ไก่ แมลงสาบ จึงเขียนบทเพลง "อย่าฝากความหวังกับคนอื่น" ในวันสิ้นปี ส่งท้ายปีเก่า 2553 เป็นคติเตือนใจที่ดีๆ ที่ควรจะพึ่งตนเองเป็นหลัก ไม่ควรที่จะฝากความหวังไว้กับบุคคลอื่นมากเกินไป หลายสิ่ง พวกเราสามารถลงมือทำได้ดีกว่า คนที่เราฝากความหวังไว้
วันศุกร์ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2553
เพลงอย่าฝากความหวังกับคนอื่น โดย ไก่ แมลงสาบ เพลงที่แต่งในวันสิ้นปี พ.ศ. 2553
หลายครั้งที่คนเรามักจะฝากความหวังในการแก้ไขปัญหาต่างๆไว้กับคนที่เราเชื่อถือ ไว้วางใจว่า จะสามารถพึ่งพาได้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว หลายคนมักจะุผิดหวังอยู่เสมอ เมื่อคนที่เราฝากความหวังไว้ ไม่ทำในสิ่งที่ควรทำ
ไก่ แมลงสาบ จึงเขียนบทเพลง "อย่าฝากความหวังกับคนอื่น" ในวันสิ้นปี ส่งท้ายปีเก่า 2553 เป็นคติเตือนใจที่ดีๆ ที่ควรจะพึ่งตนเองเป็นหลัก ไม่ควรที่จะฝากความหวังไว้กับบุคคลอื่นมากเกินไป หลายสิ่ง พวกเราสามารถลงมือทำได้ดีกว่า คนที่เราฝากความหวังไว้
ไก่ แมลงสาบ จึงเขียนบทเพลง "อย่าฝากความหวังกับคนอื่น" ในวันสิ้นปี ส่งท้ายปีเก่า 2553 เป็นคติเตือนใจที่ดีๆ ที่ควรจะพึ่งตนเองเป็นหลัก ไม่ควรที่จะฝากความหวังไว้กับบุคคลอื่นมากเกินไป หลายสิ่ง พวกเราสามารถลงมือทำได้ดีกว่า คนที่เราฝากความหวังไว้
คนของประชาชนกับการรวมพลังต่อสู้ในวันสิ้นปี 2553 + คลิปวิดีโอ "จับคนไทย 7 คน" โดยคุณ Kongjeth Pkongjeth
"คนของประชาชน คนของประชาชน
คนของประชาชน อุทิศตนเพื่อมวลประชา.."
จากข่าวคราว 7 คนไทย ถูกทหารเขมรจับกุมที่บริเวณชายแดน จ.สระแก้ว โดยทางเขมรอ้างว่า 7 คนไทยบุกรุกเข้าไปในดินแดนเขมร แต่หลายฝ่ายมีมีหลักฐานทั้งรูปภาพและวิดีโอ ยืนยันว่า บริเวณที่ถูกจับกุมนั้นอยู่ในเขตประเทศไทย หนึ่งใน 7 คนไทยทีี่ถูกจับกุม มีคุณวีระ สมความคิดรวมอยู่ด้วย ทางกลุ่มเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ และตัวแทนพันธมิตร 14 จังหวัดภาคใต้ จึงได้ปรึกษาหารือเพื่อรวมพลังเคลื่อนไหวกดดันรัฐบาลให้เร่งแก้ไขปัญหานี้ทันที
ในส่วนของกลุ่มศิลปะ ดนตรี กวีประชาชน คุณพระอาทิตย์ได้เปิดประเด็นใน facebook ของเธอเพื่อระดมความคิด ช่วยกันคิดหน่อยค่ะ...ว่าเราจะทำอย่างไรกันดี
คุณ Kongjeth Pkongjeth ได้นำคลิปวิดีโอมาเผยแพร่ใน facebook มีข้อมูลความจริงที่น่าสนใจหลายอย่าง เลยนำวิดีโอดังกล่าวมาให้ชมกัน สำหรับท่านที่ไม่ได้ใช้ facebook
วิดีโอชุด จับคนไทย 7 คน (ส่วนหนึ่ง) โดย Kongjeth Pkongjeth เชิญเปิดดูได้เลยครับ
+++++++++
ในช่วง 21.00 น. คุณไก่ แมลงสาบได้โทรเข้ามาแจ้งข่าวให้ช่วยเผยแพร่เรื่อง การร่วมแสดงพลังผลักดันรัฐบาล กดดันเขมร ที่หน้าประตู 4 ทำเนียบรัฐบาลตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2553 เรื่อยไป... ซึ่งใน facebook คุณพระอาทิตย์ก้ได้แจ้งข่าวไว้ที่ facebook ของพรรคพวกหลายคนแล้ว
"ตอนนี้ต้องเข้ายึดพื้นที่ไว้ก่อน กำลังหาเครื่องเสียงอยู่นี่ "คุณไก่ แมลงสาบโทรบอก
นายบอนได้ยินแล้วถึงกับอึ้ง ในช่วงเวลาที่หลายคนกำลังฉลองปีใหม่ นับเวลาถอยหลัง เคาน์ดาวน์กันอย่างสนุกสนานสดชื่นแจ่มใส แต่คนไทยอีกกลุ่มหนึ่ง กำลังดิ้นรนหาเครื่องเสียง และอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อมารวมพลังที่หน้าประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล ในขณะที่กระแสความสนใจของผู้คนและสื่อต่างๆ จับจ้องอยู่ที่งานฉลองปีใหม่ในสถานที่ต่างๆ และกิจกรรมบันเทิงมากมาย
แต่กลุ่มคนไทย หัวใจรักชาติและเครือข่ายต่างๆ ยังคงยืนหยัดต่อสู้อย่างเหนียวแน่น เป็นเหมือนดังบทเพลงของคุณไก่ แมลงสาบ ที่มักจะนำมาขับร้องบนเวทีการต่อสู้ต่างๆอยู่เสมอ และบทเพลงนั้น คือ เพลง คนของประชาชน..... บทเพลงสำหรับนักสู้ผู้ยืนหยัดอยู่ที่ประตู 4 รวมทั้ง 7 คนไทยที่ถูกจับ และกลุ่มคนไทยที่ร่วมเคลื่อนไหวแสดงพลังในสถานที่ต่างๆทั่วประเทศ
++++++++++++ รายงานข่าว ++++
สมัชชา ปชช.ฯ ปักหลักหน้าประตู 4 ทำเนียบฯ จี้รัฐช่วย 7 คนไทย
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 31 ธันวาคม 2553 10:45 น.
สมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย นำโดย พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน ประธานสมัชชา พร้อมผู้ชุมนุมจำนวนหนึ่ง ยังคงปักหลักชุมนุมที่หน้าประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล อย่างต่อเนื่องตั้งแต่เมื่อวานที่ผ่านมา โดยในเช้าวันนี้ยังมีการปราศรัยโจมตีรัฐบาลที่ทำการช่วยเหลือ 7 คนไทย ที่ถูกทหารกัมพูชาจับกุมตัวนั้นมีความล่าช้า ทั้งนี้ กลุ่มดังกล่าวเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งดำเนินการ ให้ทางการกัมพูชาปล่อยตัวคนไทยทั้ง 7 คน พร้อมกับเอาผิดกับทหารกัมพูชา ที่รุกล้ำเข้ามาจับคนไทย อีกทั้งขอให้รัฐบาลแจ้งให้ทั่วโลกทราบว่า เขตที่คนไทยถูกจับกุมตัวนั้นเป็นดินแดนไทย ซึ่งหากรัฐบาลเพิกเฉย ทางสมัชชา และเครือข่ายประชาชนคนไทยหัวใจรักชาติ ก็มีความจำเป็นที่จะต้องชุมนุมประท้วงการทำงานของรัฐบาลต่อไป
อย่างไรก็ตาม กลุ่มดังกล่าวจะเดินทางไปยังสถานทูตกัมพูชา ในเวลา 10.00 น. เพื่อเผาโลงศพประท้วงต่อการกระทำของกัมพูชาด้วย
ภาพจาก 15thmove
สมัชชา ปชช.ฯ จี้รัฐบาลช่วยเหลือ 7 คนไทย ขู่! ประท้วงใหญ่หากเพิกเฉย
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 30 ธันวาคม 2553 19:21 น.
พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน ประธานสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ เครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติ ร่วมกับพันธมิตรฯ 20 คน ยื่นหนังสือถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ผ่านศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล เรื่องเร่งรัดให้รัฐบาลดำเนินการกรณีคนไทย 7 คน ถูกกัมพูชาจับตัวไปในพื้นที่ จ.สระแก้ว โดยมีใจความว่า ตามที่เครือข่ายฯ และสมัชชาฯ ได้มายื่นเรื่องดังกล่าว เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม แล้ว ปรากฏว่า คนไทย 7 คน ยังถูกกัมพูชาควบคุมตัวอยู่ และกัมพูชาออกข่าวไปทั่วโลกแล้วว่าคนไทยรุกล้ำเข้าไปในดินแดนกัมพูชา แม้ว่านายอภิสิทธิ์ จะโทรศัพท์ขอร้องให้ปล่อยตัวแล้วก็ตาม แต่รัฐบาลยังไม่มีมาตรการใดๆ เลย ฉะนั้นเครือข่ายฯ และสมัชชาฯ ขอเรียกร้องรัฐบาลดังนี้
1. ทหารกัมพูชาละเมิดอธิปไตยประเทศไทย 2. กัมพูชาละเมิดอำนาจยุติธรรมและตุลาการของประเทศไทย 3. รัฐบาลนี้ไม่ได้ปกป้องอธิปไตยของประเทศ สิทธิเสรีภาพของประชาชนคนไทย จึงเรียกร้องรัฐบาลดังนี้
ขอให้รัฐบาลดำเนินการให้กัมพูชาปล่อยตัวคนไทย 7 คน โดยไม่มีเงื่อนไขภายใน 3 วัน ขอให้รัฐบาลดำเนินการเอาผิดกับทหารกัมพูชาที่รุกล้ำเข้ามาจับคนไทยทั้ง 7 คน ในดินแดนไทย ขอให้รัฐบาลแจ้งให้ทั่วโลกทราบโดยชัดว่า เขตที่ประชาชนไทยถูกจับนั้น เป็นเขตแดนไทย ชื่อถนนศรีเพ็ญ เอกสารสิทธิที่ดินก็เป็นของไทย ขอให้รัฐบาลแถลงการณ์ให้ประชาชนทราบตลอดเวลาถึงการดำเนินการจนกว่าคนไทย 7 คน จะได้กลับมาตุภูมิโดยปลอดภัย หากรัฐบาลเพิกเฉย หรือปล่อยเวลาล่วงเลยไปนาน เครือข่ายฯ และสมัชชาฯ จำเป็นต้องชุมนุมประท้วงรัฐบาลต่อไป
รบ.พร้อมตั้งทนายสู้คดีช่วย 7 คนไทย แต่รอดูสถานการณ์ฝั่งเขมรก่อน
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 30 ธันวาคม 2553 19:10 น.
นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีความคืบหน้าการช่วยเหลือนายพนิช วิกิตเศรษฐ์ นายวีระ สมความคิด พร้อมคณะรวม 7 คน ที่ถูกเจ้าหน้าที่ทหารเขมรเข้าจับกุมขณะเข้าไปตรวจสอบพื้นที่ทับซ้อน MOU ในฝั่งประเทศกัมพูชา ว่า อันดับแรกต้องรอดูสถานการณ์จากทางการกัมพูชาเป็นหลัก รวมถึงต้องรอให้สอบปากคำกลุ่มคนไทยทั้งหมด ที่กรุงพนมเปญ ให้เสร็จสิ้นก่อน แล้วจึงค่อยมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลจากทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้งหนึ่ง จึงจะทราบได้ว่าจะมีการพิจารณาอย่างไร ซึ่งขณะนี้ได้ส่งทูตไทยไปอยู่กับนายพนิชแล้ว เพื่อให้ความช่วยเหลือในการสื่อสาร
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่า นายพนิช ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เข้าไปในพื้นที่ดังกล่าว เพื่อเป็นการดูแลช่วยเหลือประชาชน ซึ่งนับเป็นเจตนาที่ดี แต่อาจจะมีการพลัดหลงเข้าไปจึงเกิดเหตุการณ์บานปลายดังกล่าว และจากข้อมูลก็ทราบว่า ขณะนี้นายพนิช ยังส่งข้อมูลสื่อสารกับทางครอบครัวได้ และยังปลอดภัยดี
นายปณิธาน ยังกล่าวต่อว่า หากทางการกัมพูชาแจ้งข้อหาและจะดำเนินคดีกับทางคณะของนายพนิช ทางไทยก็ต้องตั้งทนายเพื่อสู้คดี ซึ่งเป็นขั้นตอนทางกฎหมายตามปกติ แต่โดยขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่า คดีจะไปในทิศทางใด ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นถือเป็นเรื่องที่มีความละเอียดอ่อนต่อความสัมพันธ์ ระหว่างทั้ง 2 ประเทศเป็นอย่างมาก จำเป็นต้องใช้เวลาในการพิจารณา แต่เชื่อว่าน่าจะตกลงกันได้
คนของประชาชน อุทิศตนเพื่อมวลประชา.."
จากข่าวคราว 7 คนไทย ถูกทหารเขมรจับกุมที่บริเวณชายแดน จ.สระแก้ว โดยทางเขมรอ้างว่า 7 คนไทยบุกรุกเข้าไปในดินแดนเขมร แต่หลายฝ่ายมีมีหลักฐานทั้งรูปภาพและวิดีโอ ยืนยันว่า บริเวณที่ถูกจับกุมนั้นอยู่ในเขตประเทศไทย หนึ่งใน 7 คนไทยทีี่ถูกจับกุม มีคุณวีระ สมความคิดรวมอยู่ด้วย ทางกลุ่มเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ และตัวแทนพันธมิตร 14 จังหวัดภาคใต้ จึงได้ปรึกษาหารือเพื่อรวมพลังเคลื่อนไหวกดดันรัฐบาลให้เร่งแก้ไขปัญหานี้ทันที
ในส่วนของกลุ่มศิลปะ ดนตรี กวีประชาชน คุณพระอาทิตย์ได้เปิดประเด็นใน facebook ของเธอเพื่อระดมความคิด ช่วยกันคิดหน่อยค่ะ...ว่าเราจะทำอย่างไรกันดี
คุณ Kongjeth Pkongjeth ได้นำคลิปวิดีโอมาเผยแพร่ใน facebook มีข้อมูลความจริงที่น่าสนใจหลายอย่าง เลยนำวิดีโอดังกล่าวมาให้ชมกัน สำหรับท่านที่ไม่ได้ใช้ facebook
วิดีโอชุด จับคนไทย 7 คน (ส่วนหนึ่ง) โดย Kongjeth Pkongjeth เชิญเปิดดูได้เลยครับ
+++++++++
ในช่วง 21.00 น. คุณไก่ แมลงสาบได้โทรเข้ามาแจ้งข่าวให้ช่วยเผยแพร่เรื่อง การร่วมแสดงพลังผลักดันรัฐบาล กดดันเขมร ที่หน้าประตู 4 ทำเนียบรัฐบาลตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2553 เรื่อยไป... ซึ่งใน facebook คุณพระอาทิตย์ก้ได้แจ้งข่าวไว้ที่ facebook ของพรรคพวกหลายคนแล้ว
"ตอนนี้ต้องเข้ายึดพื้นที่ไว้ก่อน กำลังหาเครื่องเสียงอยู่นี่ "คุณไก่ แมลงสาบโทรบอก
นายบอนได้ยินแล้วถึงกับอึ้ง ในช่วงเวลาที่หลายคนกำลังฉลองปีใหม่ นับเวลาถอยหลัง เคาน์ดาวน์กันอย่างสนุกสนานสดชื่นแจ่มใส แต่คนไทยอีกกลุ่มหนึ่ง กำลังดิ้นรนหาเครื่องเสียง และอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อมารวมพลังที่หน้าประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล ในขณะที่กระแสความสนใจของผู้คนและสื่อต่างๆ จับจ้องอยู่ที่งานฉลองปีใหม่ในสถานที่ต่างๆ และกิจกรรมบันเทิงมากมาย
แต่กลุ่มคนไทย หัวใจรักชาติและเครือข่ายต่างๆ ยังคงยืนหยัดต่อสู้อย่างเหนียวแน่น เป็นเหมือนดังบทเพลงของคุณไก่ แมลงสาบ ที่มักจะนำมาขับร้องบนเวทีการต่อสู้ต่างๆอยู่เสมอ และบทเพลงนั้น คือ เพลง คนของประชาชน..... บทเพลงสำหรับนักสู้ผู้ยืนหยัดอยู่ที่ประตู 4 รวมทั้ง 7 คนไทยที่ถูกจับ และกลุ่มคนไทยที่ร่วมเคลื่อนไหวแสดงพลังในสถานที่ต่างๆทั่วประเทศ
++++++++++++ รายงานข่าว ++++
สมัชชา ปชช.ฯ ปักหลักหน้าประตู 4 ทำเนียบฯ จี้รัฐช่วย 7 คนไทย
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 31 ธันวาคม 2553 10:45 น.
สมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย นำโดย พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน ประธานสมัชชา พร้อมผู้ชุมนุมจำนวนหนึ่ง ยังคงปักหลักชุมนุมที่หน้าประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล อย่างต่อเนื่องตั้งแต่เมื่อวานที่ผ่านมา โดยในเช้าวันนี้ยังมีการปราศรัยโจมตีรัฐบาลที่ทำการช่วยเหลือ 7 คนไทย ที่ถูกทหารกัมพูชาจับกุมตัวนั้นมีความล่าช้า ทั้งนี้ กลุ่มดังกล่าวเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งดำเนินการ ให้ทางการกัมพูชาปล่อยตัวคนไทยทั้ง 7 คน พร้อมกับเอาผิดกับทหารกัมพูชา ที่รุกล้ำเข้ามาจับคนไทย อีกทั้งขอให้รัฐบาลแจ้งให้ทั่วโลกทราบว่า เขตที่คนไทยถูกจับกุมตัวนั้นเป็นดินแดนไทย ซึ่งหากรัฐบาลเพิกเฉย ทางสมัชชา และเครือข่ายประชาชนคนไทยหัวใจรักชาติ ก็มีความจำเป็นที่จะต้องชุมนุมประท้วงการทำงานของรัฐบาลต่อไป
อย่างไรก็ตาม กลุ่มดังกล่าวจะเดินทางไปยังสถานทูตกัมพูชา ในเวลา 10.00 น. เพื่อเผาโลงศพประท้วงต่อการกระทำของกัมพูชาด้วย
ภาพจาก 15thmove
สมัชชา ปชช.ฯ จี้รัฐบาลช่วยเหลือ 7 คนไทย ขู่! ประท้วงใหญ่หากเพิกเฉย
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 30 ธันวาคม 2553 19:21 น.
พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน ประธานสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ เครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติ ร่วมกับพันธมิตรฯ 20 คน ยื่นหนังสือถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ผ่านศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล เรื่องเร่งรัดให้รัฐบาลดำเนินการกรณีคนไทย 7 คน ถูกกัมพูชาจับตัวไปในพื้นที่ จ.สระแก้ว โดยมีใจความว่า ตามที่เครือข่ายฯ และสมัชชาฯ ได้มายื่นเรื่องดังกล่าว เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม แล้ว ปรากฏว่า คนไทย 7 คน ยังถูกกัมพูชาควบคุมตัวอยู่ และกัมพูชาออกข่าวไปทั่วโลกแล้วว่าคนไทยรุกล้ำเข้าไปในดินแดนกัมพูชา แม้ว่านายอภิสิทธิ์ จะโทรศัพท์ขอร้องให้ปล่อยตัวแล้วก็ตาม แต่รัฐบาลยังไม่มีมาตรการใดๆ เลย ฉะนั้นเครือข่ายฯ และสมัชชาฯ ขอเรียกร้องรัฐบาลดังนี้
1. ทหารกัมพูชาละเมิดอธิปไตยประเทศไทย 2. กัมพูชาละเมิดอำนาจยุติธรรมและตุลาการของประเทศไทย 3. รัฐบาลนี้ไม่ได้ปกป้องอธิปไตยของประเทศ สิทธิเสรีภาพของประชาชนคนไทย จึงเรียกร้องรัฐบาลดังนี้
ขอให้รัฐบาลดำเนินการให้กัมพูชาปล่อยตัวคนไทย 7 คน โดยไม่มีเงื่อนไขภายใน 3 วัน ขอให้รัฐบาลดำเนินการเอาผิดกับทหารกัมพูชาที่รุกล้ำเข้ามาจับคนไทยทั้ง 7 คน ในดินแดนไทย ขอให้รัฐบาลแจ้งให้ทั่วโลกทราบโดยชัดว่า เขตที่ประชาชนไทยถูกจับนั้น เป็นเขตแดนไทย ชื่อถนนศรีเพ็ญ เอกสารสิทธิที่ดินก็เป็นของไทย ขอให้รัฐบาลแถลงการณ์ให้ประชาชนทราบตลอดเวลาถึงการดำเนินการจนกว่าคนไทย 7 คน จะได้กลับมาตุภูมิโดยปลอดภัย หากรัฐบาลเพิกเฉย หรือปล่อยเวลาล่วงเลยไปนาน เครือข่ายฯ และสมัชชาฯ จำเป็นต้องชุมนุมประท้วงรัฐบาลต่อไป
รบ.พร้อมตั้งทนายสู้คดีช่วย 7 คนไทย แต่รอดูสถานการณ์ฝั่งเขมรก่อน
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 30 ธันวาคม 2553 19:10 น.
นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีความคืบหน้าการช่วยเหลือนายพนิช วิกิตเศรษฐ์ นายวีระ สมความคิด พร้อมคณะรวม 7 คน ที่ถูกเจ้าหน้าที่ทหารเขมรเข้าจับกุมขณะเข้าไปตรวจสอบพื้นที่ทับซ้อน MOU ในฝั่งประเทศกัมพูชา ว่า อันดับแรกต้องรอดูสถานการณ์จากทางการกัมพูชาเป็นหลัก รวมถึงต้องรอให้สอบปากคำกลุ่มคนไทยทั้งหมด ที่กรุงพนมเปญ ให้เสร็จสิ้นก่อน แล้วจึงค่อยมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลจากทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้งหนึ่ง จึงจะทราบได้ว่าจะมีการพิจารณาอย่างไร ซึ่งขณะนี้ได้ส่งทูตไทยไปอยู่กับนายพนิชแล้ว เพื่อให้ความช่วยเหลือในการสื่อสาร
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่า นายพนิช ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เข้าไปในพื้นที่ดังกล่าว เพื่อเป็นการดูแลช่วยเหลือประชาชน ซึ่งนับเป็นเจตนาที่ดี แต่อาจจะมีการพลัดหลงเข้าไปจึงเกิดเหตุการณ์บานปลายดังกล่าว และจากข้อมูลก็ทราบว่า ขณะนี้นายพนิช ยังส่งข้อมูลสื่อสารกับทางครอบครัวได้ และยังปลอดภัยดี
นายปณิธาน ยังกล่าวต่อว่า หากทางการกัมพูชาแจ้งข้อหาและจะดำเนินคดีกับทางคณะของนายพนิช ทางไทยก็ต้องตั้งทนายเพื่อสู้คดี ซึ่งเป็นขั้นตอนทางกฎหมายตามปกติ แต่โดยขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่า คดีจะไปในทิศทางใด ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นถือเป็นเรื่องที่มีความละเอียดอ่อนต่อความสัมพันธ์ ระหว่างทั้ง 2 ประเทศเป็นอย่างมาก จำเป็นต้องใช้เวลาในการพิจารณา แต่เชื่อว่าน่าจะตกลงกันได้
10 อันดับ หน้าเวบที่มีคนเปิดชมมากที่สุดในปี 2553 ในเวบ กลุ่มศิลปะ ดนตรี กวีประชาชน
วันสิ้นปี 2553 ขอรายงานข้อมูลสถิติของเวบไซต์ กับ 10 อันดับ หน้าเวบที่มีคนเปิดชมมากที่สุด เรียงตามลำดับ ดังนี้
อันดับที่ 1 แนะนำอัลบั้ม ซิ่งระเบิดโลก กำปั่น บ้านแท่น กับ 3 มิวสิควิดีโอ- สังขารไม่เที่ยง, อัศจรรย์ , เมียไม่ให้ถอน
อันดับที่ 2 ด่วน น้าหว่อง มงคล อุทก อาการหนัก เข้า รพ.เซ็นหลุยส์ เมื่อ 26 ก.ย.2553
อันดับที่ 3 20 ภาพบรรยากาศ กับบันทึกการเดินทาง เบื้องหน้าเบื้องหลังไปเยี่ยมอาการป่วยของมงคล อุทก เมื่อ 23 ก.ย.2553
อันดับที่ 4 ภาพจาก รพ.ราชวิถีของมงคล อุทก เมื่อ 2 ต.ค.53 ความเคลื่อนไหวและพลังน้ำใจในเครือข่ายสังคมออนไลน์
อันดับที่ 5 อาการป่วยล่าสุดของน้าหว่อง 1 ต.ค. 2553 และเชิญชมคอนเสิร์ต "ดนตรี กวี ชีวิต เพื่อน้าหว่อง" 5 ต.ค.2553
อันดับที่ 6 เพลง ชลบุรีเกมส์ โดย แอ๊ดคาราบาว บทเพลงในงานกีฬาแห่งชาติครั้งที่ 39 ชลบุรีเกมส์
อันดับที่ 7 คอนเสิร์ตกลางแจ้งอาบแสงจันทร์ แคมป์ไฟดนตรี มาลีฮวนน่า ครั้งที่ 2 (11 ธันวาคม 2553) ณ ไร่หุบกะพง อ.ชะอำ เพชรบุรี
อันดับที่ 8 ขอเชิญชมคอนเสิร์ต "คนในตำนาน คาราวาน เพลงพิณ" 30 ต.ค.2553
อันดับที่ 9 "เพลงพระภูมิพล" ผลงานเพลงเทิดพระเกียรติที่ได้รับรางวัลโดยไม่ตั้งใจ งานศิลปะที่ทำด้วยใจ ของสุเวศน์ ภู่ระหงษ์
อันดับที่ 10 30 ก.ย.2553 มงคล อุทก กำลังป่วยด้วยอาการเกี่ยวกับระบบประสาทและหมอนรองกระดูกอยู่ที่รพ.ราชวิถี
นั่นคือ สถิติของผู้ชมที่คลิกเข้ามาจาก google และเวบอื่นๆ ซึ่ง blogspot ได้เก็บสถิติไว้
.....และเวบนี้ ได้เชื่อมต่อเข้ากับ facebook ซึ่งผู้ชมจาก facebook สามารถคลิกถูกใจ และแบ่งปันให้เพื่อนๆ้ได้ คลิกดูข้อมูลได้ด้วย หากดูข้อมูล สถิติที่คลิกแบ่งปัน และถูกใจ ข่าวแต่ละหน้า ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ชมคนละกลุ่ม สามารถจัดอันดับได้ดังนี้
1) ด่วน น้าหว่อง มงคล อุทก อาการหนัก เข้า รพ.เซ็นหลุยส์ เมื่อ 26 ก.ย.2553
---ถูกใจ-แบ่งปัน 230
2) 30 ก.ย.2553 มงคล อุทก กำลังป่วยด้วยอาการเกี่ยวกับระบบประสาทและหมอนรองกระดูกอยู่ที่รพ.ราชวิถี
--ถูกใจ 69 = 69 แบ่งปัน
3) ภาพจาก รพ.ราชวิถีของมงคล อุทก เมื่อ 2 ต.ค.53 ความเคลื่อนไหวและพลังน้ำใจในเครือข่ายสังคมออนไลน์
-- ถูกใจ แบ่งปัน 37
4) "เพลงพระภูมิพล" ผลงานเพลงเทิดพระเกียรติที่ได้รับรางวัลโดยไม่ตั้งใจ งานศิลปะที่ทำด้วยใจ ของสุเวศน์ ภู่ระหงษ์
-- ถูกใจ 28, แบ่งปัน 28 คน
5) 20 ภาพบรรยากาศ กับบันทึกการเดินทาง เบื้องหน้าเบื้องหลังไปเยี่ยมอาการป่วยของมงคล อุทก เมื่อ 23 ก.ย.2553
-- ถูกใจ-แบ่งปัน 15
6) อาการป่วยล่าสุดของน้าหว่อง 1 ต.ค. 2553 และเชิญชมคอนเสิร์ต "ดนตรี กวี ชีวิต เพื่อน้าหว่อง" 5 ต.ค.2553
---ถูกใจ 12 แบ่งปัน 12
7) ขอเชิญชมคอนเสิร์ต "คนในตำนาน คาราวาน เพลงพิณ" 30 ต.ค.2553
-- แบ่งปัน 5 ถูกใจ 5
8) แนะนำอัลบั้ม ซิ่งระเบิดโลก กำปั่น บ้านแท่น กับ 3 มิวสิควิดีโอ- สังขารไม่เที่ยง, อัศจรรย์ , เมียไม่ให้ถอน
---- ถูกใจ-แบ่งปัน 3
9) คอนเสิร์ตกลางแจ้งอาบแสงจันทร์ แคมป์ไฟดนตรี มาลีฮวนน่า ครั้งที่ 2 (11 ธันวาคม 2553) ณ ไร่หุบกะพง อ.ชะอำ เพชรบุรีฃ
-- ถูกใจ 2 แบ่งปัน 0
10) เพลง ชลบุรีเกมส์ โดย แอ๊ดคาราบาว บทเพลงในงานกีฬาแห่งชาติครั้งที่ 39 ชลบุรีเกมส์
-- ถูกใจ 1 แบ่งปัน 0
ขอเชิญร่วมกันแสดงพลัง ผลักดันรัฐบาล กดดันเขมร ที่หน้าทำเนียมรัฐบาลประตูที่ 4 ตั้งแต่บัดนี้
ขอเชิญ.พี่น้องคนไทยหัวใจรักชาติ และ พันธมิตรหัวใจเป็นธรรม ร่วมกันแสดงพลัง ผลักดันรัฐบาล กดดันเขมร ที่หน้าทำเนียมรัฐบาลประตูที่ 4 ตั้งแต่บัดนี้ (30 ธันวาคม 2553) เครือข่ายพันธมิตรฯภาคใต้ 14 จังหวัด,กลุ่มศิลปะ ดนตรี กวีประชาชน, เครือข่ายพี่น้องคนไทยหัวใจรักชาติ ฯลฯ ไปกันให้เยอะๆนะพี่น้องไปช่วยพวกเราให้กลับมายืนบนผืนแผ่นดินไทย
291253 20 30น เครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติ จี้ “มาร์ค” แสดงความเป็นลูกผู้ชายช่วยคนไทย
2010 12 30@0633 เขมรจับ๗คนไทย สส ปชปพนิช,วีระ สมฯ,แซมดิน ขณะตรวจเขตแดน ส่งศาล ข่าวช่อง 3
Daily News Manager Online เจรจาเขมรเหลวฮุนเซนลั่นไม่ปล่อย7คนไทยชี้ส ส ไทยไร้เอกสิทธิ์ ส่งขังคุกพนมเปญ
291253 17 40 พนิช เผยนาทีระทึกถูกทหารเขมรจับ ยันยังอยู่ในเขตไทย ASTV
เครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ 50 คน ชุมนุมหน้าทำเนียบ เรียกร้องรบ.ช่วย 7 คนไทย
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 30 ธันวาคม 2553 21:59 น.
เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. กลุ่มเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ จำนวน 50 คน ยื่นหนังสือให้ตัวแทนรัฐบาล ดำเนินการช่วยเหลือ 7 คนไทยที่ถูกทหารกัมพูชาควบคุมตัวไป โดยรวมตัวปักหลักพักค้างที่หน้าประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล ถ.พิษณุโลก
+++
ชาวโคราชเผาหุ่น“ฮุนเซน”ประณามจับ7คนไทย
เครือข่ายภาคประชาชนชาวโคราช ในนาม “กลุ่มคนไทยหวงแผ่นดินเมืองย่าโม” กว่า 100 คน ชุมนุมหน้าอนุสาวรีย์ย่าโม เผาหุ่นพร้อมพวงหรีด “ฮุน เซน” พ่วง “มาร์ค” ประณามเขมรเหิมบุกจับกุม 7 คนไทยบนผืนแผ่นดินไทย เรียกร้องปล่อยตัวโดยเร็วอย่างไม่มีเงื่อนไข จี้รัฐบาลไทยกดดันรัฐบาลกัมพูชา พร้อมประท้วงและประกาศการละเมิดอธิปไตยไทย
นครราชสีมา (30 ธ.ค.) เมื่อเวลา 18.30 น. ที่หน้าอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) ถ.ราชดำเนิน อ.เมือง จ.นครราชสีมา เครือข่ายองค์กรภาคประชาชนจังหวัดนครราชสีมา ในนาม “กลุ่มคนไทยหวงแผ่นดิน เมืองย่าโม” จำนวนกว่า 100 คน นำโดย นายสุพจน์ พิริยะเกียรติสกุล ประธานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(พธม.) จังหวัดนครราชสีมา รวมทั้งแกนนำนักรบเมืองย่า แกนนำเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ จ.นครราชสีมา และ สมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย ได้รวมตัวชุมนุมแสดงพลัง พร้อมออกแถลงการณ์ขอให้รัฐบาลไทยกดดันประเทศกัมพูชาปล่อยตัว 7 คนไทย ที่ถูกจับตัวไปอย่างไม่มีเงื่อนไขโดยเร็ว
จากนั้นกลุ่มคนไทยหวงแผ่นดินเมืองย่าโม ได้ร่วมกันเผาหุ่น สมเด็จฯ ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีของไทย พร้อมพวงหรีดที่ติดภาพใบหน้าทั้ง 2 คน เพื่อประณามการกระทำของทางการกัมพูชาที่จับกุมตัวคนไทยไปจากแผ่นดินของ ประเทศไทย และเรียกร้องให้ปล่อยตัวทั้ง 7 คนไทยอย่างไม่มีเงื่อนไข
พร้อม กันนี้ได้กดดันนายอภิสิทธิ์ ผู้นำรัฐบาล ให้ดำเนินการช่วยเหลือคนไทยทั้ง 7 ได้กลับมาโดยเร็วที่สุด ซึ่งมีประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาสักการะอนุสาวรีย์ย่าโมต่างมามุง ดูเหตุการณ์เป็นจำนวนมาก ท่ามกลางการดูแลความสงบเรียบร้อยของเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 10 นาย
สำหรับเนื้อหาแถลงการณ์ดังกล่าวสรุปได้ว่า กรณีที่ทหารกัมพูชาจับกุมตัวคนไทย 7 คนไปดำเนินคดี ประกอบด้วย นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ส.ส. กรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์และ นายวีระ สมความคิด เครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ และเลขาธิการเครือข่ายประชาชนต่อต้านคอรัปชั่น (คปต.) พร้อมคณะ ขณะลงพื้นที่เพื่อพิสูจน์เรื่องการรุกล้ำเขตแดนไทยของฝ่ายกัมพูชาตามที่ ประชาชนร้องเรียนเมื่อวันที่ 29 ธ.ค.ที่ผ่านมา นั้น เป็นการเข้ามาจับกุมตัวคนไทยไปจากดินแดนประเทศไทยอย่างชัดเจน
โดย เข้าจับกุมตัวขณะอยู่บนรถยนต์ บนถนนศรีเพ็ญ บ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ห่างจากชายแดนไทย-กัมพูชา ถึง 4-5 กิโลเมตร ซึ่งมีหลักฐานยืนยันชัดเจน เนื่องจากมีอีกคณะที่นั่งรถยนต์ติดตามไปห่าง ๆ แต่ไม่ได้ถูกจับตัวไป และ มีการติดต่อกับคณะของนายวีระ ตลอดเวลา
ดังนั้น การกระทำดังกล่าวของทางการกัมพูชา ถือเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง รัฐบาลไทยต้องกดดันรัฐบาลกัมพูชาให้ปล่อยตัวคนไทยทั้ง 7 คนกลับมาโดยไม่มีเงื่อนไข และ ทำการประท้วงประเทศกัมพูชาในการเข้ามาจับคนไทยบนผืนแผ่นดินไทย พร้อมประกาศการละเมิดอธิปไตยของไทยโดยทหารกัมพูชาที่บุกเข้ามาจับคนไทยใน พื้นที่ของประเทศไทยครั้งนี้ให้ประชาชาติได้รับรู้ และต้องยกเลิก MOUไทย-กัมพูชา 2543 เนื่องจากทำให้ประเทศไทยเสียผลประโยชน์และกัมพูชาอาศัยช่องทางของ MOU 2543 สร้างผลประโยชน์ตลอดมา
"ขอประณามการแถลงข่าวของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ไม่มีสำนึกในแผ่นดินไม่มีความรู้ที่แท้จริง โดยให้ข่าวทำร้ายคนที่ทำคุณต่อประเทศชาติ"แถลงการณ์ระบุ
ด้าน นายสุพจน์ พิริยะเกียรติสกุล ประธานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดนครราชสีมา กล่าวปราศรัยต่อที่ผู้มาร่วมชุมนุมว่า การออกมาแสดงพลังในวันนี้ของหลากหลายองค์กรภาคประชาชนในจังหวัดนครราชสีมา ต้องการเรียกร้องให้กัมพูชาปล่อยตัวคนไทยทั้ง 7 คนกลับมาโดยเร็วและไม่มีเงื่อนไข พร้อมประณามการกระทำของฝ่ายกัมพูชาที่ทำเกิดกว่าเหตุ วันนี้ถึงเวลาที่คนไทยต้องลุกขึ้นมาปกป้องแผ่นดินไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ภายหลังเผาหุ่นและพวงหรีดแล้ว กลุ่มคนไทยหวงแผ่นดิน เมืองย่าโม ได้แยกย้ายกันกลับด้วยความสงบเรียบร้อย
291253 20 30น เครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติ จี้ “มาร์ค” แสดงความเป็นลูกผู้ชายช่วยคนไทย
2010 12 30@0633 เขมรจับ๗คนไทย สส ปชปพนิช,วีระ สมฯ,แซมดิน ขณะตรวจเขตแดน ส่งศาล ข่าวช่อง 3
Daily News Manager Online เจรจาเขมรเหลวฮุนเซนลั่นไม่ปล่อย7คนไทยชี้ส ส ไทยไร้เอกสิทธิ์ ส่งขังคุกพนมเปญ
291253 17 40 พนิช เผยนาทีระทึกถูกทหารเขมรจับ ยันยังอยู่ในเขตไทย ASTV
เครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ 50 คน ชุมนุมหน้าทำเนียบ เรียกร้องรบ.ช่วย 7 คนไทย
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 30 ธันวาคม 2553 21:59 น.
เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. กลุ่มเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ จำนวน 50 คน ยื่นหนังสือให้ตัวแทนรัฐบาล ดำเนินการช่วยเหลือ 7 คนไทยที่ถูกทหารกัมพูชาควบคุมตัวไป โดยรวมตัวปักหลักพักค้างที่หน้าประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล ถ.พิษณุโลก
+++
ชาวโคราชเผาหุ่น“ฮุนเซน”ประณามจับ7คนไทย
เครือข่ายภาคประชาชนชาวโคราช ในนาม “กลุ่มคนไทยหวงแผ่นดินเมืองย่าโม” กว่า 100 คน ชุมนุมหน้าอนุสาวรีย์ย่าโม เผาหุ่นพร้อมพวงหรีด “ฮุน เซน” พ่วง “มาร์ค” ประณามเขมรเหิมบุกจับกุม 7 คนไทยบนผืนแผ่นดินไทย เรียกร้องปล่อยตัวโดยเร็วอย่างไม่มีเงื่อนไข จี้รัฐบาลไทยกดดันรัฐบาลกัมพูชา พร้อมประท้วงและประกาศการละเมิดอธิปไตยไทย
นครราชสีมา (30 ธ.ค.) เมื่อเวลา 18.30 น. ที่หน้าอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) ถ.ราชดำเนิน อ.เมือง จ.นครราชสีมา เครือข่ายองค์กรภาคประชาชนจังหวัดนครราชสีมา ในนาม “กลุ่มคนไทยหวงแผ่นดิน เมืองย่าโม” จำนวนกว่า 100 คน นำโดย นายสุพจน์ พิริยะเกียรติสกุล ประธานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(พธม.) จังหวัดนครราชสีมา รวมทั้งแกนนำนักรบเมืองย่า แกนนำเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ จ.นครราชสีมา และ สมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย ได้รวมตัวชุมนุมแสดงพลัง พร้อมออกแถลงการณ์ขอให้รัฐบาลไทยกดดันประเทศกัมพูชาปล่อยตัว 7 คนไทย ที่ถูกจับตัวไปอย่างไม่มีเงื่อนไขโดยเร็ว
จากนั้นกลุ่มคนไทยหวงแผ่นดินเมืองย่าโม ได้ร่วมกันเผาหุ่น สมเด็จฯ ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีของไทย พร้อมพวงหรีดที่ติดภาพใบหน้าทั้ง 2 คน เพื่อประณามการกระทำของทางการกัมพูชาที่จับกุมตัวคนไทยไปจากแผ่นดินของ ประเทศไทย และเรียกร้องให้ปล่อยตัวทั้ง 7 คนไทยอย่างไม่มีเงื่อนไข
พร้อม กันนี้ได้กดดันนายอภิสิทธิ์ ผู้นำรัฐบาล ให้ดำเนินการช่วยเหลือคนไทยทั้ง 7 ได้กลับมาโดยเร็วที่สุด ซึ่งมีประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาสักการะอนุสาวรีย์ย่าโมต่างมามุง ดูเหตุการณ์เป็นจำนวนมาก ท่ามกลางการดูแลความสงบเรียบร้อยของเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 10 นาย
สำหรับเนื้อหาแถลงการณ์ดังกล่าวสรุปได้ว่า กรณีที่ทหารกัมพูชาจับกุมตัวคนไทย 7 คนไปดำเนินคดี ประกอบด้วย นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ส.ส. กรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์และ นายวีระ สมความคิด เครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ และเลขาธิการเครือข่ายประชาชนต่อต้านคอรัปชั่น (คปต.) พร้อมคณะ ขณะลงพื้นที่เพื่อพิสูจน์เรื่องการรุกล้ำเขตแดนไทยของฝ่ายกัมพูชาตามที่ ประชาชนร้องเรียนเมื่อวันที่ 29 ธ.ค.ที่ผ่านมา นั้น เป็นการเข้ามาจับกุมตัวคนไทยไปจากดินแดนประเทศไทยอย่างชัดเจน
โดย เข้าจับกุมตัวขณะอยู่บนรถยนต์ บนถนนศรีเพ็ญ บ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ห่างจากชายแดนไทย-กัมพูชา ถึง 4-5 กิโลเมตร ซึ่งมีหลักฐานยืนยันชัดเจน เนื่องจากมีอีกคณะที่นั่งรถยนต์ติดตามไปห่าง ๆ แต่ไม่ได้ถูกจับตัวไป และ มีการติดต่อกับคณะของนายวีระ ตลอดเวลา
ดังนั้น การกระทำดังกล่าวของทางการกัมพูชา ถือเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง รัฐบาลไทยต้องกดดันรัฐบาลกัมพูชาให้ปล่อยตัวคนไทยทั้ง 7 คนกลับมาโดยไม่มีเงื่อนไข และ ทำการประท้วงประเทศกัมพูชาในการเข้ามาจับคนไทยบนผืนแผ่นดินไทย พร้อมประกาศการละเมิดอธิปไตยของไทยโดยทหารกัมพูชาที่บุกเข้ามาจับคนไทยใน พื้นที่ของประเทศไทยครั้งนี้ให้ประชาชาติได้รับรู้ และต้องยกเลิก MOUไทย-กัมพูชา 2543 เนื่องจากทำให้ประเทศไทยเสียผลประโยชน์และกัมพูชาอาศัยช่องทางของ MOU 2543 สร้างผลประโยชน์ตลอดมา
"ขอประณามการแถลงข่าวของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ไม่มีสำนึกในแผ่นดินไม่มีความรู้ที่แท้จริง โดยให้ข่าวทำร้ายคนที่ทำคุณต่อประเทศชาติ"แถลงการณ์ระบุ
ด้าน นายสุพจน์ พิริยะเกียรติสกุล ประธานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดนครราชสีมา กล่าวปราศรัยต่อที่ผู้มาร่วมชุมนุมว่า การออกมาแสดงพลังในวันนี้ของหลากหลายองค์กรภาคประชาชนในจังหวัดนครราชสีมา ต้องการเรียกร้องให้กัมพูชาปล่อยตัวคนไทยทั้ง 7 คนกลับมาโดยเร็วและไม่มีเงื่อนไข พร้อมประณามการกระทำของฝ่ายกัมพูชาที่ทำเกิดกว่าเหตุ วันนี้ถึงเวลาที่คนไทยต้องลุกขึ้นมาปกป้องแผ่นดินไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ภายหลังเผาหุ่นและพวงหรีดแล้ว กลุ่มคนไทยหวงแผ่นดิน เมืองย่าโม ได้แยกย้ายกันกลับด้วยความสงบเรียบร้อย
ช่วยกันคิดหน่อยค่ะ...ว่าเราจะทำอย่างไรกันดี
ช่วยกันคิดหน่อยค่ะ...ว่าเราจะทำอย่างไรกันดี
โดย Kunpra Sarunya ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2010 เวลา 12:42 น.
30 ธค. 2553 11:50 น.
นาย ธานี ทองภักดี อธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยความคืบหน้าในการให้ความช่วยเหลือ นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ นายวีระ สมความคิด กับพวกรวม 7 คน ว่า ขณะนี้ทุกฝ่ายอยู่ระหว่างการเจรจาให้ความช่วยเหลือ โดยหากประเทศกัมพูชาไม่ยินยอมปล่อยตัวทั้ง 7 คน และนำตัวขึ้นศาลตามกระบวนการยุติธรรมของประเทศกัมพูชา ก็จะมีการเตรียมตั้งทนายความให้กับทั้ง 7 คน ซึ่งได้ประสานไปยังทูตที่กรุงพนมเปญให้เข้ามาดูแลช่วยเหลือในเรื่องนี้ด้วย โดยขณะนี้ทั้งหมดอยู่ในการควบคุมตัวที่กรุงพนมเปญ แต่ไม่ทราบว่าอยู่ในเรือนจำ หรืออยู่ในสถานที่ใด แต่ทุกคนยังอยู่ในความปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม การเดินทางไปครั้งนี้ของนายพนิช ได้เข้าไปยังจุดเขตทับซ้อนที่ยังไม่มีข้อสรุปว่าเป็นเขตพื้นที่ของประเทศไทย หรือของประเทศกัมพูชา และเมื่อเข้าไป ทางการกัมพูชาถือว่าทำผิดกฎของประเทศกัมพูชา จึงต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายของประเทศกัมพูชา
ช่วยกันคิด หน่อยค่ะ...ว่าเราจะทำอย่างไรกันดี เราจะช่วยพวกพี่วีระอาแซมดินและคนอื่นๆอีกอย่างไรดี เท่าที่ทราบๆกันดีคือ พี่วีระสุขภาพไม่ค่อยดี..เราจะรออยู่แบบนี้ต่อไปหรือ..พี่น้อง...เอ๊ย...
ช่วยกันคิดหน่อยจ้า kunpra
...
โดย Kunpra Sarunya ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2010 เวลา 12:42 น.
30 ธค. 2553 11:50 น.
นาย ธานี ทองภักดี อธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยความคืบหน้าในการให้ความช่วยเหลือ นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ นายวีระ สมความคิด กับพวกรวม 7 คน ว่า ขณะนี้ทุกฝ่ายอยู่ระหว่างการเจรจาให้ความช่วยเหลือ โดยหากประเทศกัมพูชาไม่ยินยอมปล่อยตัวทั้ง 7 คน และนำตัวขึ้นศาลตามกระบวนการยุติธรรมของประเทศกัมพูชา ก็จะมีการเตรียมตั้งทนายความให้กับทั้ง 7 คน ซึ่งได้ประสานไปยังทูตที่กรุงพนมเปญให้เข้ามาดูแลช่วยเหลือในเรื่องนี้ด้วย โดยขณะนี้ทั้งหมดอยู่ในการควบคุมตัวที่กรุงพนมเปญ แต่ไม่ทราบว่าอยู่ในเรือนจำ หรืออยู่ในสถานที่ใด แต่ทุกคนยังอยู่ในความปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม การเดินทางไปครั้งนี้ของนายพนิช ได้เข้าไปยังจุดเขตทับซ้อนที่ยังไม่มีข้อสรุปว่าเป็นเขตพื้นที่ของประเทศไทย หรือของประเทศกัมพูชา และเมื่อเข้าไป ทางการกัมพูชาถือว่าทำผิดกฎของประเทศกัมพูชา จึงต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายของประเทศกัมพูชา
ช่วยกันคิด หน่อยค่ะ...ว่าเราจะทำอย่างไรกันดี เราจะช่วยพวกพี่วีระอาแซมดินและคนอื่นๆอีกอย่างไรดี เท่าที่ทราบๆกันดีคือ พี่วีระสุขภาพไม่ค่อยดี..เราจะรออยู่แบบนี้ต่อไปหรือ..พี่น้อง...เอ๊ย...
ช่วยกันคิดหน่อยจ้า kunpra
...
- Kongjeth Pkongjeth พี่กำลังดำเนินการอยู่ ตอนนี้คุยอยู่กับผุ้ใหญ่ในร
ัฐบาลและให้ข้อมูลว่าพื้นที ่ๆเข้าไปเป็นของประเทศไทยเพ ราะอยู่ในอบต.หนึ่งของสระแก ้ว พวกทหารตำรวจต่างหากที่มันม ีนัยยะอะไหรบ้างอย่าง ซึ่งเราได้เปิดโปงมันไปเมื่ อวันที่ 9 ที่ผ่านมา 23 ชั่วโมงที่แล้ว · 
Koko รักในหลวง ผมเสนอ ให้ดูท่าทีรัฐบาลและฝ่ายทหารก่อนดำเนินการใดๆครับ โดยเฉพาะท่านประยุทธ์ ที่น่าจะสร้างความมั่นใจและ ฝากความหวังได้
22 ชั่วโมงที่แล้ว ·
มูซา ปาทาน คงต้องเรียกพี่น้องเราให้หยุดถึงขั่วข้างภายในของเราเอ ง เพราะงานที่พี่ วีระ พี่แซม ทำนั้นมันเป็นปัญหาในเรื่อง ของดินแดน และพี่น้องคนไทยควรเดินหน้า กดดันรัฐ ตลอดกองทัพ ให้มีความข้มข้นต่อปัญหาที่ เกิดขึ้น และกองทัพควรมีคำตอบให้กับค นในชาติ ต่อเรื่องที่เกิดขึ้น
22 ชั่วโมงที่แล้ว ·
Kongjeth Pkongjeth กำลังจะโหลดซีดีภาพบริเวณที่คนไทยทั้งเจ็ดคนโดนจับรอเป ิดดูได้เลยครับ จะได้รู้ว่ามันดินไทยหรือดิ นเขมร
21 ชั่วโมงที่แล้ว ·
นายบอน กาฬสินธุ์ ควรกดดันรัฐบาล ให้กล้าๆ แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นให้ชัดเจนเสียที น่าจะพิสูจน์ให้รู้ักันชัดๆ ไปเลยว่า บริเวณนั้น ถนนศรีเทพเป็นของไทย หรือเขมรกันแน่... รวมทั้งพื้นที่อื่นๆด้วย... . ความจริง พิสูจน์ไม่ยาก แต่รัฐบาล ไม่กล้า เท่านั้นเอง
20 ชั่วโมงที่แล้ว · · 1 คนกำลังโหลด...
Kunpra Sarunya พี่อ๊อด..ลุยเลยม๊ะ...ชักจะหมั่นเคี่ยวซะแล้ว..ซันถอดเ ขี้ยวถอดเล็บมานานแล้วนะ..ม ันคงต้องออกศึกกันละ...ปะ.. ลุย....
