ศิลปินหลายคน มักจะมีคนแต่งเพลงให้ คนร้องไม่ได้แต่ง คนแต่งไม่ได้ร้อ คนที่แต่งเพลงเอง ร้องเองก็มีเช่นกัน สำหรับเพลงที่ผู้เป็นแม่ แต่งเองร้องเอง ในแวดวงเพลงเพื่อชีวิต ก็มีเพลง "นกเขาเถื่อน" ของศิลปินคีตาญชลี ซึงกล่าวได้ว่า เป็นครอบครัวคีตาญชลี เพราะทั้งคุณพ่อ คุณแม่ คุณลูก ล้วนเป็นศิลปินวงคีตาญชลีกันทั้งครอบครัว
ด้วยรูปแบบการทำงานอิสระ เป็นตัวของตัวเอง ทำเพลงแนวเพื่อชีวิต ตลอดระยะเวลากว่า 26 ปีที่ผ่านมา คีตาญชลีมีบทเพลงที่ประทับใจคนฟังมายาวนาน แต่ละบทเพลงของคีตาญชลีล้วนมีความหมายดีๆ หากมีโอกาสได้ฟังแล้ว สำหรับคนที่ต้องการฟังบทเพลงสร้างสรรค์จรรโลงใจดีๆ จะประทับใจในบทเพลงสำเนียงของคีตาญชลีทันที
เพลงนกเขาเถื่อน ฟังชื่อเพลงแล้ว ไม่น่าจะเกี่ยวกับแม่ตรงไหน แต่เนื้อหาในบทเพลงกลับแทนความรู้สึกของผู้เป็นแม่ ถึงลูกได้อย่างดีทีเดียว เพลงนี้ เขียนคำร้อง ทำนองโดย พี่รินทร์ สุรินทร์ อิสมันยี และขับร้องด้วยตัวเอง ด้วยสำนวนการเขียนเพลงที่เป็นเอกลักษณะเฉพาะตัว ได้ถ่ายทอดความรู้สึกของคนเป็นแม่ ผู้ก้าวเดินบนเส้นทางสายดนตรีมายาวนาน และอยู่กับมวลชนมาตลอด กับคำสอนจากใจแม่ ที่เตือนสติผู้เป็นลูกในหลายๆเรื่อง
"ลูกเอยยากจะเฉลยรำพัน ว่าหัวใจแม่นั้น ห่วงหาอาวรณ์เพียงใด
เจ้าไปศึกษาโอ้สาริกาบินไกล ปีกเจ้าอ่อนคลอนไหว แม่เกรงเจ้าไม่กลับคืน
โอ้ลูกเอ๋ย..ลูกแม่ เป็นห่วงแท้ๆแม่จอมขวัญ
เจ้าจากแม่ไปเนิ่นนานวัน เพื่อสร้างความฝัน เจ้าให้เฟื่องฟู
.....
แม่อยู่หลังยังคอยเฝ้า วอนคุณพระคุณเจ้าปกปักรักษา
ให้ลูกปลอดภัยจากหมู่อบายนาๆ กลับสู่บ้านป่าเต็มค่าของคน"
คนเป็นแม่ทุกคนเป็นห่วงลูก นี่คือ อีกหนึ่งบทเพลง ที่ความรู้สึกจากใจผู้เป็นแม่ถูกร้อยเรียงเป็นบทเพลงที่งดงาม หลายคนประทับใจกับเนื้อหาของเพลงนี้ แต่เด็กที่เติบโตในสังคมเมือง อาจไม่ซาบซึ้งกับทุกความหมายในบทเพลงนี้ เพราะอยู่ในสังคมวิถีชีวิตที่ต่างกัน แต่เนื้อหาในหลายส่วนที่เข้าใจได้ตรงกัน คือ ความรัก และความห่วงใยของผู้เป็นแม่ ที่เป็นอมตะนิรันดร์กาล
เพลง นกเขาเถื่อน
เนื้อร้อง, ทำนอง - สุรินทร์ อิสมันยี
เนื้อร้อง, ทำนอง - สุรินทร์ อิสมันยี
เจ้านกเขาเถื่อนเอย
อยู่เรือนเลี้ยงน้อง
แม่ไปขายของ
เลี้ยงน้องนะพ่อคุณเอย..
*****************
ลูกเอยแม่จะมิเปรยอย่างไร
ถึงจะหมดดวงใจ ที่มีรักให้แก่เจ้า
แม่หาบแม่คอน ไม่ท้อไม่ถอนเพื่อเจ้า
ถึงแม่เป็นคนโง่เขลา แต่แม่รักเจ้าจริงใจ
ลูกเอยยากจะเฉลยรำพัน
ว่าหัวใจแม่นั้น ห่วงหาอาวรณ์เพียงใด
เจ้าไปศึกษาโอ้สาริกาบินไกล
ปีกเจ้าอ่อนคลอนไหว แม่เกรงเจ้าไม่กลับคืน
โอ้ลูกเอ๋ย..ลูกแม่
เป็นห่วงแท้ๆแม่จอมขวัญ
เจ้าจากแม่ไปเนิ่นนานวัน
เพื่อสร้างความฝัน เจ้าให้เฟื่องฟู
แม่ภูมิใจในความคิด
แต่ยังหวั่นจิตคิดห่วงเจ้าหนู
สังคมกว้างใหญ่ก็มากมายพอดู
มีสิ่งงามหรูล่อตาล่อใจ
ปีกเจ้ายังอ่อน เพิ่งสอนขัน
ตามเล่ห์ไม่ทันอาจหวั่นไหว
หากเจ้าเลยละถืออิสระแห่งใจ
อาจต้องเสียดาย ค่าความ.เป็นคน
เจ้าต้องศึกษาวิชาที่หวัง
เพื่อเป็นพลังแห่งสำเร็จผล
อย่าปล่อยให้วันลอย อย่าปล่อยให้ใจเสียคน
ลืมเหตุลืมผลพิจารณา
แม่อยู่หลังยังคอยเฝ้า
วอนคุณพระคุณเจ้าปกปักรักษา
ให้ลูกปลอดภัยจากหมู่อบายนาๆ
กลับสู่บ้านป่าเต็มค่าของคน
ให้รักถิ่นฐานบ้านเกิดเมืองป่า
ให้ซึ้งคุณค่าข้าวกล้าหยาดฝน
อย่าเหยียดสาบเสื่อเหงื่อไคลคนจน
สละใจของตนเพื่อปวงชนเถิดเอย...
