ความจริงแล้ววันที่ 13 ธ.ค.2553 มีการรวมพลังของชาววิทยุชุมชนที่ กทช. กรุงเทพฯ แต่นายบอนจองตั๋วรถทัวร์เพื่อเข้า กทม.ในคืนวันที่ 12 ธค.ไม่ได้ เพราะเป็นวันหยุดยาว ตั๋วเต็มหมด เลยเดินทางมาพบคุณไก่ แมลงสาบ และคุณพระอาทิตย์ในช่วงเย็นวันที่ 13 ธ.ค.ที่พัทยา ซึ่งคุณไก่ เมื่อเสร็จจากงานรวมพลังชาววิทยุชุมชนก็จะกลับมาพัทยา มารอรับนายบอนที่พัทยากลางในตอนค่ำ
จากโคราช นั่งรถนครชัยทัวร์สายเลย-ระยอง จาก 14.30 น.ถึงพัทยา 20.20 น. คุณไก่จอดรถรอ เขียนเพลงไปพลางๆ พอลงจากรถก็เจอรถเก๋งคู่ใจของคุณพระอาทิตย์จอดรออยู่แล้ว เมื่อเดินมาที่รถสวัสดีทักทายกันเรียบร้อย คุณพระอาทิตย์ชี้ให้ดูกล่องใส่พระเครื่องที่เบาะหลังรถ และที่หน้ารถมีวางเรียงหลายตลับ คุณไก่ไปหาซื้อมาจากแถวสนามหลวง คราวนี้ซื้อมาได้เยอะกว่าเมื่อเจอกันคราวก่อน ส่วนหนึ่งบอกว่าเตรียมไว้ให้ลุงสุเวศน์ด้วย
ตั้งแต่ 9-13 ธ.ค. คุณไก่ แมลงสาบรับงานมาตลอด ทั้งงานใน กทม.-ราชบุรี - พัทยา วันที่ 11 ธค.ไปร้องเพลงที่ราชบุรี เลิกตี 3 วันที่ 12 ธค.ก็มาร้องในงานเทศกาลอาหารที่พัทยา 13 ธค. ก็เข้า กทม.ช่วยงานรวมพลังชาววิทยุชุมชน ร้องเพลงจนเสียงไม่มี พักผ่อนน้อย และ 14 ธ.ค. ก็มีเวทีประท้วงการตั้งนิคมอุตสาหกรรมอีก รับงาน 6 วันติดต่อกันเลย ระหว่างขับรถกลับบ้านห้วยขวาง พี่ต่อ เสบียงก็โทรมาฝากซื้อข้าวกล่อง 3 กล่องเข้าไปด้วย คุณไก่ แวะจอดรถกินข้าวต้มปลาที่ร้านหน้าทางเข้าบ้าน และสั่งข้าว 3 กล่อง ทานกันอิ่มแล้ว ก็เข้าไปในบ้านห้วยขวาง
รถจอดหน้าบ้านศิลปะ ดนตรี กวีประชาชน พี่ต่อ นั่งตั้งวงจิบยาดอง มีต้มกบเป็นกับแกล้ม นายบอนเลยเข้าไปนั่งร่วมวงทันที ที่โต๊ะหินอ่อนในสวนข้างสถานีวิทยุ ซึ่งตอนนี้ ออกอากาศได้ตามปกติแล้ว และได้เปลี่ยนคลื่นความถี่เป็น 98.10 MHz เพื่อเพิ่มโอกาสให้รถยนต์เครื่องยุโรปรับฟังสัญญาณวิทยุได้ เพราะรถเครื่องยุโรป รับความถี่วิทยุ .05 ไม่ได้ พี่ต่อบอกว่า มีสถานีวิทยุบางคลื่น ทำแบบคลื่น FM 98.10 MHz คือการเปิดเพลงและมีหลักปรัชญาเหมือนกัน