19 ชั่วโมงที่แล้ว ·
Kat Atthakorมาจับคนไทยในแผ่นดินไทย ซึ่งก็ได้พิสูจน์แล้วว่าแผ่นดินไทยแน่นอน
ถือว่าเป็นการเหยียบย่ำเกีรยติของคนไทยทั้งชาติ
แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น รัฐบาลไทยควรจะต้องออกมาพิสูจน์ให้เขมร รวมถึงนานาชาติเห็นด้วยว่าน ี่คือผืนแผ่นดินไทย
ในขณะเดียวกัน รัฐบาลควรออกมาเ...จรจา ในเชิงกดดันให้เขมรส่งตัวคนไทยกลับโดยไม่มีเงื่อนไข
กระทรวงการต่างประเทศควรทำหน้าที่นักการทูตอย่างที่ควร จะทำ
กองทัพไทยควรรีบดำเนินการในเชิงรุกควบคู่กับทุกฝ่ายเพื ่อกดดันให้เขมรส่งตัวคนไทยก ลับประเทศโดยไม่มีเงื่อนไข
รัฐบาลและกองทัพไทยควรมีจิตสำนึกรับผิดชอบต่อหน้าที่โด ยออกมารับผิดชอบคุ้มครองพลเ มืองของชาติอย่างกล้าหาญตั้ งแตบัดนี้เป็นต้นไป
แต่เราจะหวังอะไรกับผู้นำประเทศท่านนี้ เพราะอย่างที่ทราบกันดีอยู่ แล้วว่าท่านกลัวเสียหน้ามาก กว่าเสียแผ่นดินเกิด แล้วจะเอาอะไรกับคนแค่เจ็ดค น (สำหรบท่าน)
19 ชั่วโมงที่แล้ว
เพลง ขาดทุน อัลบั้มไม่เอาโลตัส โดย วัลลภ พลเสน
ห้างเล็กห้างใหญ่มากมาย ลงทุนค้าขายอยู่ในเมืองไทย
เขามากอบโกยกำไร เงินทองรั่วไหลไปสู่ต่างแดน
ขาดทุนขาดดุลการค้า เท่าที่ผ่านมาเจ็บใจเหลือแสน
ประชาทั่วทั้งไทยแลนด์ มาร่วมวางแผนแบนพวกนายทุน
ข้อความจาก facebook คุณ วิเชียร ตั้งธรรมสถิตย์
ทุนหายนะ แสดงฤทธิ์ ใช้เห็นแล้ว ว่าอำนาจรัฐไร้ความหมาย นักการเมืองหิวเงินมากกว่าสุนัขเศษอาหาร ปล่อยให้พวกมันซื้อได้ แล้ววันนี้จะทำไง มันกักตุนน้ำมันพืชเพื่อขึ้นราคาก็ไม่มีปัญญาทำอะไร มันต้องการฆ่ากิจการของคนไทยให้ล่มสลายก็ไม่มีปัญญาทำอะไร นักการเมืองเฮง ๆ ซ วย ๆสำนึกตื่นหรือยัง วันนี้ ตลาดสดเล็กน้อยๆ ผู้ขายของเล็ก ๆ น้อยๆ จนแน่
Paramet Bhuto ใช่ครับพี่วิเชียร ก็เรามีรัฐบาลที่ไม่รู้ร้อนรู้หนาวกับเรื่องแบบนี้เลย
25 ธันวาคมเวลา 22:33 น. · · ·
Sako Dinrakfah Love King ผมขอนำไปเผยแพร่นะครับพี่วิเชียร
วันวันจันทร์เวลา 23:05 น. · ·
วิเชียร ตั้งธรรมสถิตย์ เรื่องแบบนี้ไม่ต้อขออนุญาตเลย ผมต้องขอขอบคุณที่กรุณาเผยแพร่ให้คังไปทั่วๆ เผื่อจะได้มีคนที่รักชาติต้องการปกป้องชาติใว้ให้คนรุ่นหลังไม่ต้องเป็นเมืองขึ้นเขาจะได้มารวมพลังกันตนละเล็กคนละน้อนก็จะกู้ขาติได้
วันวันอังคารเวลา 9:19 น. · · ... ·
Pianghathai WeloveourKing เรื่องนี้เศร้ามันขยายไปทุกหนทุกแห่งแล้ว
วันวันอังคารเวลา 11:59 น. · · ·
Koko รักในหลวง รัฐบาล ปากว่าตาขยิบ แบบนี้ โชว์ห่วยที่เป็นของคนไทย ตายอย่างเดียว
วันวันอังคารเวลา 12:20 น. · · ·
Sako Dinrakfah Love King ยังมีประชาชนอีกมากไม่รู้เลยว่ามหันต์ภัยจากต่างชาติกำลังกลืนกินประเทศชาติเราไป ทีละนิดๆ ๆ ๆ อีกหน่อยลูกหลานก้จะเป็นได้แค่ลูกจ้างของพวกมัน
วันวันอังคารเวลา 14:18 น. · · ·
นายบอน กาฬสินธุ์ ต้องคิด Event ใหม่ให้พี่วิเชียรซะแล้ว
วันวันอังคารเวลา 15:45 น. · ·
จิ้งจอกหน้าหยก เซียวอิงจวิ้น ขอบคุณครับ ที่ tag มา .....ต้องช่วยกันบอกต่อๆ
วันวันอังคารเวลา 21:42 น. · ·
'Baggy BagBad' รักในหลวง บางเรื่อง ประชาชน คนจนๆ ยังคิดได้ แต่พวกผู้บริหารประเทศทำไมถึงคิดไม่ได้ก็ไม่รู้
อพาร์ทเม้น คอนโด้ ก็ขึ้นมาเยอะแยะ แค่นี้รถก็ติดจะแย่อยู่ละ
วันวันอังคารเวลา 22:17 น. · · ·
John รักในหลวง ความลับของน้ำมันพืช ความลับของน้ำมันปาล์มคือจะมีราคาลอยตัวอยู่เหนือน้ำมันดีเชล จะเป็นเช่นนี้ต่อไปนับร้อยปี ถ้าใครปลูกพืชชนิดใดๆที่ให้ผลผลิตเป็นน้ำมันพืช คุณก็จะได้มูลค่ามากกว่าน้ำมันดีเชล
เมื่อวานนี้ เวลา 9:53 น. · · ·
John รักในหลวง ห้างร้านพวกนี้ คือตัวการทำลายร้านโชห่วยที่มีมานับร้อยปี และมันก็ทำลายสำเร็จ ลูกเจ้าของร้านโชห่วย ทุกวันนี้ก็คือลูกจ้างห้างร้านต่างชาติ
เมื่อวานนี้ เวลา 9:57 น. · · ·
วิเชียร ตั้งธรรมสถิตย์ ลูกร้านโชห่วย ที่เนรคุณพ่อแม่คือ พวกรัฐมนตรี หรือนักการเมือง นักการเมืองท้องถิ่น ที่พ่อแม่ค้าขายมีรายได้ส่งเสียให้เรียนเป็นใหญ่เป็นโตอยู่สุขสบาย แต่กลับเห็นทุนสามานที่ให้ประโยชน์ตัวเองดีกว่าคนไทยด้วยกัน แล้วกลับมาทำลายอาชีพเดิมๆ ที่พ่อแม่ทำาหากินเลี้ยงชีพสร้างสังคมที่สมดุลย์มานับร้อย ๆ ปี
เมื่อวานนี้ เวลา 11:38 น. · · ·
พิฐชญาณ์ อึ๊งแสงภากรณ์ ยิ่งคิดให้ลึก ยิ่งเจ็บปวด
เมื่อวานนี้ เวลา 12:26 น. · · ·
Kat Atthakor หยุดซะทีเถิดนักการเมืองขายชาติ
ก่อนที่ลูกหลานไทยจะต้องตกเป็นทาสชาวต่างชาติไปทุกหย่อมหญ้า
และไม่มีที่ทำมาหากินเป็นเป็นของตัวเอง
เมื่อวานนี้ เวลา 12:52 น. · ·
นมัสการ รักในหลวง เดื่ยวนี้ แถว บาง อำเถอ ก็เปิด แบบนี้ กันหมดแล้ว
เมื่อวานนี้ เวลา 18:40 น. · ·
Prinh Trakulpisan รักในหลวง บ้านผมที่อรัญ มันไปเปิด นอกเขตเมือง ...
แต่ก็ยังไม่ชอบใจอยู่ดี ...
เมื่อวานนี้ เวลา 21:18 น. · ·
Lek Ratee ปํญหาอยู่ที่นักการเมือง
17 ชั่วโมงที่แล้ว · ·
วิเชียร ตั้งธรรมสถิตย์ รัฐบาลมุ่งที่จะเพิ่ม GDP โดยให้ต่างชาติมาลงทุนส่งเสริมให้สิทธิพิเศษเอาใจอย่างมาก เป็นพิเศษ ปล่อยให้ละเมิดกฎหมายไทยต่อหน้าต่อตา หรือมีนักกฎหมายที่กินเงินเดือนภาษีของประชาชนในขบวนยุติธรรม คอยหาทางออกเลียงกฎหมายให้พวกทุนไร้พรมแดน(อ้างค้าเสรี) พวกนี้ เอารัดเอาเปรียบคนไทยทุกอาชีพ แรงงานราคาถูก สวัสดิการต่ำ ขาดหลักประกันในการดำรงชีวิต ตักตวงทรัพยากรของชาติเพื่อทำกำไรให้มาก ๆ เอาตัวเลขโชวให้รัฐบาบเอาโอ่อวดตัวเลข GDP หรอกลวงประชาชนว่ามีความเจริญ ที่แท้คือรวยกระจุก จนกระจายนั้นเอง
15 ชั่วโมงที่แล้ว · · ·
วิเชียร ตั้งธรรมสถิตย์
จะสังเกตุว่า คนงานโรงงาน หรือ พนักงานห้าง อายุไม่เกิน 35 หรือ 40 ปี ยกเว้นผู้บริหาร ก็จะเห็นได้ว่ามันเอาเปรียบคนไทย ใช้ทรัพยากรคนที่มีคุณภาพมีกำลังยังหนุ่มสาว โดยไม่รับผิดชอยต่อสังคมเมื่อแก่ทำงานไม่ไหวปล่อยเข้าป่าไป แลัวใครจะเลี้ยงเขาเมื่ออ...าชีพต่างรัฐบาลนักการเมืองก็ไม่เคยคิดว่าจะสงวนปกป้องไว้ให้ได้ทำมาหากินโดยพึ่งตนเองได้ แล้วยังจะมาทำนโยบาบ ประชาวิวัฒน์ ผมว่าพวกนี้คิดแต่จะเอาเงินฟาดหัวคนไทยโดยการสร้างภาพ แต่ถามจริงๆแล้วถ้ารายได้ไม่กระจายประชาชนพึ่งตนเองไม่ได้ รอแต่สวัสดิการจากรัฐบาล แล้วรัฐบาลจะเอาเงินที่ไหนมาจัดสวัสดิการนั้น ความคิดนโยบายประชาวิวัฒน์นั้นคือพวกมันบ้าไปแล้ว ที่ถูกต้องแล้ว ต้องยึดนโยบายให้ประชาชนพึ่งตนเอง ตามปรัชญาเศรฐกิจพอเพียง ของพระเจ้าอยู่หัวเท่านันที่จะพาประเทศไทยรอดพ้นความวิบัติจากทุนนิยมหายนะพวกนี้ได้ดูเพิ่มเติม
14 ชั่วโมงที่แล้ว · · ·
Mod X รักในหลวงทั้งตระกูล สิ่ง น่าสังวเกตุคือ เดี๋ยวนี้ห้างใหญ่ ๆ ไม่มี รปภ. หรือ เจ้าหน้าที่รับรถลูกค้าเลย สงสัยประสบภาวะขาดทุนแหง ๆ เลยเลิกให้บริการจุดนี้
12 ชั่วโมงที่แล้ว · ·
Boonlert Sombutphiboonporn นโยบาย.. ห้างต่างชาติ.. กินรวบ.. รวยคนเดียว
12 ชั่วโมงที่แล้ว · ·
Sek Yosvilai : ในอนาคต มันจะกลายเป็น Super Tesco/Lotus
มีร้านขายยา คลินิกหมอ หมอฟัน ตัดแว่น ตัดผม ตัดเสื้อผ้า
ตั้งศูนย์ถ่วงล้อ...รับเลี้ยงเด็ก
อื่นๆอีกมากมาย ให้มันตายไปทั่วทุกหนแห่ง..
11 ชั่วโมงที่แล้ว · · ·
วิเชียร ตั้งธรรมสถิตย์ ใครทำ ต.ร.อ. ก็ให้ระวังไว้ให้ดีรวมตัวกันไว้ล่วงหน้าได้แล้ว มันจะรวบเอาเข้าไปไว้ในห้างฯ รับรองได้ คนไทยมที่ได้ใบอนุญาตอยู่ตายหมดแน่ ตอนนี้ มันรับทำ พ.ร.บ. ประกันภัยและอื่นๆ ทุกอาชีพครับไม่เหลือ เบื้องหลัง นักการเมืองหิว และชั่วช้าเกินกว่าจะบรรยาย
11 ชั่วโมงที่แล้ว · · ·
Ong Mhs ไม่รู้ว่าเมืองไทย อนาคตจะเป็นอย่างไรนะครับ
5 ชั่วโมงที่แล้ว · ·
วิเชียร ตั้งธรรมสถิตย์ รวยกระจุกและจนกระจาย คนรวยกลุ่มเล็กและคบกับต่างชาติมีรายได้รวมมากกว่า ประชาชนทั้งประเทศรวมกัน หรืออีอย่างหนึ่งคือ คนรวยล้นฟ้าติดอันดับโลก แต่คนส่วนใหญ่ของประเทศจนมาก คนระดับกลางไม่มี ก็จะกลายคนจนกับจนยิ่งกว่า อาชีพส่วนใหญ่คือ ชาวนาชาวสวนก็เป็นเพียงพนักงานบริษัทเท่านั้น อาชีพอื่นๆ ก็ไม่ต้องพูดถึงทุกวันนี้เจ้าของกิจการ จนถึงขายของเร่ รถเข็น ก็แข่งขันไม่ได้อยู่แล้ว อนาคตคงจะเป็นแฟรนไชน์ หรือพนักงานบริษัททั้งหมดเพราะการค้าผูกขาดทั้งระบบ ครับ
4 ชั่วโมงที่แล้ว · · ·
วันพฤหัสบดีที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2553
บันทึกการเดินทาง (9-ตอนจบ) ช่วงท้ายของการเดินทาง จากลาเพื่อเริ่มต้นใหม่
เช้า 26 ธ.ค.2553 พี่ต่อ เสบียง ลุกขึ้นมาเปิดสถานวิทยุ ตั้งแต่ตี 4 เปิดธรรมะรับอรุณ พอเปิดเครื่องส่งวิทยุ เปิดเสียงแล้ว พี่ต่อก็ล้มตัวลงนอนต่อ 6 โมงเช้านายบอน ลุกขึ้นมาเข้าอินเทอร์เนต เริ่มอัพโหลดวิดีโอบางไฟล์ใส่เวบ พอ 8 โมงเช้า คุณไก่ แมลงสาบก็เข้ามาจัดรายการพิเศษ รำลึกครบรอบ 6 ปีสึมานิ พร้อมกับทำสปอร์ตวิทยุและเปิดเพลงจากอัลบั้ม รวมพลคนอาสา ธารรักธารน้ำใจ สู่ไทยอันดามัน ซึ่งเป็นเพลงเกี่ยวกับเหตุการณ์สึนามิ โดยเปิดตลอดทั้งวัน
คุณไก่ จัดรายการวิทยุช่วงเช้า ก็เลยบันทึกวิดีโอไว้ ลงเวบทันที ราว 10โมงเช้า คุณพระอาทิตย์และคุณไก่ แมลงสาบ ก็พาไปทานข้าวเช้า ที่ร้านอาหารที่พาแขกหลายคนไปทานมื้อเที่ยงเมื่อวาน (25 ธค.2553) แล้วคุณพระอาทิตย์ก็ถือวิทยุธานินทร์ มาเปิดฟังวิทยุ FM98.1 MHz ไปด้วย
จนเวลาล่วงเลยมาถึงบ่าย 3 โมง 4 โมง ไม่เห็นคุณ Kathreeya Atthakor และคุณ Sako เข้ามา คาดว่า คงจะกลับ กทม.แล้ว คุณพระอาทิตย์ก็เตรียมจะขับรถออกไปส่งนายบอนกลับเข้า กทม. แต่ก่อนกลับ ทานข้าวเย็นกันก่อนดีกว่า ช่วงที่กำลังทานข้าวเย็นนั้น คุณ Kathreeya ก็โทรเข้ามาบอกว่า พึ่งตื่น เพราะเมื่อคืนไปดูแหลม มอริสัน กลับมาถึงคอนโดที่พัก เข้านอนตอนตี 4 ... ช่วงกลางวัน ตื่นแล้ว 1 รอบ หามาม่าทานแล้วนอนพักอีกรอบ ตื่นอีกที 6 โมงเย็น เหน็ดเหนื่อยมากๆ และชวนกลับวันจันทร์ เพราะจะขอนอนพักอีก 1 คืน เมื่อวานไปตระเวณตามที่ต่างๆตลอดทั้งวัน พบปะ พูดคุย ให้สัมภาษณ์ ทางวิทยุ แล้วไปดูแหลม มอริสันจนเพลียมากๆ พอได้ยินแล้ว ก็เลยตอบโอเค กลับวันจันทร์ที่ 27 ธ.ค. ก็ได้
ในช่วงบ่ายระหว่างรอการมาของคุณ Kathreeya Atthakor และคุณ Sako แต่ไม่ได้เ้ข้ามาสักที คุณไก่ แมลงสาบก็เลยร้องเพลงที่แต่งใหม่ ดินคือข้า บันทึกวิดีโอไว้เลย ถ้าทั้ง 2 ท่านเข้ามาในตอนบ่าย คงได้ร้องเพลงนี้ให้ฟังสดๆ ส่วนเพลงต่อไป ก็จะแต่งให้ในเวลาที่เหมาะสม หลังทานข้าวเย็นแล้ว เมื่อไม่ต้องออกไปส่งนายบอนขึ้นรถกลับแล้ว คุณไก่ ก็เตรียมตัวไปธุระส่วนตัวในเมืองชลบุรี ส่วนคุณพระอาทิตย์ ก็เข้าไปจัดรายการวิทยุในช่วงเย็น นายบอนก็ไปบันทึกวิดีโอไว้ลงเวบทันที พอจัดรายการเสร็จ พี่เตี้ย บางระกำ็ก็จัดรายการต่อ
แล้วคุณ Sako ก็โทรศัพท์มาอีกครั้ง บอกว่า ตอนนั้นอยู่ที่ร้าน อบต.จ๋อม ชายหาดบ้านอำเภอ อยู่ใกล้ๆบ้านห้วยขวางนี่เอง เชิญคุณไก่ แมลงสาบออกมาทานข้าวด้วยกันหน่อย จะได้พูดคุยปรึกษาหารือกัน แต่คุณไก่ ขับรถออกไปเมืองชลแล้ว ก็เลยชวนพี่ต่อ เสบียงและน้องปลา ไปนั่งทานข้าวที่ร้าน อบต.จ๋อม
บรรยากาศการนั่งคุยกันแบบกันเอง เรื่องที่คุยกัน มีตั้งแต่ เรื่องการทำธุรกิจ, เรื่องของดนตรีในแวดวงเพื่อชีวิต , เรื่องการเมือง-นักการเมือง, เรื่องการเดินทางของกลุ่มเสบียงไปที่ แม่ระมาด จ.ตาก ในช่วงวันเด็ก 7-8 ม.ค.2554 นี้ ทั้งไปทำงานเพื่อสังคมและไปท่องเที่ยวแบบออฟโรด กลับมาวันที่ 9 ม.ค.2554 แล้วก็แนะนำเรื่อง facebook ซึ่งนายบอนได้ส่งข้อมูลให้แล้ว บอกว่า พี่วิเชียร, พี่ปู, พี่ต่อ, น้องปลา และคุณพระอาทิตย์ ใช้ชื่อใน facebook ว่าอะไร พร้อมแนะนำให้เพิ่มเป็นเพื่อนไว้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะทำให้คุณ Kathreeya Atthakor และคุณ Sako สะดวกในการเพิ่มเพื่อน เพราะที่ผ่านมามีคนขอเป็นเพื่อนทาง facebook ร่วมร้อยคน ซึ่งต้องใช้เวลากลั่นกรอง ... คุยกันจนดึก ลมหนาวพัดมา ก็แยกย้ายกลับที่พัก ซึ่งคุณ Sako บอกว่า จะแวะเข้าไปรับนายบอนที่บ้านห้วยขวาง ช่วง 10-11 โมงเช้า เพื่อกลับ กทม.ด้วยกัน
เมื่อกลับมาถึงบ้านห้วยขวาง พี่ต่อ-เสบีียง หิวข้าว ตอนอยู่ที่หาดบ้านอำเภอก็ลืมกินข้าว มัวแต่คุยเพลิน ทั้งๆที่น้องปลา เหลือข้าวผัดไว้ลุงต่อให้ตั้งครึ่งจาน ลุงต่อเลยจัดการต้มมาม่าใส่ไข่ มานั่งทานยามดึกก่อนเข้านอน ก่อนหลับก็คุยเรื่องไปขับออฟโรด พูดถึงกลุ่มดินรักษ์ฟ้าด้วยความชื่นชมที่มีความตั้งใจทำงานเพื่อสังคมอย่างนี้ ซึ่งหาคนแบบนี้ไม่ได้ง่ายนักในปัจจุบัน พี่ต่อเปรียบเทียบให้ฟัง จากเด็กและเยาวชนในพื้นที่ ต้องคิดจาก 400-500 คน ถึงจะมีคนที่คิดแบบพวกเราสัก 1-2 คน ซึ่งถือว่า หายากมากๆ
ตี 3 พี่ต่อก็เปิดไฟ รีบปลุกนายบอน "คุณบอน ตื่นๆ" แล้วก็ยกฟูก ผ้าห่มที่ปูนอน เพราะ "ตะขาบ" เข้ามาในห้อง พี่ต่อรีบเอาหนังสือ ช้อนตัวตะขาบแล้วปล่อยออกทางหน้าต่าง ..ตะกี้ ตะขาบเข้ามาไต่ที่แขน เลยสะดุ้งตื่น ครั้งหนึ่งเคยโดนตะขาบกัดอวัยวะสำคัญ จนบวมเป่งตั้ง 4-5 วัน เวลาจะอาบน้ำหรือเดิน ..ทรมานสุดๆ " แต่ผมไม่เคยฆ่านะ"
แหม.. เกือบโดนตะขาบกัดอวัยวะสำคัญซะแล้ว.....