อยู่เรือนเลี้ยงน้อง
แม่ไปขายของ
เลี้ยงน้องนะพ่อคุณเอย..
*****************
ลูกเอยแม่จะมิเปรยอย่างไร
ถึงจะหมดดวงใจ ที่มีรักให้แก่เจ้า
แม่หาบแม่คอน ไม่ท้อไม่ถอนเพื่อเจ้า
ถึงแม่เป็นคนโง่เขลา แต่แม่รักเจ้าจริงใจ
ลูกเอยยากจะเฉลยรำพัน
ว่าหัวใจแม่นั้น ห่วงหาอาวรณ์เพียงใด
เจ้าไปศึกษาโอ้สาริกาบินไกล
ปีกเจ้าอ่อนคลอนไหว แม่เกรงเจ้าไม่กลับคืน
โอ้ลูกเอ๋ย..ลูกแม่
เป็นห่วงแท้ๆแม่จอมขวัญ
เจ้าจากแม่ไปเนิ่นนานวัน
เพื่อสร้างความฝัน เจ้าให้เฟื่องฟู
แม่ภูมิใจในความคิด
แต่ยังหวั่นจิตคิดห่วงเจ้าหนู
สังคมกว้างใหญ่ก็มากมายพอดู
มีสิ่งงามหรูล่อตาล่อใจ
ปีกเจ้ายังอ่อน เพิ่งสอนขัน
ตามเล่ห์ไม่ทันอาจหวั่นไหว
หากเจ้าเลยละถืออิสระแห่งใจ
อาจต้องเสียดาย ค่าความ.เป็นคน
เจ้าต้องศึกษาวิชาที่หวัง
เพื่อเป็นพลังแห่งสำเร็จผล
อย่าปล่อยให้วันลอย อย่าปล่อยให้ใจเสียคน
ลืมเหตุลืมผลพิจารณา
แม่อยู่หลังยังคอยเฝ้า
วอนคุณพระคุณเจ้าปกปักรักษา
ให้ลูกปลอดภัยจากหมู่อบายนาๆ
กลับสู่บ้านป่าเต็มค่าของคน
ให้รักถิ่นฐานบ้านเกิดเมืองป่า
ให้ซึ้งคุณค่าข้าวกล้าหยาดฝน
อย่าเหยียดสาบเสื่อเหงื่อไคลคนจน
สละใจของตนเพื่อปวงชนเถิดเอย...
-----
คีตาญชลี เป็นวงดนตรีแนวให้การเรียนรู้เสริมกำลังใจให้คนได้ออกไปเป็นพลังสร้างสรรค์ให้กับสังคม คนทั่วไปอาจจะเรียกว่าวงเพื่อชีวิต สมาชิกวงมีแค่ ๒ คนคือสมศักดิ์ อิสมันยี และคุณครูสุรินทร์ อิสมันยี ต่อมาก็มีลูกสาวซึ่งก็เติบโตและเป็นลูกไม้ไม่ไกลต้น ร่วมเป็นสมาชิกไปตามโอกาสที่จะว่างจากการเล่าเรียนมาเล่นได้ คือ น้องข้าว ซึ่งเล่นซอ กับน้องเกลือซึ่งเล่นไวโอลิน แต่เดิมนั้น วงคีตาญชลีชื่อวงว่า สายทิพย์ ต่อมาก็เปลี่ยนใช้ชื่อวงว่า คีตาญชลี เป็นชื่องานเขียนของมหากวีชาวอินเดีย รพินทรนาถ ฐากูร ซึ่งเป็นนักเขียนรางวัลโนเบลคนแรกของเอเชีย แปลว่า การคารวะด้วยดนตรี
เพลงที่เป็นที่รู้จักกันดีของนักฟังดนตรีในแนวนี้ก็คือ เพลงแสงดาวแห่งศรัทธา | เพลงนกเขาเถื่อน ซึ่งท่วงทำนองและเนื้อหาเป็นเพลงกล่อมลูก เพลงอยากให้ความรักแก่คนทั้งโลก ในปีสองปีหลังพี่เขาก็อุตส่าห์แต่งเพลง ดอกไม้แห่งเอเชีย ที่มีความเป็นนานาชาติมาเล่นให้แก่เวที
ที่มา คจ-๓.ชีวิตการงานที่งอกงามไปด้วยกัน : วงคีตาญชลี
http://gotoknow.org/blog/livelesson/299204
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น