังไม่ยินยอม จนกว่าจะมีคำตัดสินของศาลปกครอง และขอให้เลิกพฤติกรรมข่มขู่ชาวบ้านด้วย
แต่ก็มิได้นำพา! เมื่อเจ้าหน้าที่ กฟผ. ยังคงเดินสายเข้าประกบพูดคุย กับชาวบ้านเป็นรายๆ ไป (น่าจะเรียกว่ารุมมากกว่าเพราะกฟผ. มาเป็นสิบต่อชาวบ้านหนึ่งหรือสองคน) ทั้งบ้านเหล่ากล้วย และบ้านแม่นนท์ แต่ชาวบ้านก็ยังคงยึดมั่นในจุดยืนและไม่ยอมตกหลุมพรางของเจ้าหน้าที่ กฟผ. ที่จะเข้ามาเจรจา เกลี้ยมกล่อม
สถานการณ์ดูเหมือนจะดีขึ้น เมื่อคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงมาตรวจสอบข้อเท็จจริง และทำบันทึกถ้อยคำชาวบ้าน ในช่วงเย็นของวันที่ 22 มีนาคม ส่งผลให้ความตึงเครียดในพื้นที่ได้ผ่อนคลายลงไปบ้าง แต่ภายในช่วงเวลาไม่ถึง 20 ชั่วโมง ก็ได้มีเหตุการณ์ที่ไม่นึกไม่ฝันว่าจะเกิดขึ้นกับบ้านเมืองเราที่ผู้คนเข้าใจว่า “เจริญแล้ว”
การกระทำอย่างไร้มนุษยธรรม และศีลธรรม (แต่อ้างว่าถูกกฎหมาย) ของเจ้าหน้าที่รัฐ เริ่มขึ้นในเช้าวันที่ 23 มีนาคม เมื่อเจ้าหน้าที่ กฟผ. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่อปพร. (แต่งเครื่องแบบเต็มยศ) จากท้องที่อ.เมือง อ.กุมภวาปี และอ.ประจักษ์ศิลปาคม เจ้าหน้าที่ช่างรังวัด และขุดเจาะสำรวจดิน รวมจำนวนกว่า 60 คน มีอุปกรณ์ช่างและอาวุธพร้อมมือ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายยังได้เหน็บอาวุธปืนพกสั้นที่เอว ซึ่งเห็นได้อย่างชัดเจนมาด้วย
พอมาถึงบ้านเหล่ากล้วย ในบริเวณที่นาของนายสง่า บุญโยรัตน์ และนางเคียม สุวรรณะ เจ้าหน้าที่ทั้งหมดได้กรูกันลงไปในที่นาของชาวบ้านโดยไม่ฟังเสียงทักท้วงใดๆ หรือแม้แต่คำร้องขอของชาวบ้าน เหตุการณ์ในช่วงเวลานั้นเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วโดยการจู่โจมของเจ้าหน้าที่ ด้านฝ่ายชาวบ้านมีอยู่ไม่ถึง 10 คน ได้จับมือกันขวางเอาไว้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้เข้าไปพูดคุยหลอกล่อ กันท่า และล็อค ชาวบ้านไว้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ กฟผ. และช่าง ลุยเข้าไปดำเนินการอย่างหน้าด้านๆ ในที่ดินของชาวบ้าน โดยไม่แยแสต่อเหตุการณ์ข้างเคียงที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนั้นเลย
สุดกำลังจะทัดทานของชาวบ้านก็ได้แต่ต่อว่าเจ้าหน้าที่ บ้างก็ร้องห่มร้องไห้ เนื่องจากมองไม่เห็นหนทางที่จะปกป้องที่ดินของตนได้ โดยเฉพาะนายสง่า พ่อเฒ่าวัยเกือบ 70 ปี เป็นลมล้มฟุบลงไปจนลูกหลานต้องรีบนำไปปฐมพยาบาล เพราะเกิดมายังไม่เคยพบเคยเห็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐต่อชาวบ้าน อันป่าเถื่อน! ไร้ขื่อไร้แปขนาดนี้
พอเวลาเกือบบ่าย 3 โมง เจ้าหน้าที่ ก็ได้ยกกำลังพลจากบ้านเหล่ากล้วย มายังบริเวณที่นาของนายบุญเลี้ยง โยทะกา ชาวบ้านแม่นนท์ต่อ โดยมีกลุ่มชาวบ้านเฝ้าระวังอยู่ไม่ถึง 10 คนเช่นกัน แต่เนื่องจากว่าที่นาของนายบุญเลี้ยง ไม่ติดถนน ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเสียเวลาเดินเรียงหน้าชน ลุยผ่านที่นาบริเวณข้างเคียงเข้ามา พอมาถึงเจ้าหน้าที่ก็ไม่ฟังเสียงชาวบ้านเหมือนอย่างเคย จะขุดเจาะสำรวจดินทันที นายบุญเลี้ยง และชาวบ้านคนอื่นๆ ได้ช่วยกันขัดขวาง
เจ้าหน้าที่ กฟผ. คนหนึ่ง จึงเข้ามาเจรจาด้วยโดยกล่าวว่า “ผมต้องทำตามขั้นตอนของกฎหมาย ส่วนการฟ้องร้องเป็นเรื่องของศาล เราจะทำควบคู่กันไป...”