ที่วงสังสรรค์ มีพี่ต่อกับพี่แสวงนั่งอยู่ ..กำลังคุยเรื่องกลุ่มเสบียง ที่มีสมาชิกหลัก 7-8 คน ซึ่งแต่ละคนถือได้ว่าเป็นเจ้าของกิจการส่วนตัวกันทั้งนั้น เมื่อเวลาผ่านไป แต่ละคนมีแนวคิดของตัวเอง จนมีแต่คนอยากจะเป็นผู้นำของกลุ่ม พี่ต่อจึงเสนอแนะให้แต่ละคน ทำกลุ่มของตัวเองตามแนวทางที่อยากทำ แล้วค่อยมาประสานงานกัน ถ้ามีแต่คนคิดอยากเป็นผู้นำทั้งหมด งานก็ไม่เกิด เมื่อแต่ละคนเติบโตขึ้น อยากให้ทำกลุ่มของตัวเองไปเลย เช่น กลุ่มเชียงใหม่ กลุ่มระยอง ส่วนพี่ต่อจะเริ่มต้นฟอร์มกลุ่มเสบียงขึ้นมาใหม่ ให้มีความชัดเจนมากขึ้น มีแนวคิดเก็บเงินจากสมาชิกไว้เป็นกองกลางทำกิจกรรม เก็บเงินเดือนละ 100-200 บาท แล้วแต่ความเหมาะสม
พี่ต่อมักจะมีเรื่องเล่าจากป่าให้ฟังอยู่เสมอ ครั้งหนึ่งทั่ไปตระเวณในป่าทางภาคเหนือ ไปกางเต๊นท์ในป่า 7 วัน ก่อกองไฟคืนแรก เช้ามากองไฟดูเหมือนจะมอด เหลือแต่กองขี้เถ้า แต่เมื่อใส่ฟืนเข้าไป เป่าลมใส่ไฟก็ลุกได้ตลอด อยู่ในป่า 7 วัน กองไฟไม่เคยดับ ไม่มอด ใส่ฟืนไปเมื่อไหร่ไฟลุกติดตลอด กองไฟยังมีเชื้อ ...ไปทำงานในป่า 7 วัน แม้ว่าในระหว่างการเดินทางและช่วงพัก จะดื่มกินจนเมา แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องทำงาน ก็จะทำงานกันอย่างเต็มที่
มีอยู่ครั้งหนึ่ง นอนกางเต๊นท์ในป่า พอตอนเช้ามืด พี่ต่อลุกขึ้นมาสวดมนต์ นั่งสมาธิ เสียงสวดมนต์ยามเช้ามืด ดังไปทั่บริเวณนั้น ซึ่งรอบๆบริเวณมีแต่ความเงียบสงบ จนกระทั่งพี่ต่อสวดมนต์เสร็จ ความเงียบกลับคืนมาอีกครั้ง เด็กชาวกะเหรี่ยงที่ตามไปด้วย พูดขึ้นว่า
"พระกลับไปแล้ว..."
ทำเอาทีมงาน ฮากันตรึม...
พี่ต่อกำลังเล่าอยู่เพลินๆ น้องปลาก็มาอ้อน ชวนพี่ต่อไปดูรองเท้าในบ้านศิลปะ ดนตรี กวีประชาชน เพราะคุณพระอาทิตย์เจ้าของบ้านกลับมาแล้ว เลยอยากได้รองเท้าสวยๆคู่ใหม่ พี่ต่อเลยพาไป นายบอนนั่งอยู่กับพี่แสวง ซึ่งอยู่ที่บางสะเหร่ พี่แสวงเลยเล่าให้ฟังว่า แต่ก่อนเขาชอบฟังเพลงของคาราบาว และเพลงที่ได้ยินจากทีวี จนวันหนึ่งได้ยินเพลง ตะเกียงเคียงดาว, สิ้นสาว ฯลฯ แล้วประทับใจจนตามหาเทปคาสเสต ฟังแล้วทึ่ง ประทับใจ และชื่นชอบเพลงใต้ดินแบบนี้ เป็นงานเพลงที่น่าฟังและเนื้อหาเป็นเรื่องจริงที่สัมผัสได้ เขาชื่นชอบศิลปินที่คิดเองทำเอง พึ่งตนเอง สร้างงานเพลงในแนวทางของตนเองได้ ถึงแม้ว่า การบันทึกเสียง เมื่อฟังแล้ว อาจจะไม่สมบูรณ์ มีเสียงก๊องแก๊ง แต่เนื้อหาของเพลง ดีจริงๆ พี่แสวงเลยตามหาจนมาเจอศิลปินเจ้าของผลงานเพลง ซึ่งอยู่ใกล้ๆแค่นี้เอง จนได้มาเจอ เป็นเพื่อนกัน ร่วมทีมกลุ่มเสบียงด้วยกันจนถึงปัจจุบัน
เมื่อพี่ต่อเดินกลับมาร่วมวง พี่แสวงบอกว่า ถ้าให้เขาจัดเพลง 10 เพลงให้เป็นอัลบั้ม เขาสามารถจัดได้ทันที ถ้ามีโอกาสน่าจะเอาเพลงของพี่ต่อไปทำดนตรีใหม่ให้มีความร่วมสมัยมากขึ้น จะได้มีคนฟังมากขึ้น บางเพลงของพี่ต่อ เมื่อน้าหงา คาราวานเอาไปร้องบนเวที เพลงนั้นมีคนชอบ โด่งดัง คนฟังรู้จัก จนมีคนคิดว่าเป็นเพลงที่พี่หงา คาราวานแต่ง แต่พี่แสวงก็ชี้บอกว่า คนนี้แหละ พี่ต่อ เสบียง เป็นคนแต่งเอง
ใกล้ 4 ทุ่ม พี่แสวงก็ขอตัวกลับ คุณไก่ ก็ขอตัวไปพักผ่อนตั้งแต่มาถึงบ้านแล้วเพราะนอนน้อยมาตลอด 4-5 วัน พี่ต่อก็เก็บแก้ว เข้ามานั่งในสถานีวิทยุ เปิด Notebook ต่อ Internet ให้ดู บอกว่าอินเทอร์เนตที่ใช้เบอร์ของสถานีวิทยุเชื่อมต่อ ความเร็วช้ามากๆ นายบอนเลยลองเช็ค เข้าเวบ วัดความเร็วอินเทอร์เนต ทดสอบดูแล้ว ช้ามากจริงๆ สักพักน้องปลาเลยเข้ามานั่งเล่น HI5 ต่อ พี่ต่อก็เปิดเพลงเพื่อชีวิตหนักๆ ให้ฟัง ทั้งเพลงของพี่วสันต์ สิทธิเขตต์ ที่เคย กินนอน ร่วมต่อสู้มากับพี่ต่อ ฟังเพลงจนง่วง และน้องปลาก็กลับไปนอนแล้ว พี่ต่อก็ปิดไฟนอน ปูเสื่อ ปูผ้านอน ปูเสื่อให้นายบอนนอนข้างๆ ตี 4-5 พี่ต่อจะลุกมาเปิดธรรมะ เปิดสถานีวิทยุแต่เช้า
ปิดไฟนอนแล้ว พี่ต่อก็เล่าให้ฟังอีกว่า แต่ละวันในชีวิตชักจำเจ เบื่อๆ หลายอย่างก็ทำมาหมดแล้ว ทุกวันนี้ อยู่กับสติ สมาธิ ปฏิบัติธรรม แต่ยังรักษาศีลไม่ครบ 5 ข้อ คือ ข้อ 5 เรื่องสุรานี่แหละ พรรคพวกแวะมาชวนตั้งวงดื่มเหล้าจิบยาดองทุกวัน ก็กินไปงั้นๆแหละ เมื่ออยู่กับสมาธิ สวดมนต์ ทำให้พี่ต่อได้เห็นวิญญาณ ที่ศาลาปลื้มใจ ที่นอนๆอยู่นี้ หมู่บ้านนี้ไม่มีวัด ไม่มีโรงเรียน แต่พี่ต่อเคยเห็นวิญญาณ
วันหนึ่งขณะล้มตัวลงนอน ที่ๆนอนเป็นประจำ .ตรงที่นายบอนกำลังนอนในคืนนั้น..