..เช้าวันที่ 27 ธ.ค.2553 พี่ต่อเิปิดเครื่องส่งสถานีวิทยุเกือบ 6 โมงเช้า เพราะเมื่อคืนก็บ่นว่า ชักเป็นห่วงอุปกรณ์ และคอมพิวเตอร์ ที่เปิดตั้งแ่ต่ตี 4 ปิดเครื่องตอน 4-5 ทุ่ม ในห้องไม่มีแอร์ มีแต่พัดลม ก็ชักเป็นห่วงเครื่องมือและอุปกรณ์ของสถานีวิทยุจะเสียหายเหมือนกัน
ช่วง 8 โมงเช้า คุณพระอาทิตย์เข้ามาจัดรายการวิทยุ พูดคุย 1 ชั่วโมงแล้วส่งต่อให้พี่เตี้ย บางระกำ จัดรายการในชั่วโมงถัดมา นายบอนก็นั่งอัพโหลดไฟล์ และบันทึกวิดีโอไว้ลงเวบไปเรื่อยๆ
ราว 11 โมงเช้า คุณ Kathreeya Atthakor และคุณ Sako ก็ขับรถเข้ามารับนายบอน คุณไก่ ยังไม่กลับเข้ามา นัดเจอกับลุงสุเวศน์ ภู่ระหงษ์ที่ชลบุรี เื่พื่อจะเข้าไปบันทึกเสียงใน กทม. เพราะคุณโอ๊ะ นวภาพ ไม่ว่างในวันที่ 29 ธ.ค. จึงต้องไปบันทึกเสียงในวันที่ 27-28 ธค และในช่วงบ่าย คุณพระอาทิตย์จะขับรถเข้า กทม.ด้วย
พุดคุยทักทายที่หน้าบ้านศิลปะ ดนตรี อยู่ครู่หนึ่ง ก็ร่ำลากัน ขอเบอร์โทรกันไว้เรียบร้อย คุณ Sako ก็ขับรถมุ่งหน้ามาที่ตลาดหนองมน ชลบุรี เพราะคุณ Kathreeya Atthakor จะแวะซื้อของฝากให้ทางบ้าน หลังจากชอปปิ้งเสร็จ ก็มุ่งหน้าเข้า กทม.
ระหว่างการเดินทางก็นั่งฟังเพลงสากลเพราะๆ และพูดคุยกันไป ช่วงหนึ่งคุณ Kathreeya เล่าให้ฟังว่า ตอนเป็นเด็ก ช่วงนั้นคุณพ่อของเธอ ( อ.สุเทพ อัตถากร) เคยทำงานเคลื่อนไหวทางการเมือง ให้ความรู้ข้อมูล ปลุกฝังจิตสำนึกของคนให้รักชาติ ซึ่งมีทั้งมิตรและศัตรู และในช่วงนั้นคุณพ่อของเธอตัดสินใจส่งคุณ Kathreeya ไปต่างประเทศตั้งแต่อายุเพียง 9 ขวบ ได้เรียนรู้ประสบการณ์หลายอย่าง
เมื่อไปเรียนต่างประเทศ ถึงช่วงปิดเทอมในปีหนึ่ง คุณ Kathreeya เตรียวตัวกลับบ้านที่เมืองไทย และได้คุยกับเพื่อนที่เรียนที่เดียวกัน เพื่อนที่เป็นชาวเขมรได้ยินแล้วรู้สึกอิจฉาเธอที่มีบ้านให้กลับ แต่เขากลับบ้านของเขาที่เขมรไม่ได้ ความรู้สึกที่ได้สัมผัสในครั้งนั้น สะเทือนใจพอสมควร
"ได้เห็นคนที่สิ้นชาติแล้ว หดหู่ ในเมื่อเรายังมีประเทศชาติ ยังมีเอกราช ถ้าจะปล่อยให้เิกิดเหตุการณ์ที่จะต้องสิ้นชาติแบบนั้น คงจะยอมไม่ไ่ด้"
ช่วงที่เป็นเด็ก คุณ Kathreeya เกิดคำถามคาใจ สงสัยมาตลอดว่า ทำไมคุณพ่อถึงส่งเธอไปอยู่ต่างประเทศตั้งแต่เด็กๆ สิ่งที่คุณพ่อทำ และสั่งสอนมาตลอดนั้น ทำเพื่ออะไร แต่เมื่อเติบโตขึ้น ได้พบเห็นหลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดขึ้น ทำให้เธอเข้าใจในสิ่งที่คุณพ่อทำไป จนเกิดเป็นพลังขับเคลื่อนจากข้างใน ออกมาทำโครงการในแนวทางของตัวเอง หนึ่งในนั้น คือ โครงการของกลุ่มดินรักษ์ฟ้า ที่มุ่งให้ความรู้ ปลุกจิตสำนึกให้กลุ่มเป้าหมาย ตามแนวทางที่วางไว้
รถแล่นเข้ามาใน กทม. มาตามทางด่วน โผล่มาแถวจตุจักร แล้วคุณ SAko ก็ขับรถมาส่งนายบอนที่หน้าหมอชิต 2 เพื่อหารถกลับกาฬสินธุ์ หลังจากสวัสดี ร่ำลากันแล้ว รถเก๋งคันนั้นก็แล่นออกไปจนลับสายตา
แล้วบันทึกการเดินทางครั้งนี้ ที่เริ่มต้นตั้งแต่ก้าวขึ้นบนรถหมายเลขทะเบียน ษม 9036 กทม. ซึ่งมีโลโก้ กลุ่มดินรักษ์ฟ้าติดไว้ที่กระจกด้านหลัง ก็ต้องจบลง เมื่อก้าวลงจากรถ ซึ่งเป็นพาหนะที่ทำให้เกิดบันทึกการเดินทางครั้งนี้ .. จนกว่า ... การเดินทางครั้งต่อไปของกลุ่มดินรักษ์ฟ้า จะเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง.....
คุณไก่ จัดรายการวิทยุช่วงเช้า ก็เลยบันทึกวิดีโอไว้ ลงเวบทันที ราว 10โมงเช้า คุณพระอาทิตย์และคุณไก่ แมลงสาบ ก็พาไปทานข้าวเช้า ที่ร้านอาหารที่พาแขกหลายคนไปทานมื้อเที่ยงเมื่อวาน (25 ธค.2553) แล้วคุณพระอาทิตย์ก็ถือวิทยุธานินทร์ มาเปิดฟังวิทยุ FM98.1 MHz ไปด้วย
จนเวลาล่วงเลยมาถึงบ่าย 3 โมง 4 โมง ไม่เห็นคุณ Kathreeya Atthakor และคุณ Sako เข้ามา คาดว่า คงจะกลับ กทม.แล้ว คุณพระอาทิตย์ก็เตรียมจะขับรถออกไปส่งนายบอนกลับเข้า กทม. แต่ก่อนกลับ ทานข้าวเย็นกันก่อนดีกว่า ช่วงที่กำลังทานข้าวเย็นนั้น คุณ Kathreeya ก็โทรเข้ามาบอกว่า พึ่งตื่น เพราะเมื่อคืนไปดูแหลม มอริสัน กลับมาถึงคอนโดที่พัก เข้านอนตอนตี 4 ... ช่วงกลางวัน ตื่นแล้ว 1 รอบ หามาม่าทานแล้วนอนพักอีกรอบ ตื่นอีกที 6 โมงเย็น เหน็ดเหนื่อยมากๆ และชวนกลับวันจันทร์ เพราะจะขอนอนพักอีก 1 คืน เมื่อวานไปตระเวณตามที่ต่างๆตลอดทั้งวัน พบปะ พูดคุย ให้สัมภาษณ์ ทางวิทยุ แล้วไปดูแหลม มอริสันจนเพลียมากๆ พอได้ยินแล้ว ก็เลยตอบโอเค กลับวันจันทร์ที่ 27 ธ.ค. ก็ได้
ในช่วงบ่ายระหว่างรอการมาของคุณ Kathreeya Atthakor และคุณ Sako แต่ไม่ได้เ้ข้ามาสักที คุณไก่ แมลงสาบก็เลยร้องเพลงที่แต่งใหม่ ดินคือข้า บันทึกวิดีโอไว้เลย ถ้าทั้ง 2 ท่านเข้ามาในตอนบ่าย คงได้ร้องเพลงนี้ให้ฟังสดๆ ส่วนเพลงต่อไป ก็จะแต่งให้ในเวลาที่เหมาะสม หลังทานข้าวเย็นแล้ว เมื่อไม่ต้องออกไปส่งนายบอนขึ้นรถกลับแล้ว คุณไก่ ก็เตรียมตัวไปธุระส่วนตัวในเมืองชลบุรี ส่วนคุณพระอาทิตย์ ก็เข้าไปจัดรายการวิทยุในช่วงเย็น นายบอนก็ไปบันทึกวิดีโอไว้ลงเวบทันที พอจัดรายการเสร็จ พี่เตี้ย บางระกำ็ก็จัดรายการต่อ
แล้วคุณ Sako ก็โทรศัพท์มาอีกครั้ง บอกว่า ตอนนั้นอยู่ที่ร้าน อบต.จ๋อม ชายหาดบ้านอำเภอ อยู่ใกล้ๆบ้านห้วยขวางนี่เอง เชิญคุณไก่ แมลงสาบออกมาทานข้าวด้วยกันหน่อย จะได้พูดคุยปรึกษาหารือกัน แต่คุณไก่ ขับรถออกไปเมืองชลแล้ว ก็เลยชวนพี่ต่อ เสบียงและน้องปลา ไปนั่งทานข้าวที่ร้าน อบต.จ๋อม
บรรยากาศการนั่งคุยกันแบบกันเอง เรื่องที่คุยกัน มีตั้งแต่ เรื่องการทำธุรกิจ, เรื่องของดนตรีในแวดวงเพื่อชีวิต , เรื่องการเมือง-นักการเมือง, เรื่องการเดินทางของกลุ่มเสบียงไปที่ แม่ระมาด จ.ตาก ในช่วงวันเด็ก 7-8 ม.ค.2554 นี้ ทั้งไปทำงานเพื่อสังคมและไปท่องเที่ยวแบบออฟโรด กลับมาวันที่ 9 ม.ค.2554 แล้วก็แนะนำเรื่อง facebook ซึ่งนายบอนได้ส่งข้อมูลให้แล้ว บอกว่า พี่วิเชียร, พี่ปู, พี่ต่อ, น้องปลา และคุณพระอาทิตย์ ใช้ชื่อใน facebook ว่าอะไร พร้อมแนะนำให้เพิ่มเป็นเพื่อนไว้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะทำให้คุณ Kathreeya Atthakor และคุณ Sako สะดวกในการเพิ่มเพื่อน เพราะที่ผ่านมามีคนขอเป็นเพื่อนทาง facebook ร่วมร้อยคน ซึ่งต้องใช้เวลากลั่นกรอง ... คุยกันจนดึก ลมหนาวพัดมา ก็แยกย้ายกลับที่พัก ซึ่งคุณ Sako บอกว่า จะแวะเข้าไปรับนายบอนที่บ้านห้วยขวาง ช่วง 10-11 โมงเช้า เพื่อกลับ กทม.ด้วยกัน
เมื่อกลับมาถึงบ้านห้วยขวาง พี่ต่อ-เสบีียง หิวข้าว ตอนอยู่ที่หาดบ้านอำเภอก็ลืมกินข้าว มัวแต่คุยเพลิน ทั้งๆที่น้องปลา เหลือข้าวผัดไว้ลุงต่อให้ตั้งครึ่งจาน ลุงต่อเลยจัดการต้มมาม่าใส่ไข่ มานั่งทานยามดึกก่อนเข้านอน ก่อนหลับก็คุยเรื่องไปขับออฟโรด พูดถึงกลุ่มดินรักษ์ฟ้าด้วยความชื่นชมที่มีความตั้งใจทำงานเพื่อสังคมอย่างนี้ ซึ่งหาคนแบบนี้ไม่ได้ง่ายนักในปัจจุบัน พี่ต่อเปรียบเทียบให้ฟัง จากเด็กและเยาวชนในพื้นที่ ต้องคิดจาก 400-500 คน ถึงจะมีคนที่คิดแบบพวกเราสัก 1-2 คน ซึ่งถือว่า หายากมากๆ
ตี 3 พี่ต่อก็เปิดไฟ รีบปลุกนายบอน "คุณบอน ตื่นๆ" แล้วก็ยกฟูก ผ้าห่มที่ปูนอน เพราะ "ตะขาบ" เข้ามาในห้อง พี่ต่อรีบเอาหนังสือ ช้อนตัวตะขาบแล้วปล่อยออกทางหน้าต่าง ..ตะกี้ ตะขาบเข้ามาไต่ที่แขน เลยสะดุ้งตื่น ครั้งหนึ่งเคยโดนตะขาบกัดอวัยวะสำคัญ จนบวมเป่งตั้ง 4-5 วัน เวลาจะอาบน้ำหรือเดิน ..ทรมานสุดๆ " แต่ผมไม่เคยฆ่านะ"
แหม.. เกือบโดนตะขาบกัดอวัยวะสำคัญซะแล้ว.....
..เช้าวันที่ 27 ธ.ค.2553 พี่ต่อเิปิดเครื่องส่งสถานีวิทยุเกือบ 6 โมงเช้า เพราะเมื่อคืนก็บ่นว่า ชักเป็นห่วงอุปกรณ์ และคอมพิวเตอร์ ที่เปิดตั้งแ่ต่ตี 4 ปิดเครื่องตอน 4-5 ทุ่ม ในห้องไม่มีแอร์ มีแต่พัดลม ก็ชักเป็นห่วงเครื่องมือและอุปกรณ์ของสถานีวิทยุจะเสียหายเหมือนกัน
ช่วง 8 โมงเช้า คุณพระอาทิตย์เข้ามาจัดรายการวิทยุ พูดคุย 1 ชั่วโมงแล้วส่งต่อให้พี่เตี้ย บางระกำ จัดรายการในชั่วโมงถัดมา นายบอนก็นั่งอัพโหลดไฟล์ และบันทึกวิดีโอไว้ลงเวบไปเรื่อยๆ
ราว 11 โมงเช้า คุณ Kathreeya Atthakor และคุณ Sako ก็ขับรถเข้ามารับนายบอน คุณไก่ ยังไม่กลับเข้ามา นัดเจอกับลุงสุเวศน์ ภู่ระหงษ์ที่ชลบุรี เื่พื่อจะเข้าไปบันทึกเสียงใน กทม. เพราะคุณโอ๊ะ นวภาพ ไม่ว่างในวันที่ 29 ธ.ค. จึงต้องไปบันทึกเสียงในวันที่ 27-28 ธค และในช่วงบ่าย คุณพระอาทิตย์จะขับรถเข้า กทม.ด้วย
พุดคุยทักทายที่หน้าบ้านศิลปะ ดนตรี อยู่ครู่หนึ่ง ก็ร่ำลากัน ขอเบอร์โทรกันไว้เรียบร้อย คุณ Sako ก็ขับรถมุ่งหน้ามาที่ตลาดหนองมน ชลบุรี เพราะคุณ Kathreeya Atthakor จะแวะซื้อของฝากให้ทางบ้าน หลังจากชอปปิ้งเสร็จ ก็มุ่งหน้าเข้า กทม.