“นี่มันที่ดินของผม” นายบุญเลี้ยงตอบโต้
“คุณกำลังขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงานมีความผิดตามกฎหมาย” เจ้าหน้าที่อีกคนพูดแทรกขึ้น ขณะเดียวกันก็พยายามผลักดันให้นายบุญเลี้ยงออกไปเพื่อจะได้ขุดเจาะสำรวจดิน
“ทำเลยๆ ไม่ต้องฟังเขาเถียงกัน” เจ้าหน้าที่อีกคนสั่งให้ลูกน้องดำเนินการ
นายบุญเลี้ยง และกลุ่มชาวบ้านที่มาก็ช่วยกันยื้อเอาไว้
“ผมปกป้องที่ดินของผมพวกคุณต่างหากที่เข้ามาบุกรุก” นายบุญเลี้ยง กล่าวขณะกำลังผลักดันกับเจ้าหน้าที่
ระหว่างนั้นก็ได้มีกลุ่มชาวบ้านรวมกันประมาณ 50 คน เดินทางมาช่วยนายบุญเลี้ยง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง ได้ช่วยกันด่าทอ และขับไล่ อยู่เป็นเวลาเกือบ 1 ชั่วโมง จึงสามารถผลักดันให้เจ้าหน้าที่ออกจากที่นาของนายบุญเลี้ยงไปได้
ถึงแม้ว่าเจ้าหน้าที่จะยอมถอยร่นออกไปจากที่นาของนายบุญเลี้ยง แต่พวกเขาก็ยังคงสามารถขุดเจาะสำรวจดินจนได้ โดยการขยับออกห่างจากจุดเดิมที่จะตั้งเสาไฟฟ้าในที่นาของนายบุญเลี้ยงไป ประมาณ 50 เมตร (โดนแปลงนาข้างเคียงที่อยู่ติดกัน) ทั้งๆ ที่ขณะนั้นเจ้าของที่นาข้างเคียงในแปลงดังกล่าว ไม่ได้อยู่ในบริเวณนั้นด้วยเลย และก็คงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอีกไม่กี่วันที่นาของตนกำลังจะถูกปักเสาส่งไฟฟ้าแรงสูงเสียแล้ว
น่าสลดใจยิ่งนักกับการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐที่กดหัวชาวบ้านให้ศิโรราบ โดยอาศัยอำนาจรัฐ และกฎหมายที่เข้าข้างตนเอง แต่ไม่เคยมองเห็นถึงความเป็นธรรม หรือศีลธรรมอันมนุษย์พึงมีต่อกัน ซึ่งก็ไม่เข้าใจว่ารัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดที่ใช้ในการปกครองประเทศ ในหมวดสิทธิและเสรีภาพของชนชาวไทย จะเขียนเอาไว้ทำไม?!!!
/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/
นายเดชา คำเบ้าเมือง
ศูนย์สื่อชุมชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ศสธ.)
ตู้ปณ.14 อ.เมือง จ.อุดรธานี 41000
โทรศัพท์ 081-3696266 อีเมล์ : hugtine@yahoo.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น