"เฮ๊ย มานอนทับที่ของข้าทำไม" เสียงวิญญาณพูดกับพี่ต่อในคืนวันหนึ่ง ..แล้วพี่ต่อก็เล่าว่า คุยกับวิญญาณได้ เล่าให้ฟังเหมือนเรื่องปกติ
แหม มาเล่าให้ฟังยามดึก บอกว่า ตรงที่นายบอนนอนอยู่ นอนทับที่ของวิญญาณ แต่เพราะไม่เคยเห็นสักที และก็ง่วงพอสมควร เป็นไงก็เป็นกัน เผื่อจะได้เจอมั่ง แต่ก็ไม่เจอ
ก่อนหลับ พี่ต่อยังเล่าเรื่องน้องปลาให้ฟัง Notebook ที่เอามาต่ออินเทอร๋เนต ก็ยกให้น้องปลาไปแล้ว เมื่อพี่ต่อเอาน้องปลามาเลี้ยง น้องปลาก็ติด พี่ต่อเหลือเกิน ตอนเช้า เมื่อน้องปลาจะไปเรียนหนังสือ พี่ต่อก็เตรียมเงินไว้ให้ และสอนให้น้องปลาให้สวดมนต์ให้ฟัง ให้ท่องคาถาชินบัญชรให้ฟัง เพื่อเป็นการฝึกสมาธิ เมื่อท่องจนจบ พี่ต่อถึงจะให้เงินไปโรงเรียน
ด้วยความเป็นเด็ก บางทีน้องปลาก็รีบท่องเร็วๆเพื่อให้จบ
"จะรีบท่องไปไหน ท่องให้เป็นจังหวะสิ ไม่ต้องรีบขนาดนั้น"
น้องปลาจึงต้องท่อง นะโม ตัสสะ เพราะพี่ต่อ อยากให้ฝึกสมาธิ ฝีกสติ สิ่งนี้จะได้ติดตัวน้องปลาไปตลอดชีวิต
น้องปลาติดพี่ต่อมาก (เรียกลุงต่อ) ดูเหมือนเป็นพ่อ เป็นเพื่อนซี้ เป็นพี่ ตอนค่ำ เมื่อคุณไก่ เอาข้าวกล่องที่ให้ซื้อเข้ามา น้องปลามาเปิดดู หยิบเอาไปทาน 1 กล่อง ทานเสร็จ กลับเข้ามาเอากับที่ไม่ทานมาใส่ถ้วยให้ลุงต่อเป็นกับแกล้ม
ช่วงนี้ พี่ต่อทำงานให้วัด ดูแลต้นไม้ ตกแต่งสวน ฯลฯ เมื่อทำงานให้วัดจะใช้เครื่องมือ อุปกรณ์ของตัวเอง ไม่เคยเบิกเงินค่าใช้จ่ายจากทางวัด เพราะเครื่องมือต่างๆ ก็ใช้ในงานของตัวเองอยู่แล้ว หลวงพ่อก็ไม่เคยถาม แต่ถ้าจะขอเบิก หลวงพ่อก็จะให้ พี่ต่อลงทุนทำหลายอย่าง และเร็วๆนี้ กำลังจะทำโรงปุ๋ยอินทรีย์อีกแล้ว
.เช้าวันที่ 14 ธค. พี่ต่อเปิดเครื่องส่งสัญญาณของวิทยุชุมชน เปิดธรรมะรับอรุณ แล้วนอนฟังจนสว่าง ก็ออกไปดูต้นไม้ ดูสวน กินกาแฟ 8 โมงเช้า หลานคุณไก่ก็แวะมาหาคุณไก่ เรื่องซ่อมแซมคอมพิวเตอร์และอุปกร์ในสถานีวิทยุ ซึ่งคุณไก่บอกว่า ติดต่อซื้ออุปกรณ์ราคาถูกจากศูนย์คอมศรีราชา ซึ่งมักจะหาสินค้ามือหนึ่งได้ในราคาถูกกว่าท้องตลาด อย่างการ์ดจอ ขาย 3900 บาท แต่ศูนย์คอมหามาได้ในราคา 3000 บาท เมื่อไปติดต่อครั้งแรก คุณไก่ได้ขอเบอร์โทรไว้ โทรไปสอบถามและสั่งให้หาสินค้าไว้เลย ทางนั้นจะหาสินค้าเตรียมไว้ทันที