ระหว่างการเดินทางก็นั่งฟังเพลงสากลเพราะๆ และพูดคุยกันไป ช่วงหนึ่งคุณ Kathreeya เล่าให้ฟังว่า ตอนเป็นเด็ก ช่วงนั้นคุณพ่อของเธอ ( อ.สุเทพ อัตถากร) เคยทำงานเคลื่อนไหวทางการเมือง ให้ความรู้ข้อมูล ปลุกฝังจิตสำนึกของคนให้รักชาติ ซึ่งมีทั้งมิตรและศัตรู และในช่วงนั้นคุณพ่อของเธอตัดสินใจส่งคุณ Kathreeya ไปต่างประเทศตั้งแต่อายุเพียง 9 ขวบ ได้เรียนรู้ประสบการณ์หลายอย่าง
เมื่อไปเรียนต่างประเทศ ถึงช่วงปิดเทอมในปีหนึ่ง คุณ Kathreeya เตรียวตัวกลับบ้านที่เมืองไทย และได้คุยกับเพื่อนที่เรียนที่เดียวกัน เพื่อนที่เป็นชาวเขมรได้ยินแล้วรู้สึกอิจฉาเธอที่มีบ้านให้กลับ แต่เขากลับบ้านของเขาที่เขมรไม่ได้ ความรู้สึกที่ได้สัมผัสในครั้งนั้น สะเทือนใจพอสมควร
"ได้เห็นคนที่สิ้นชาติแล้ว หดหู่ ในเมื่อเรายังมีประเทศชาติ ยังมีเอกราช ถ้าจะปล่อยให้เิกิดเหตุการณ์ที่จะต้องสิ้นชาติแบบนั้น คงจะยอมไม่ไ่ด้"
ช่วงที่เป็นเด็ก คุณ Kathreeya เกิดคำถามคาใจ สงสัยมาตลอดว่า ทำไมคุณพ่อถึงส่งเธอไปอยู่ต่างประเทศตั้งแต่เด็กๆ สิ่งที่คุณพ่อทำ และสั่งสอนมาตลอดนั้น ทำเพื่ออะไร แต่เมื่อเติบโตขึ้น ได้พบเห็นหลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดขึ้น ทำให้เธอเข้าใจในสิ่งที่คุณพ่อทำไป จนเกิดเป็นพลังขับเคลื่อนจากข้างใน ออกมาทำโครงการในแนวทางของตัวเอง หนึ่งในนั้น คือ โครงการของกลุ่มดินรักษ์ฟ้า ที่มุ่งให้ความรู้ ปลุกจิตสำนึกให้กลุ่มเป้าหมาย ตามแนวทางที่วางไว้
รถแล่นเข้ามาใน กทม. มาตามทางด่วน โผล่มาแถวจตุจักร แล้วคุณ SAko ก็ขับรถมาส่งนายบอนที่หน้าหมอชิต 2 เพื่อหารถกลับกาฬสินธุ์ หลังจากสวัสดี ร่ำลากันแล้ว รถเก๋งคันนั้นก็แล่นออกไปจนลับสายตา
แล้วบันทึกการเดินทางครั้งนี้ ที่เริ่มต้นตั้งแต่ก้าวขึ้นบนรถหมายเลขทะเบียน ษม 9036 กทม. ซึ่งมีโลโก้ กลุ่มดินรักษ์ฟ้าติดไว้ที่กระจกด้านหลัง ก็ต้องจบลง เมื่อก้าวลงจากรถ ซึ่งเป็นพาหนะที่ทำให้เกิดบันทึกการเดินทางครั้งนี้ .. จนกว่า ... การเดินทางครั้งต่อไปของกลุ่มดินรักษ์ฟ้า จะเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง.....
นายบอน
14.40 น.
27 ธ.ค.2553
14.40 น.
27 ธ.ค.2553
Clip video ลุงต่อ เสบียง สอนน้องปลา-อาทิตยา จันทร์เกษม เล่นไวโอลิน เมื่อ 25 ธ.ค.2553
แม้จะอยู่ในครอบครัวของศิลปินนักดนตรี แต่น้องปลา "อาทิตยา จันทร์เกษม" ได้เรียนดนตรีจากครูที่โรงเรียน ที่บ้าน ไม่ได้สอนอย่างจริงจังเหมือนที่โรงเรียน เพราะด้วยความคุ้นเคยภายในครอบครัว บางครั้งได้เรียน บางทีก็ไม่ได้เรียน แล้วแต่ภารกิจต่างๆที่ต้องทำในแต่ละวัน น้องปลาจึงเรียนดนตรีจากโรงเรียน ซึ่งมีครูสอนตามตารางเรียนที่กำหนดไว้
ในงานครบรอบ 2 ปีสถานีวิทยุชุมชนบ้านห้วยขวางในวันที่ 5 ก.พ.2554 นอกจากมีศิลปินอาชีพ อย่าง วงคาราวาน, วงซูซู, วง The แมลงสาบ Project แล้ว มีแนวคิดที่จะมีดนตรีขึ้นเล่นบนเวที ก่อนที่ศิลปินวงใหญ่จะขึ้นบนเวทีตามกำหนดเวลา เมื่อพี่ปู ปิญชาน์ สุขภูตานันท์ พาน้องคุกกี้(ลิปิการ์ กลัดสาคร) มาเยี่ยมคุณไก่ แมลงสาบ ได้พูดคุยสอบถามจนรู้ว่า น้องคุกกี้สนใจเล่นดนตรีเช่นกัน มีโอกาสได้เรียนดนตรีมาแล้ว พี่ต่อ เสบียง เลยจะให้น้องปลากับน้องคุกกี้ ขึ้นเล่นดนตรีเิปิดเวที เพียงแค่มาซ้อมเพลงก็ขึ้นไปแสดงบนเวทีได้ ซึ่งพี่ปูก็สนับสนุนอยากให้้น้องคุกกี้ได้แสดงความสามารถทางดนตรี เช่นกัน
หลังจากอาหารมื้อค่ำ 25 ธ.ค.2553 กลับมาถึงบ้าน ลุงต่อ เสบียงก็นั่งสอนโน้ต สอนให้น้องปลาเล่นไวโอลิน ในเพลงดอกไม้ให้คุณ, ดอกไม้จะบาน ค่อยๆสอน ค่อยๆฝึกฝนกันไป ถึงจะเรียนจากครูที่โรงเรียน แต่พี่ต่อ เคยเป็นคนที่ไปสอนครูของน้องปลาอีกทีหนึ่ง นี่คือ บรรยากาศน่ารักๆ ในคืนวันคริสมาสต์ของลุงต่อกับน้องปลา
ในงานครบรอบ 2 ปีสถานีวิทยุชุมชนบ้านห้วยขวางในวันที่ 5 ก.พ.2554 นอกจากมีศิลปินอาชีพ อย่าง วงคาราวาน, วงซูซู, วง The แมลงสาบ Project แล้ว มีแนวคิดที่จะมีดนตรีขึ้นเล่นบนเวที ก่อนที่ศิลปินวงใหญ่จะขึ้นบนเวทีตามกำหนดเวลา เมื่อพี่ปู ปิญชาน์ สุขภูตานันท์ พาน้องคุกกี้(ลิปิการ์ กลัดสาคร) มาเยี่ยมคุณไก่ แมลงสาบ ได้พูดคุยสอบถามจนรู้ว่า น้องคุกกี้สนใจเล่นดนตรีเช่นกัน มีโอกาสได้เรียนดนตรีมาแล้ว พี่ต่อ เสบียง เลยจะให้น้องปลากับน้องคุกกี้ ขึ้นเล่นดนตรีเิปิดเวที เพียงแค่มาซ้อมเพลงก็ขึ้นไปแสดงบนเวทีได้ ซึ่งพี่ปูก็สนับสนุนอยากให้้น้องคุกกี้ได้แสดงความสามารถทางดนตรี เช่นกัน
หลังจากอาหารมื้อค่ำ 25 ธ.ค.2553 กลับมาถึงบ้าน ลุงต่อ เสบียงก็นั่งสอนโน้ต สอนให้น้องปลาเล่นไวโอลิน ในเพลงดอกไม้ให้คุณ, ดอกไม้จะบาน ค่อยๆสอน ค่อยๆฝึกฝนกันไป ถึงจะเรียนจากครูที่โรงเรียน แต่พี่ต่อ เคยเป็นคนที่ไปสอนครูของน้องปลาอีกทีหนึ่ง นี่คือ บรรยากาศน่ารักๆ ในคืนวันคริสมาสต์ของลุงต่อกับน้องปลา
บันทึกการเดินทาง (8) มิตรภาพที่เติบโตในยามพลบค่ำ 25 ธ.ค.2553
หลังจากไปสำรวจดูโรงเรียนในพื้นที่รวม 4 แห่ง ขับรถตะเวณไปตามที่ต่างๆ แวะรีสอร์ท แล้วลัดเลาะมาโผล่ที่พัทยา ก่อนที่จะกลับมาที่บ้านห้วยขวางอีกครั้ง จนเวลาล่วงเลยมาจนถึง 18.00 น. พี่ปู ปิญชาน์ สุขภูตานันท์ และน้องคุกกี้(ลิปิการ์ กลัดสาคร) ก็มาตามนัด มาเยี่ยมไก่ แมลงสาบและกลุ่มดินรักษ์ฟ้าจาก กทม. จนกระทั่งได้เข้าไปนั่งสัมภาษณ์พูดคุยออกอากาศสดทางสถานีวิทยุชุมชนบ้านห้วยขวาง FM98.1 MHz ราว 1 ชั่วโมงเศษ หลังจากนั้นจึงพากันไปนั่งรับประทานอาหารเย็นที่ร้านอาหารใกล้สถานีวิทยุชุมชน
การเดินทางมาสำรวจพื้นที่ในครั้งนี้ของคุณ Kathreeya Atthakor และคุณ Sako นอกจากจะได้มิตรใหม่แล้ว ยังเปิดโอกาสให้มิตรใหม่ได้รู้จักโครงการที่กลุ่มดินรักษ์ฟ้ากำลังทำ ได้ดีิยิ่งขึ้น เริ่มจากการแต่งเพลง "ขอเป็นคนดีเพื่อพ่อหลวง" จนได้มีโอกาสได้พบเจอตัวจริง ได้พูดคุยทำความรู้จักกัน ได้เดินทางออกไปสำรวจพื้นที่ร่วมกัน และได้ทำความรู้จักกันมากขึ้น ผ่านการสัมภาษณ์ออกอากาศสดในรายการวิทยุ นอกจากจะทำให้คุณไก่ แมลงสาบ และคุณพระอาทิตย์ ได้รู้จักกลุ่มดินรักษ์ฟ้าเพิ่มมากขึ้นแล้ว ผู้ฟังวิทยุทางบ้าน ก็ได้รับโอกาสในการทำความรู้จักกลุ่มดินรักษ์ฟ้าอีกด้วย เป็นการแนะนำตัวให้คนในพื้นที่รู้จักตั้งแต่มาสำรวจพื้นที่ ก่อนการทำโครงการอบรม เป็นเวลาหลายสัปดาห์
อาหารมื้อเย็น พี่ปู ซื้ออาหาร 2-3 ถุงมาให้ชิมด้วย เลยได้นั่งทานอาหารอร่อยๆจากพี่ปูทันที ในขระที่อาหารของร้าน จะต้องรอตามคิว เมื่อได้ที่นั่งกันแล้ว บรรยากาศการพูดคุยก็เป็นไปแบบกันเอง มีทั้งการมอบ CD เพลงให้แขกผู้มาเยือน การพูดคุยเรื่องต่างๆ ทั้งเรื่องราวในแวดวงดนตรีเพื่อชีวิต เรื่องราวการต่อสู้ ชุมนุมทางการเมืองที่ทุกคนได้เคยร่วมต่อสู้ด้วยกันมา และอีกหลายเรื่อง ดังในวิดีโอนี้
นั่งคุยกันเพลิน เวลาผ่านไปอย่างรวดเ็ร็ว ถึง 21.30 น.แบบไม่รู้ตัว พี่ปูกับน้องคุกกี้มีนัดหมายที่จะไปอีกแห่ง ส่วนคุณ Kathreeya Atthakor และคุณ Sakoจะไปดูแหลม มอริสัน เล่นดนตรีในพัทยา จังแยกย้ายกันตอนนั้น น้องคุกกี้ขอโน้ตเพลง เพื่อจะไปหัดเล่นดนตรี ซึ่งคุณพระอาทิตย์จะส่งให้ภายหลัง
กลับมาที่สถานีวิทยุชุมชนบ้านห้วยขวาง หลังจากลุงต่อ สอนน้องปลา ฝึกเล่นเพลงดอกไม้ให้คุณ ตามโน้ตเพลงได้ท่อนหนึ่งแล้ว ก็ปิดไฟนอนพักผ่อน ก่อนจะหลับ ก็พูดถึงกลุ่มดินรักษ์ฟ้า ที่ได้พบเจอ ได้พูดคุยกันในวันนี้ว่า ชื่นชมที่พวกเค้าสนใจทำงานเพื่อสังคมอย่างนี้ พี่ต่อ-เสบียงอยากจะผลักดัน ช่วยสนับสนุนอย่างเต็มที่ มีโครงการหนึ่งที่พี่ต่อ คิดอยากจะทำ แต่ยอมรับว่า ไม่ค่อยกระตือรือร้นเหมือนก่อน เห็นกลุ่มดินรักษ์ฟ้าแล้ว พากเค้ามีไฟ มีพลังที่จะทำโครงการดีๆต่อไป แต่พี่ต่อ ยอมรับว่า หมดไฟซะแล้ว
"ถ้าพวกเค้าเอาสิ่งที่ผมคิด ไปทำต่อได้ จะดีมากๆเลย"
แค่วันแรกที่ได้พบเจอกันเท่านั้น ที่ต่างฝ่ายต่างได้รู้จักตัวตนของแต่ละคนอย่างเต็มที่ วันพรุ่งนี้ คุณ Sakoบอกว่าจะแวะเข้ามาที่บ้านห้วยขวางช่วงบ่ายๆ คงจะมีประเด็นใหม่ๆเกิดขึ้นอีก
เมื่อเริ่มต้นเจอกัน มีแนวคิดดีๆ ตรงกันหลายอย่าง โครงการดีๆที่จะได้ทำร่วมกันนี้ กลุ่มเป้าหมายคงจะได้รับสิ่งดีๆแบบเต็มๆ ไปมากกว่า โครงการครั้งที่ผ่านมาของกลุ่มดินรักษ์ฟ้าอย่างแน่นอน...
การเดินทางมาสำรวจพื้นที่ในครั้งนี้ของคุณ Kathreeya Atthakor และคุณ Sako นอกจากจะได้มิตรใหม่แล้ว ยังเปิดโอกาสให้มิตรใหม่ได้รู้จักโครงการที่กลุ่มดินรักษ์ฟ้ากำลังทำ ได้ดีิยิ่งขึ้น เริ่มจากการแต่งเพลง "ขอเป็นคนดีเพื่อพ่อหลวง" จนได้มีโอกาสได้พบเจอตัวจริง ได้พูดคุยทำความรู้จักกัน ได้เดินทางออกไปสำรวจพื้นที่ร่วมกัน และได้ทำความรู้จักกันมากขึ้น ผ่านการสัมภาษณ์ออกอากาศสดในรายการวิทยุ นอกจากจะทำให้คุณไก่ แมลงสาบ และคุณพระอาทิตย์ ได้รู้จักกลุ่มดินรักษ์ฟ้าเพิ่มมากขึ้นแล้ว ผู้ฟังวิทยุทางบ้าน ก็ได้รับโอกาสในการทำความรู้จักกลุ่มดินรักษ์ฟ้าอีกด้วย เป็นการแนะนำตัวให้คนในพื้นที่รู้จักตั้งแต่มาสำรวจพื้นที่ ก่อนการทำโครงการอบรม เป็นเวลาหลายสัปดาห์
อาหารมื้อเย็น พี่ปู ซื้ออาหาร 2-3 ถุงมาให้ชิมด้วย เลยได้นั่งทานอาหารอร่อยๆจากพี่ปูทันที ในขระที่อาหารของร้าน จะต้องรอตามคิว เมื่อได้ที่นั่งกันแล้ว บรรยากาศการพูดคุยก็เป็นไปแบบกันเอง มีทั้งการมอบ CD เพลงให้แขกผู้มาเยือน การพูดคุยเรื่องต่างๆ ทั้งเรื่องราวในแวดวงดนตรีเพื่อชีวิต เรื่องราวการต่อสู้ ชุมนุมทางการเมืองที่ทุกคนได้เคยร่วมต่อสู้ด้วยกันมา และอีกหลายเรื่อง ดังในวิดีโอนี้
นั่งคุยกันเพลิน เวลาผ่านไปอย่างรวดเ็ร็ว ถึง 21.30 น.แบบไม่รู้ตัว พี่ปูกับน้องคุกกี้มีนัดหมายที่จะไปอีกแห่ง ส่วนคุณ Kathreeya Atthakor และคุณ Sakoจะไปดูแหลม มอริสัน เล่นดนตรีในพัทยา จังแยกย้ายกันตอนนั้น น้องคุกกี้ขอโน้ตเพลง เพื่อจะไปหัดเล่นดนตรี ซึ่งคุณพระอาทิตย์จะส่งให้ภายหลัง
กลับมาที่สถานีวิทยุชุมชนบ้านห้วยขวาง หลังจากลุงต่อ สอนน้องปลา ฝึกเล่นเพลงดอกไม้ให้คุณ ตามโน้ตเพลงได้ท่อนหนึ่งแล้ว ก็ปิดไฟนอนพักผ่อน ก่อนจะหลับ ก็พูดถึงกลุ่มดินรักษ์ฟ้า ที่ได้พบเจอ ได้พูดคุยกันในวันนี้ว่า ชื่นชมที่พวกเค้าสนใจทำงานเพื่อสังคมอย่างนี้ พี่ต่อ-เสบียงอยากจะผลักดัน ช่วยสนับสนุนอย่างเต็มที่ มีโครงการหนึ่งที่พี่ต่อ คิดอยากจะทำ แต่ยอมรับว่า ไม่ค่อยกระตือรือร้นเหมือนก่อน เห็นกลุ่มดินรักษ์ฟ้าแล้ว พากเค้ามีไฟ มีพลังที่จะทำโครงการดีๆต่อไป แต่พี่ต่อ ยอมรับว่า หมดไฟซะแล้ว
"ถ้าพวกเค้าเอาสิ่งที่ผมคิด ไปทำต่อได้ จะดีมากๆเลย"
แค่วันแรกที่ได้พบเจอกันเท่านั้น ที่ต่างฝ่ายต่างได้รู้จักตัวตนของแต่ละคนอย่างเต็มที่ วันพรุ่งนี้ คุณ Sakoบอกว่าจะแวะเข้ามาที่บ้านห้วยขวางช่วงบ่ายๆ คงจะมีประเด็นใหม่ๆเกิดขึ้นอีก
เมื่อเริ่มต้นเจอกัน มีแนวคิดดีๆ ตรงกันหลายอย่าง โครงการดีๆที่จะได้ทำร่วมกันนี้ กลุ่มเป้าหมายคงจะได้รับสิ่งดีๆแบบเต็มๆ ไปมากกว่า โครงการครั้งที่ผ่านมาของกลุ่มดินรักษ์ฟ้าอย่างแน่นอน...