เรื่องที่หลานคุณไก่มาพบ ทำเอาคุณไก่ต้องงบประมาณบานปลายอีกแล้ว แม้จะบอกให้หลานเช็คอุปกรณ์ที่ต้องซ่อม จะได้เตรียมงบประมาณให้พอดี ให้ไปแล้ว 2000 บาท แต่งบบานปลาย .. เลยบ่นนิดว่า น่าจะตรวจดูทีเดียวทั้งหมด จะได้จ่ายทีเดียว ตั้งแต่ฟ้าผ่าเสาวิทยุ ก็ต้องหาเงินมาซ่อมอุปกรณ์ หมดไปหลายหมื่นบาท ช่วงที่ไม่ได้ออกอากาศเลยไม่กล้าเก็บเงินบำรุงสถานีจากสมาชิกคนละ 100 บาท/เดือน เมื่อหลานกลับไป คุณพระอาทิตย์ก็มาตามไปทานข้าวเช้า งานนี้คุณพระอาทิตย์เข้าครัว โชว์ฝีมือให้ได้ลิ้มรส
เห็นกับข้าว หน้าตาน่าทานแล้ว รสชาติก็อร่อยจริงๆ ต่อไปคงต้องตามไปถ่ายทำวิดีโอขณะเข้าครัวซะแล้ว ว่ากับข้าวบ้านของศิลปินก็ไม่ธรรมดาเหมือนกัน
หลังอาหารมื้อเช้า ก็เป็นเวลาส่วนตัว ทำงานบ้านและพักผ่อน บางจังหวะ คุณพระอาทิตย์จะมานั่งที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ท่องอินเทอร์เนต ส่งเมล์ เข้า facebook ติดตามงานต่างๆ ส่งไฟล์งานบ้าง อ่านข่าวต่างๆบ้าง ในบ้านเปิดเป็นร้านขายเสื้อผ้าสวยๆ มีลูกค้าแวะเวียนมาเลือกดูเลือกซื้อเสื้อผ้าอยู่เรื่อยๆ ส่วนสถานีวิทยุ จะมีคนคอยดูแล มีผู้ดำเนินรายการเป็นช่วงๆ บางช่วงก็เปิดเพลงให้ฟันกันอย่างเต็มอิ่มตลอดทั้งวัน มีบางช่วงจะเดินไปจัดรายการ พูดคุยแจ้งข่าวสารต่างๆให้รับรู้กัน
ช่วงสายๆ คุณพระอาทิตย์ออกไปร้านทำผม พอดีมีลูกค้าแวะมาดูเสื้อผ้า และต้องการซื้อชุดที่ถูกใจ คุณไก่รีบโทรบอกคุณพระอาทิตย์ ให้กลับมาขายเสื้อผ้า แต่ก็ไม่มาสักที ก็เลยต้องเป็นพ่อค้าจำเป็น ขายไม่เป็นหรอก บอกให้ลูกค้าเลือกชุดที่ต้องการ แล้วต่อโทรศัพท์ให้ลูกค้าคุยกับคุณพระอาทิตย์ ถามราคา ถ้าลูกค้าจะต่อรอง คุณพระอาทิตย์ก็บอกแล้วแต่คุณไก่ จนลูกค้าควักเงินมาจ่าย 200 บาท ..แล้วศิลปินเพื่อชีวิตก็กลายเป็นพ่อค้าขายเสื้อผ้าผู้หญิงจนได้....
ช่วงบ่ายวันที่ 14 มีเวทีชุมนุมคัดค้าน การตั้งนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร 2 ที่วัดหนองอ้อ ต.เกาะลอย อ.พานทอง จ.ชลบุรี คุณไก่ เลยแจ้งข้อมูลให้นายบอนเขียนรายละเอียดข่าว ลงประกาศในเวบไซต์ เวทีเริ่มตอนบ่ายโมง คุณไก่จะไปขึ้นเวทีตอนบ่าย 3 ช่วงเที่ยง คุณแม่ของคุณไก่ ขนอาหารจากวัดกลับมา บอกให้ไปเอาขนม + อาหารมาทานกัน เวลาล่วงเลยไปจนบ่าย 2 โมง เมื่อคุณไก่และคุณพระอาทิตย์ แต่งตัวเสร็จ ก็ขึ้นรถออกเดินทางไปร่วมเวทีชุมนุม โทรสอบถามเส้นทางจนเข้าใจชัดเจน ระหว่างการเดินทาง ทั้งคู่ก็ปรึกษาหารือเรื่องการจัดงานครบรอบ 2 ปีสถานีวิทยุชุมชน ในการวางงานส่วนต่างๆ ทั้งเรื่องอาหาร ที่พัก เวที, สถานที่, คนรับโทรศัพท์บอกเส้นทาง พูดคุยเตรียมงานตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อให้งานออกมาดีที่สุด
14.30 น.แล้ว พึ่งออกจากพัทยามาไม่ไกล คุณไก่รีบขับรถขึ้นทางมอเตอร์เวย์ ซิ่งสุดๆ ขับเข้า อ.พานทอง โทรถามเส้นทาง จนมาถึงวัดหนองอ้อ พอโผล่เข้าไป ก็เป็นช่วงท้ายๆของการชุมนุมแล้ว หลายคน เช่น อ.เข้ม มาขึ้นเวทีก่อนแล้ว พูดเสร็จก็กลับทันที แต่ก็ทันได้เห็นคุณสุทธิ อัชฌาสัยขึ้นพูดบนเวที พูดเสร็จ ก็รีบกลับ คุณไก่ก็รีบแต่งเพลง "หยุดอุตสาหกรรม" แล้วขึ้นเวทีร้อง 2เพลง คือ หยุดอุตสาหกรรม และ กู้ชาติด้วยศาสตร์พระราชา จนมีคนถามถึง อยากได้เพลงนี้ไปฟัง คุณไก่ แจกซีดีในงานก่อนๆจนหมดแล้ว เลยแนะนำให้เปิดดูในเวบไซต์ของกลุ่มศิลปะ ดนตรี กวีประชาชน แทนละกัน แล้วก็ให้เขียนที่อยู่เวบใส่กระดาษ แบบนี้ คงต้องทำนามบัตรที่บอกที่อยู่เวบ พร้อมอีเมล์ไว้แล้ว หลังจากนั้น อ.ทวีศักดิ์ กล่าวปิดเวที ชาวบ้านทยอยกลับ มาถึงเวทีไม่ถึงชั่วโมงก็ต้องกลับแล้ว แต่จะมีการตั้งเวทีในครั้งต่อไป ซึ่งจะได้แจ้งข่าวและเตรียมงานให้พร้อมมากกว่านี้
เมื่อได้กลับเร็ว ก็ขับรถเข้าตัวอำเภอพานทอง มาขับวนให้ถ่ายรูปที่ว่าการอำเภอและหอนาฬิกา คุณไก่ เล่าว่า แต่ก่อนที่อำเภอนี้เป็นแหล่งเผาอิฐแดง มีเตาเผาอิฐ ผลิตอิฐที่ขึ้นชื่อมากๆ
จากพานทอง ขับรถไปทาง อ.บ้านบึง เข้าพัทยา ระหว่างเดินทางคุณไก่ โทรหา อ.ยักษ์ (วิวัฒน์ ศัลยกำธร) , อ.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง แต่ไม่อยู่ทั้งคู่ เลยไปร้านลุงไสว ริมทะเลพัทยา ไปเจอคุณกนก สั่งอาหารซีฟู๊ดมาเลี้ยง และรับปากเป็นคนดูแลเรื่องอาหารในงานคอนเสิร์ตครบรอบ 2 ปีสถานีวิทยุชุมชน ช่วงนั้น นักกีฬาที่มาแข่ง ชลบุรีเกมส์ แวะมากินข้าวที่ร้านลุงไสว คุณกนกเจอนักกีฬาจากระนอง เลยเข้าไปทักทายพูดคุยเพราะเป็นคนบ้านเดียวกัน คุณไก่ แมลงสาบเลยหยิบโทรศัพท์มือถือของคุณกนกที่วางไว้บนโต๊ะ กดสมัครริงโทนเพลงกีฬาแห่งชาติให้ซะเลย
กลับจากร้านลุงไสว มาที่บ้านห้วยขวาง พี่ต่อย้ายโต๊ะมาตั้งวงสังสรรค์ข้างสถานี 4 ทุ่ม คุณไก่ - คุณพระอาทิตย์ มาจัดรายการวิทยุ บันทึกวิดีโอ พูดเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง เลยถือโอกาสแจ้งข่าวต่างๆไปด้วย
พี่ต่อซึ่งนั่งสังสรรค์อยู่ข้างนอก ก็เลิกวงสังสรรค์ เพราะมีคนที่เมามาก เลยเลิกเพื่อให้แยกย้ายกันกลับ