2 clip video สัมภาษณ์ ปิญชาน์ สุขภูตานันท์+น้องคุกกี้(ลิปิการ์ กลัดสาคร) ทางสถานีวิทยุชาวบ้าน สถานีข่าวสารบ้านห้วยขวาง FM98.1 MHz เมื่อ 25 ธ.ค.2553
การจัดรายการพิเศษทางสถานีวิทยุชาวบ้าน สถานีข่าวสารบ้านห้วยขวาง FM98.1 MHz ซึ่งมีแขกพิเศษแวะมาเยี่ยมเยือน ครอบครัวนักต่อสู้ "เจนกิจ กลัดสาคร" คุณปู-ปิญชาน์ สุขภูตานันท์ และน้องคุกกี้(ลิปิการ์ กลัดสาคร) จากสัตหีบ ซึ่งเป็นที่รู้จักคุ้นเคยกันดี หลังจากสัมภาษณ์คุณแคทรียา อัตถากรจากกลุ่มดินรักษ์ฟ้าแล้ว ก็ถึงเวลาพูดคุยกับ คุณปู และน้องคุกกี้ ซึ่งคุณไก่ แมลงสาบ ได้แต่งเพลง "คุณเจนกิจ" และเป็นบทเพลงที่คนในครอบครัวคุณเจนกิจ ชื่นชอบอย่างมาก และน้องคุกกี้ได้ขอโน้ตของเพลงนี้ เพื่อจะนำไปหัดเล่นดนตรีอีกด้วย
นี่คือวิดีโอบันทึกการพูดคุยสัมภาษณ์ คุณปู - ปิญชาน์ สุขภูตานันท์ และน้องคุกกี้(ลิปิการ์ กลัดสาคร) เมื่อช่วงเย็น 25 ธ.ค.2553 กับเรื่องราวการเข้าร่วมต่อสู้ภาคประชาชนของครอบครัวคุณเจนกิจกลัดสาคร ในการออกมาแสดงพลังสู้เพื่อบ้านเมือง สู้เพื่อในหลวง รวมถึงเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นกับครอบครัวนี้
“น้องคุกกี้” เปิดใจหลัง “สัตว์นรก” สังหารพ่อบังเกิดเกล้า เมื่อ 21 พ.ย. 2551
เมื่อช่วงเย็นวันที่ 21 พ.ย. ที่ผ่านมา ด.ญ.ลิปิการ์ กลัดสาคร หรือ น้องคุกกี้ ลูกสาววัย 11 ปี ของนายเจนกิจ กลัดสาคร “วีรชนพันธมิตรฯ” ชาวอำเภอสัตหีบ จ.ชลบุรี ได้ขึ้นเวทีที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อกล่าวเปิดใจกรณีคนร้ายยิงระเบิดเอ็ม 79 ใส่หน้าเวทีการชุมนุมของพันธมิตรฯ เมื่อเช้ามืดวันที่ 20 พ.ย.ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้พ่อของเธอเสียชีวิต
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000138324
นี่คือวิดีโอบันทึกการพูดคุยสัมภาษณ์ คุณปู - ปิญชาน์ สุขภูตานันท์ และน้องคุกกี้(ลิปิการ์ กลัดสาคร) เมื่อช่วงเย็น 25 ธ.ค.2553 กับเรื่องราวการเข้าร่วมต่อสู้ภาคประชาชนของครอบครัวคุณเจนกิจกลัดสาคร ในการออกมาแสดงพลังสู้เพื่อบ้านเมือง สู้เพื่อในหลวง รวมถึงเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นกับครอบครัวนี้
“น้องคุกกี้” เปิดใจหลัง “สัตว์นรก” สังหารพ่อบังเกิดเกล้า เมื่อ 21 พ.ย. 2551
เมื่อช่วงเย็นวันที่ 21 พ.ย. ที่ผ่านมา ด.ญ.ลิปิการ์ กลัดสาคร หรือ น้องคุกกี้ ลูกสาววัย 11 ปี ของนายเจนกิจ กลัดสาคร “วีรชนพันธมิตรฯ” ชาวอำเภอสัตหีบ จ.ชลบุรี ได้ขึ้นเวทีที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อกล่าวเปิดใจกรณีคนร้ายยิงระเบิดเอ็ม 79 ใส่หน้าเวทีการชุมนุมของพันธมิตรฯ เมื่อเช้ามืดวันที่ 20 พ.ย.ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้พ่อของเธอเสียชีวิต
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000138324
2 clip video สัมภาษณ์ Kathreeya Atthakor ทางสถานีวิทยุชาวบ้าน สถานีข่าวสารบ้านห้วยขวาง FM98.1 MHz เมื่อ 25 ธ.ค.2553
การได้เป็นเพื่อนกันทางเครือข่ายสังคมออนไลน์ facebook นั้น เป็นสิ่งที่นำพาให้ได้มารู้จักกัน ได้มาพบเจอกัน จนเกิดเรื่องราวดีๆตามมา ซึ่งทำให้หลายคนรู้จักกลุ่มดินรักษ์ฟ้า หลายคนได้ติดตามฟังผลงานเพลงนอกกระแสและเรื่องราวต่างๆจากกลุ่มศิลปะ ดนตรี กวีประชาชนจากโลกอินเทอร์เนตที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ จึงทำให้กลุ่มเล็กๆ 2 กลุ่มได้มาพบเจอกัน เดินทางร่วมกัน ทำเรื่องดีๆร่วมกัน และได้มานั่งคุยกันทางสถานีวิทยุชาวบ้าน สถานีข่าวสารบ้านห้วยขวาง FM98.1 MHz ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
คุณไก่ แมลงสาบ และคุณพระอาทิตย์ (สรัญญา อรรคราช) 2 ผู้ดำเนินรายการจากกลุ่มศิลปะ ดนตรี กวีประชาชน กับรายการพิเศษ พูดคุยสัมภาษณ์ คุณแคทรียา อัตถากร (Kathreeya Atthakor)จากกลุ่มดินรักษ์ฟ้า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 25 ธ.ค.2553 กับประเด็นหลักในการพูดคุยเกี่ยวกับกลุ่มดินรักษ์ฟ้า "เกิดขึ้น ตั้งอยู่ สู่เป้าหมาย" อย่างไรบ้าง
---
คุณไก่ แมลงสาบ และคุณพระอาทิตย์ (สรัญญา อรรคราช) 2 ผู้ดำเนินรายการจากกลุ่มศิลปะ ดนตรี กวีประชาชน กับรายการพิเศษ พูดคุยสัมภาษณ์ คุณแคทรียา อัตถากร (Kathreeya Atthakor)จากกลุ่มดินรักษ์ฟ้า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 25 ธ.ค.2553 กับประเด็นหลักในการพูดคุยเกี่ยวกับกลุ่มดินรักษ์ฟ้า "เกิดขึ้น ตั้งอยู่ สู่เป้าหมาย" อย่างไรบ้าง
---
วันพุธที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2553
9 ภาพบรรยากาศจาก The Magnolia Resort - Pattaya เมื่อ 25 ธ.ค.2553
เมื่อได้ไปเยี่ยมคุณจันทร์เจ้าที่ The Magnolia Resort - Pattaya แถวอ่างเก็บน้ำมาบประชัน บรรยากาศสวยๆ ในบริเวณนั้น ทำให้ต้องเก็บภาพที่ระลึกมาฝากกัน
คุณพระอาทิตย์กับฉากสวยๆ ของ The Magnolia Resort - Pattaya
คุณจันทร์เ้จ้า ถ่ายรูปที่ระลึกกับ คุณไก่ แมลงสาบ และคุณพระอาทิตย์
ถึงเวลาของการถ่ายภาพรวมหมู่กันแล้ว เริ่มด้วยภาพนี้ จากซ้าย คุณไก่ แมลงสาบ, คุณจันทร์เจ้า, คุณพระอาทิตย์, คุณแคทรียา กลุ่มดินรักษ์ฟ้า และ คุณต่อ เสบียง
จากภาพเมื่อครู่ มี อ.นิสัยเข้ามาร่วมถ่ายภาพด้วย เข้ามายืนซ้ายสุด
ภาพถ่ายรวมหมู่ 7 คน จากซ้าย ..อ.นิสัย, คุณไก่ แมลงสาบ, คุณจันทร์เจ้า, คุณวิเชียร ตั้งธรรมสถิตย์, คุณแคทรียา อัตถากร, น้องปลา-อาทิตยา จันทร์เกษม, คุณต่อ เสบียง
ภาพถ่ายรวมหมู่ 9 คน ทั้งหมดที่มาพบปะกันในวันนี้ โดยนายบอนเป็นคนถ่ายภาพ จากซ้าย.. คุณพระอาทิตย์, คุณ Sako, อ.นิสัย, ไก่ แมลงสาบ, คุณจันทร์เจ้า, คุณวิเชียร, คุณแคทรียา, น้องปลา และคุณต่อ เสบียง ถ่ายเมื่อเวลา 16.40 น. 25 ธันวาคม 2553
เบื้องหลังการแต่งเพลง "ดินคือข้า" ให้กลุ่มดินรักษ์ฟ้า โดย ไก่ แมลงสาบเมื่อ 26 ธ.ค.2553
"เปรียบดินคือข้า เปรียบฟ้าคือราชัน
นี่คือ ส่วนหนึ่งของเพลง "ดินคือข้า" ซึ่ง ไก่ แมลงสาบแต่งให้กับกลุ่มดินรักษ์ฟ้า หลังจากที่ได้พบเจอตัวจริง เสียงจริงของคุณ Kat Atthakor และคุณ Sako Dinrakfha Love King จากกลุ่มดินรักษ์ฟ้า ได้พุดคุยและสัมภาษณ์ออกอากาศสดในรายการวิทยุ ได้ฟังเรื่องราว เป้าหมายของกลุ่มดินรักษ์ฟ้าจากหัวหน้ากลุ่ม แล้วจับประเด็นมาเขียนเป็นเพลง "ดินคือข้า"
ย้อนไปเมื่อ 10 วันก่อน คือวันที่ 15 ธ.ค.2553 คุณไก่ แมลงสาบได้แต่งเพลง "ดินรักษ์ฟ้า-ขอเป็นคนดีเพื่อพ่อหลวง" โดยดูข้อมูลจากกระดาษ 2 แผ่น แล้วเขียนออกมาเป็นเพลง ภายใน 20 นาที ส่วนเพลง ดินคือข้าเขียนจากการพูดคุยกับคุณแคทรียา ในการสัมภาษณ์ทางวิทยุ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 25 ธ.ค.2553 หลังจากนั้นก็พาผู้มาเยือนไปรับประทานอาหารเย็น พุดคุยกันหลายเรื่องอย่างเป็นกันเอง จนดึกพอสมควร จึงต่างแยกย้ายกลับที่พักของแต่ละคน
จนมาถึงช่วงดึกๆ เลยเวลาเที่ยงคืน ในขณะที่หลายคนกำลังนอนหลับพักผ่อน แต่คุณไก่ แมลงสาบ กลับลุกขึ้นมาเพื่อเขียนเนื้อเพลง "ดินคือข้า" ในยามดึก เพราะความคิดในสมองกำลังแล่น จึงลุกขึ้นมาเขียนเพลงจนเสร็จ ในช่วงเช้า จึงมาใส่คอร์ดกีตาร์ และปรับแก้เพลงให้สมบูรณ์มากขึ้น
ช่วงบ่ายๆ นายบอนมองเห็นเนื้อเพลงใหม่ที่แต่งไว้ คุณไก่ บอกว่าเป็นเพลงใหม่ของกลุ่มดินรักษ์ฟ้า
"เพลงที่สองแล้วสินะ ผ่านมา 10 วันได้ 2 เพลงแล้ว"
"จะบันทึกวิดีโอ ร้องเพลงนี้กันตอนนี้มั้ย ?"
"ยังก่อน ยังไม่สมบูรณ์นะ นี่แต่งให้เค้าไปทำดนตรีอย่างที่เค้าต้องการ เห็นคนทำดนตรีแล้ว ก็เลยแต่งให้เหมาะกับเค้า แต่งให้ไปทำดนตรีในแบบร็อค อยากได้แบบร็อค ผมก็แต่งได้เหมือนกัน.." คุณไก่ เล่าให้ฟังพร้อมกับหยิบดินสอ เขียนข้อมูลบางอย่างลงไปในเนื้อเพลง
เมื่อวาน (25 ธ.ค.) คุณ Sako บอกว่า จะแวะเข้ามาตอนบ่าย (26 ธค) แต่เวลาล่วงเลยไปจนใกล้ค่ำ ก็ยังไม่เข้ามา คุณไก่ แมลงสาบเลยหยิบกีตาร์ ออกมาร้องเพลง "ดินคือข้า" เพื่อบันทึกวิดีโอไว้ เพื่อส่งต่อให้คุณ Sako ไปทำดนตรีต่อไป
ดาวน์โหลด mp3 เพลงดินคือข้า
หลังจากร้องเพลงเสร็จ คุณไก่ ก็พูดถึงกิจกรรมของดินรักษ์ฟ้าว่า เป็นโครงการที่น่าสนใจ น่าจะทำกิจกรรมออกมาในลักษณะไหนบ้าง และพร้อมช่วยเหลือเต็มที่ รูปแบบก็น่าจะปรับให้เหมาะสมกับพื้นที่ตำบลห้วยใหญ่ อำเภอบางละมุงแห่งนี้
โครงการอบรม ขอเป็นคนดีเพื่อพ่อหลวง ครั้งต่อไปในพื้นที่ อำเภอบางละมุง จ.ชลบุรี จะเ้ป็นอย่างไรนั้น คงต้องติดตามกันต่อไป.....
ด้วยเกียรติเรานั้น ถวายชีวันเพื่อพระองค์"
นี่คือ ส่วนหนึ่งของเพลง "ดินคือข้า" ซึ่ง ไก่ แมลงสาบแต่งให้กับกลุ่มดินรักษ์ฟ้า หลังจากที่ได้พบเจอตัวจริง เสียงจริงของคุณ Kat Atthakor และคุณ Sako Dinrakfha Love King จากกลุ่มดินรักษ์ฟ้า ได้พุดคุยและสัมภาษณ์ออกอากาศสดในรายการวิทยุ ได้ฟังเรื่องราว เป้าหมายของกลุ่มดินรักษ์ฟ้าจากหัวหน้ากลุ่ม แล้วจับประเด็นมาเขียนเป็นเพลง "ดินคือข้า"
ย้อนไปเมื่อ 10 วันก่อน คือวันที่ 15 ธ.ค.2553 คุณไก่ แมลงสาบได้แต่งเพลง "ดินรักษ์ฟ้า-ขอเป็นคนดีเพื่อพ่อหลวง" โดยดูข้อมูลจากกระดาษ 2 แผ่น แล้วเขียนออกมาเป็นเพลง ภายใน 20 นาที ส่วนเพลง ดินคือข้าเขียนจากการพูดคุยกับคุณแคทรียา ในการสัมภาษณ์ทางวิทยุ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 25 ธ.ค.2553 หลังจากนั้นก็พาผู้มาเยือนไปรับประทานอาหารเย็น พุดคุยกันหลายเรื่องอย่างเป็นกันเอง จนดึกพอสมควร จึงต่างแยกย้ายกลับที่พักของแต่ละคน
จนมาถึงช่วงดึกๆ เลยเวลาเที่ยงคืน ในขณะที่หลายคนกำลังนอนหลับพักผ่อน แต่คุณไก่ แมลงสาบ กลับลุกขึ้นมาเพื่อเขียนเนื้อเพลง "ดินคือข้า" ในยามดึก เพราะความคิดในสมองกำลังแล่น จึงลุกขึ้นมาเขียนเพลงจนเสร็จ ในช่วงเช้า จึงมาใส่คอร์ดกีตาร์ และปรับแก้เพลงให้สมบูรณ์มากขึ้น
ช่วงบ่ายๆ นายบอนมองเห็นเนื้อเพลงใหม่ที่แต่งไว้ คุณไก่ บอกว่าเป็นเพลงใหม่ของกลุ่มดินรักษ์ฟ้า
"เพลงที่สองแล้วสินะ ผ่านมา 10 วันได้ 2 เพลงแล้ว"
"จะบันทึกวิดีโอ ร้องเพลงนี้กันตอนนี้มั้ย ?"