ช่วงจัดรายการวิทยุ ก็มีโทรศัพท์มาแจ้งว่า ลูกชายของน้าหมู พงษ์เทพ พึ่งเสียชีวิต ทำให้น้าหมู ไม่สามารถมาเล่นดนตรีที่ระยองได้ มีคนโทรมาติดต่อคุณพระอาทิตย์ ให้หาวงใหม่มาเล่นแทนหมูพงษ์เทพด้วย พอจัดรายการวิทยุเสร็จ ก็โทรติดต่อประสานงานจนถึงตี 1 โดยช่วงเย็นวันที่ 15 ธค. คุณไก่ แมลงสาบจะต้องไปช่วยเล่นในงานนั้นด้วย
เช้า 15ธ.ค.2553 บอกคุณไก่ แมลงสาบให้แต่งเพลง "ขอเป็นคนดีเพื่อพ่อหลวง" ให้กับกลุ่มดินรักษ์ฟ้า ซึ่งคุณไก่ก็แต่งให้เสร็จก่อนอาหารมื้อเช้า
หลังอาหารมื้อเช้าผ่านไป ก็เป็นช่วงเวลาพักผ่อน คุณไก่ ให้นายบอนเลือกเพลงใส่เพลงของคลื่น 98.10 MHz ไว้ 3 ชั่วโมง ลูกกรุง ลูกทุ่ง เพื่อชีวิต แล้วต่างคนก็ทำภาระกิจของตัวเองไป ช่วงหนึ่งคุณไก่ มานั่งเล่นอินเทอร์เนต คลิกบางโปรแกรมแล้วถามว่า ทำยังไง แล้วพูดให้ข้อคิดว่า
"เวลาที่ใช้คอมพิวเตอร์ บางครั้งก็ไม่จำเป็นที่จะต้องรู้ทุกอย่าง เมื่อไม่รู้ก็โทรถามเพื่อนๆว่า ทำยังไง จะได้มีเรื่องคุย ติดต่อสื่อสารกับเรื่อยๆ " เป็นเคล็ดลับง่ายๆที่ทำให้คุณไก่ ติดต่อกับพรรคพวกได้อย่างต่อเนื่อง
บ่ายโมงเศษ ก็ขับรถพาไปดูสถานที่จัดงานครบรอบ 2 ปี สถานีวิทยุชุมชนแล้ว แวะมาส่งนายบอนที่สถานีรถไฟบ้านห้วยขวาง นั่งรถไฟฟรีเข้า กทม.ตอน 14.00 น. พอมาถึงสถานีรถไฟ เห็นชื่อนายสถานี.. คุณพระอาทิตย์ก็จำได้ว่าชื่อที่เห็นนี้ ฝากเงินไปช่วยสถานีวิทยุ และฝากคำชมด้วยว่าชอบฟังคลื่นศิลปะ ดนตรี กวีประชาชน
ก่อนจาก คุณไก่บอกว่า ตอนเย็นต้องไปเล่นดนตรีกับวงซูซู ที่มาเล่นแทนน้าหมู พงษ์เทพ โทรคุยกับเจ้าของงานเรียบร้อย พูดถึงศิลปินบางคนที่คิดจะโทรติดต่อมาเล่นแทน แต่ดูแล้วคงไม่เหมาะกับงานลักษณะนี้ แล้วพูดถึงการเปิดเพลงใน FM 98.10 MHz ที่เลือกแต่เพลงที่มีเนื้อหาสาระดีๆเท่านั้น ถ้าศิลปินคนนั้นมีเพลงดัง เป็นเพลงที่มีเนื้อหาที่ไม่ดี เช่น พูดเรื่องชู้สาว เรื่องเสื่อมเสียศีลธรรม ต่อให้มีเพลงดีๆเพลงอื่นในอัลบั้มที่น่าจะนำมาเปิด แต่ถ้าเปิดเพลงของศิลปินคนนั้นแล้ว คนฟังก็จะนึกถึงเพลงดังของศิลปินคนนั้นด้วย เลยเลือกที่จะไม่เปิดเพลงของคนนั้นดีกว่า
รถไฟมาถึงสถานีบ้านห้วยขวาง 14.00 น. มีเด็กนักเรียนไปเข้าค่ายที่บ้านพลูตาหลวงนั่งมาเต็มขบวน ลงที่แปดริ้วกัน รถไฟถึงหัวลำโพง 18.35 น. ต่อรถไปหมอชิต 2 ขึ้นรถกลับกาฬสินธุ์เที่ยว 21.00 น. ถึง 5.00 น.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น