"ยังก่อน ยังไม่สมบูรณ์นะ นี่แต่งให้เค้าไปทำดนตรีอย่างที่เค้าต้องการ เห็นคนทำดนตรีแล้ว ก็เลยแต่งให้เหมาะกับเค้า แต่งให้ไปทำดนตรีในแบบร็อค อยากได้แบบร็อค ผมก็แต่งได้เหมือนกัน.." คุณไก่ เล่าให้ฟังพร้อมกับหยิบดินสอ เขียนข้อมูลบางอย่างลงไปในเนื้อเพลง
เมื่อวาน (25 ธ.ค.) คุณ Sako บอกว่า จะแวะเข้ามาตอนบ่าย (26 ธค) แต่เวลาล่วงเลยไปจนใกล้ค่ำ ก็ยังไม่เข้ามา คุณไก่ แมลงสาบเลยหยิบกีตาร์ ออกมาร้องเพลง "ดินคือข้า" เพื่อบันทึกวิดีโอไว้ เพื่อส่งต่อให้คุณ Sako ไปทำดนตรีต่อไป
ดาวน์โหลด mp3 เพลงดินคือข้า
หลังจากร้องเพลงเสร็จ คุณไก่ ก็พูดถึงกิจกรรมของดินรักษ์ฟ้าว่า เป็นโครงการที่น่าสนใจ น่าจะทำกิจกรรมออกมาในลักษณะไหนบ้าง และพร้อมช่วยเหลือเต็มที่ รูปแบบก็น่าจะปรับให้เหมาะสมกับพื้นที่ตำบลห้วยใหญ่ อำเภอบางละมุงแห่งนี้
โครงการอบรม ขอเป็นคนดีเพื่อพ่อหลวง ครั้งต่อไปในพื้นที่ อำเภอบางละมุง จ.ชลบุรี จะเ้ป็นอย่างไรนั้น คงต้องติดตามกันต่อไป.....
บันทึกการเิดินทาง (7) พบกับพี่ปู ปิญชาน์ สุขภูตานันท์ เมื่อ 25 ธ.ค.2553
ในการเดินทางมาที่บ้านห้วยขวางของคุณ Kat Atthakor และ คุณ Sako Dinrakfah Love King ได้มาพบปะกับมิตรใหม่หลายคน หนึ่งในนั้นคือ พี่ปู-ปิญชาน์ สุขภูตานันท์ ภรรยาของคุณเจนกิจ กลัดสาคร ซึ่งได้มีการจัดงานครบรอบ 2ปี การเสียชีวิตของคุณเจนกิจ เมื่อ 20 พ.ย.2553 ที่ผ่านมา ..ทางคุณไก่ แมลงสาบ ได้เขียนเพลง "คุณเจนกิจ" เพื่อเ็ป็นการคารวะแด่วีรชนผู้นี้
เมื่อนายบอนนำเพลงนี้ ส่งให้พี่ปูฟังทาง facebook พี่ปูชอบมาก ที่มีคนแต่งเพลงนี้ให้คุณเจนกิจ เมื่อนายบอนชวนพี่ปูมาเยี่ยมบ้านคุณไก่ แมลงสาบพร้อมกับส่งแผนที่เส้นทางมายังบ้านคุณไก่ พี่ปูก็ตอบตกลงละเดินทางมาถึงตอน 6 โมงเย็น มากับน้องคุ๊กกี้ พร้อมซื้อของฝากมามอบให้กลุ่มดินรักษ์ฟ้า และนายบอนคนละถุง แถมมีอาหารมื้อเย็นมาสมทบอีกด้วย
ตอนที่พี่ปูกับน้องคุ๊กกี้เดินทางมาุึถึง ทีแรก หาทางมาไม่ถูก ต้องจอดถามชาวบ้านว่า บ้านของไก่ แมลงสาบอยู่หลังไหน จึงมาได้ถูก เมื่อพี่ปูเดินทางมาถึง ก็แวะเข้ามาทักทายกันที่บ้านศิลปะ ดนตรี กวีประชาชน คุณไก่ จึงเชื้อเชิญไปนั่งคุยกันที่สถานีวิทยุ จะสะดวกกว่า ทั้งหมดจึงทยอยเดินไปที่สถานีวิทยุ
ที่สถานีวิทยุ คุณไก่ แมลงสาบนั่งที่หัวโต๊ะ พูดคุยเรื่องการเมืองท้องถิ่นกับพี่ปู คุณ Kat Atthakor และ คุณ Sako Dinrakfah จนได้เวลาพอสมควร คุณไก่ แมลงสาบก็ชวนพี่ปู น้องคุ๊กกี้ คุณ Kat Atthakor และ คุณ Sako Dinrakfah เข้าไปนั่งพูดคุย สัมภาษณ์ออกรายการวิทยุกระจายเสียงสู่ผู้ฟังในช่วงเวลานั้น แรกๆแต่ละคนก็ชักเขินๆพอสมควร แต่ก็ยอมไปนั่งพูดคุยให้สัมภาษณ์ในรายการวิทยุด้วยดี
เมื่อนายบอนนำเพลงนี้ ส่งให้พี่ปูฟังทาง facebook พี่ปูชอบมาก ที่มีคนแต่งเพลงนี้ให้คุณเจนกิจ เมื่อนายบอนชวนพี่ปูมาเยี่ยมบ้านคุณไก่ แมลงสาบพร้อมกับส่งแผนที่เส้นทางมายังบ้านคุณไก่ พี่ปูก็ตอบตกลงละเดินทางมาถึงตอน 6 โมงเย็น มากับน้องคุ๊กกี้ พร้อมซื้อของฝากมามอบให้กลุ่มดินรักษ์ฟ้า และนายบอนคนละถุง แถมมีอาหารมื้อเย็นมาสมทบอีกด้วย
ตอนที่พี่ปูกับน้องคุ๊กกี้เดินทางมาุึถึง ทีแรก หาทางมาไม่ถูก ต้องจอดถามชาวบ้านว่า บ้านของไก่ แมลงสาบอยู่หลังไหน จึงมาได้ถูก เมื่อพี่ปูเดินทางมาถึง ก็แวะเข้ามาทักทายกันที่บ้านศิลปะ ดนตรี กวีประชาชน คุณไก่ จึงเชื้อเชิญไปนั่งคุยกันที่สถานีวิทยุ จะสะดวกกว่า ทั้งหมดจึงทยอยเดินไปที่สถานีวิทยุ
บันทึกการเดินทาง (6) ไปพบคุณจันทร์เจ้าที่ The Magnolia Resort เมื่อ 25 ธ.ค.2553
หลังจากที่คุณวิเชียร ตั้งธรรมสถิตย์ พามาดูสถานที่ที่โรงเรียนภูไทรและห้วยไข่เน่าแล้ว ก็ชวนทุกคนแวะไปที่รีสอร์ตของคุณจันทร์เจ้าที่ The Magnolia Resort อยู่ใกล้กับอ่างเก็บน้ำมาบประชัน แหล่งผลิตน้ำประปาให้เมืองพัทยา เื่นื่องจากคุณวิเชียรรู้จักคนเยอะ จึงพามาให้รู้จักกับคุณจันทร์เจ้า ซึ่งคุณไก่ แมลงสาบ, พี่ต่อ เสบียง ถือโอกาสมาเชิญชวนคุณจันทร์เจ้าไปร่วมงานครบรอบ 2 ปี สถานีวิทยุชุมชนบ้านห้วยขวางและพูดถึงโครงการของกลุ่มดินรักษ์ฟ้าด้วย
เมื่อไปถึงรีสอร์ตสุดหรู คุณจันทร์เจ้าออกมาต้อนรับด้วยตัวเอง และเลี้ยงกาแฟ ชา โอวัลติน และเอาซาลาเปาเห็ดหอมมาให้ชิมอีกด้วย ในบรรยากาศเป็นกันเอง
พอดีมีคนขายน้ำผึ้งถือถังใส่น้ำผึ้งมาขาย บอกว่าเป็นน้ำผึ้งแท้ ขายขวดละ 300 บาท คุณวิเชียร เลยช่วยซื้อ 1 ขวด สองคนขายน้ำผึ้งเลยตักน้ำผึ้ง กรองใส่ขวดให้เห็นกันสดๆ มีคุณแคทรียา น้องปลา คุณวิเชียร และนายบอนออกมาดูการกรองน้ำผึ้งบรรจุขวด
บรรยากาศในช่วงคุณ Sako และคุณ Kat พูดคุยเรื่องโครงการของกลุ่มดินรักษ์ฟ้ากับคุณจันทร์เจ้า กับการแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับโรงเรียนที่พึ่งไปดูมา
เมื่อได้เวลาพอสมควร ก่อนอำลาเจ้าของรีสอร์ท คุณจันทร์เจ้าก็เดินออกมาส่ง มีการถ่ายรูปหมู่เป็นที่ระลึก และพูดคุยแนะนำรีสอร์ท หากสนใจจะมาใช้บริการจัดประชุมหรือพักที่ี่นี่ กับบรรยากาศที่สวยงามภายในบริเวณนี้
Clip video ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท อีสวอเตอร์ ผลประโยชน์จากแหล่งน้ำกับการจ่ายค่าน้ำประปาในราคาที่สูงกว่าแต่ก่อน
คุณวิเชียร ตั้งธรรมสถิตย์ อธิบายให้ความรู้เกี่ยวกับบริษัท อีสวอเตอร์ ซึ่งได้รับสัมปทานแหล่งน้ำดิบในพื้นที่ภาคตะวันออก มีผลประโยชน์อะไรบ้าง แล้วทำไมน้ำประปาจึงมีราคาสูงขึ้น ทำไมทรัพยากรธรรมชาติที่ควรจะถูกนำมาใช้ให้เป็นสาธารณะประโยชน์ของประชาชนทั่วไป ทั้งการเกษตร การอยู่อาศัย แต่ทำไม จึงต้องซื้อทรัพยากรน้ำ ทำให้ประชาชนทั่วไปได้รับผลกระทบ ฟังได้จากวิดีโอนี้
บันทึกการเดินทาง (5) รายงานข่าวจากสี่แยกห้วยไข่เน่า จุดที่เกิดอุบัติเหตุบ่อย เื่มื่อ 25 ธ.ค.2553
การสำรวจพื้นที่เพื่อดูสภาพของโรงเรียนที่จะมาทำโครงการอบรมของกลุ่มดินรักษ์ฟ้า ได้ลัดเลาะมาตามเส้นทางเข้ามาในพื้นที่ตำบลเขาไม้แก้ว อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้พบเห็นบรรยากาศ สภาพของพื้นที่ในแต่ละบริเวณ วิวสองข้างทางและบรรยากาศที่แปลกตาหลายมุม
จากโรงเรียนบ้านภูไทร ลัดเลาะมายังโรงเรียนบ้านห้วยไข่เน่า ก่อนถึงโรงเรียน หลายคนสังเกตเห็นป้ายข้อความเตือนให้ระวังอุบัติเหตุ ซึ่งเกิดขึ้นที่บริเวณนี้อยู่บ่อยๆ หลายคนมองดูด้วยความสะดุดใจ เมื่อสำรวจดูสภาพของโรงเรียนเสร็จแล้ว ระหว่างขับรถออกมา ได้หยุดรถ ถ่ายรูป และบันทึกการรายงานข่าวนี้ทันที โดย คุณไก่ แมลงสาบ เป็นผู้สื่อข่าวพิเศษในครั้งนี้
เมื่อดูสภาพของป้ายที่เกิดขึ้น และรายงานสวดจนเสร็จ คนที่รออยู่ที่รถก็ไปซื้อไอศครีม มากินระหว่างรออีกด้วย เป็นการเดินทางสำรวจพื้นที่แบบสบายๆเป็นกันเอง
จากโรงเรียนบ้านภูไทร ลัดเลาะมายังโรงเรียนบ้านห้วยไข่เน่า ก่อนถึงโรงเรียน หลายคนสังเกตเห็นป้ายข้อความเตือนให้ระวังอุบัติเหตุ ซึ่งเกิดขึ้นที่บริเวณนี้อยู่บ่อยๆ หลายคนมองดูด้วยความสะดุดใจ เมื่อสำรวจดูสภาพของโรงเรียนเสร็จแล้ว ระหว่างขับรถออกมา ได้หยุดรถ ถ่ายรูป และบันทึกการรายงานข่าวนี้ทันที โดย คุณไก่ แมลงสาบ เป็นผู้สื่อข่าวพิเศษในครั้งนี้
เมื่อดูสภาพของป้ายที่เกิดขึ้น และรายงานสวดจนเสร็จ คนที่รออยู่ที่รถก็ไปซื้อไอศครีม มากินระหว่างรออีกด้วย เป็นการเดินทางสำรวจพื้นที่แบบสบายๆเป็นกันเอง
บันทึกการเดินทาง (4) ไปทดสอบเนินมหัศจรรย์ แปลกแต่จริง ใกล้เขาชีจรรย์ เขาแกะพระ ชลบุรี เื่มื่อ 25 ธ.ค.2553
ในระหว่างการเดินทางสำรวจโรงเรียนในพื้นที่ สำหรับจัดโครงการอบรมของกลุ่มดินรักษ์ฟ้า จากโรงเรียนมาบฟักทอง จะเดินทางไปโรงเรียนภูไทร คุณวิเชียร ธรรมสถิตย์ได้พูดถึงเนินมหัศจรรย์ ที่อยู่ใกล้ เขาชีจรรย์ ซึ่งพี่ต่อ เสบียงและหลายคน ไม่รู้เรื่องนี้ คณวิเชียร จึงพาไปทดสอบ เนินมหัศจรรย์ที่ว่านี้
เมื่อถึงบริเวณที่ว่านี้ คุณวิเชียรให้มองหาจุดต่ำสุด ถ้ามองไปตามถนน จะเห็นเป็นเนิน ให้คุณ Sako ขับรถไปตรงที่เป็นจุดต่ำสุดแล้วเข้าเกียร์ว่างไว้ สังเกตความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น แล้วทำการพิสูจน์อีกครั้ง โดยการดับเครื่องยนต์แล้วดูการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น คือ รถจะไหลไปเอง บางจุดไหลเร็วขึ้น
นี่เป็นจุดที่คุณวิเชียร พามาแวะพิสูจน์ความมหััศจรรย์ซึ่งอยู่นอกเหนือโปรแกรมการเดินทางสำรวจโรงเรียน แต่เื่ื่มื่อผ่านบริเวณนี้ จึงแวะพิสูจน์กันหน่อย เป็นเส้นทางที่อยู่ระหว่าง เขาแกะพระ เชาชีจรรย์ นี่เอง
บันทึกการเดินทาง (3) บรรยากาศการสำรวจพื้นที่ก่อนทำโครงการของกลุ่มดินรักษ์ฟ้า โรงเรียนทุ่งละหาน, มาบฟักทอง, ภูไทรและห้วยไข่เน่า เมื่อช่วงบ่าย 25 ธ.ค.2553
การเดินทางมาที่้บ้านห้วยขวาง ของคุณ Kat และคุณ Sako ดินรักษฺ์ฟ้า นอกจากมาเยี่ยมเยือนคุณไก่ แมลงสาบแล้ว อีกเป้าหมายหนึ่ง คือ หาโกาสมาดูสถานที่จัดโครงการอบรม ขอเป็นคนดีเพื่อพ่อหลวง ซึ่งกลุ่มเป้าหมาย คือ นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษา ทางพี่ต่อ เสบียงก็เตรียมพร้อมที่จะพาไปดูสถานที่
หลังทานอาหารมื้อเที่ยงจนอิ่มกันทุกคนแล้ว คุณไก่ แมลงสาบจึงชวนคุณ Kat และคุณ Sako ไปพูดคุยทักทายผู้ที่กำลังติดตามฟังวิทยุ แต่ถ้าได้ไปดูสถานที่ก่อน ก็จะมีข้อมูล รายละเิอียดเกี่ยวกับการทำโครงการเพิ่มขึ้น จึงได้พากันไปดูโรงเรียนในพื้นที่ักันก่อน คุณวิเชียรและอาจารย์นิสัย ร่วมขบวนไปด้วย
โรงเรียนทุ่งละหาน เป็นสถานที่แรกที่พาไปดู ซึ่งได้ดูจากนอกรั้วโรงเรียน รายละเัอียดและเกร็ดจากการพูดคุยหารือกัน ฟังได้จากคลิปวิดีโอ
บรรยากาศการไปดูโรงเรียนบ้านมาบฟักทอง ข้อมูลและข้อสังเกตจากสถานที่, บริเวณโดยรอบ ประเ้ด็นการพูดคุยปรึกษาหารืออย่างเป็นกันเอง ชมได้จากคลิปวิดีโอ
บรรยากาศการไปดูสถานที่ที่โรงเรียนบ้านภูไทร ซึ่งได้เข้าไปในบริเวณโรงเรียน ที่นี่คุณวิเชียรได้โทรติดต่อกับคุณยุพิน ซึ่งเป็น อบต.ในพื้นที่ และเป็นภรรยาของ ผอ.โรงเรียนนี้ จึงได้เบอร์โทรศัพท์และข้อมูลจากโรงเรียนในหลายเรื่อง ฟังและชมได้ในคลิปวิดีโอ
บรรยากาศการไปเยี่ยมชมโรงเรียนบ้านห้วยไข่เน่า ซึ่งชมจากนอกบริเวณโรงเรียน เป็นโรงเรียนแห่งสุดท้ายที่นำตัวแทนกลุ่มดินรักษ์ฟ้ามาสำรวจพื้นที่ในวันนี้
หลังทานอาหารมื้อเที่ยงจนอิ่มกันทุกคนแล้ว คุณไก่ แมลงสาบจึงชวนคุณ Kat และคุณ Sako ไปพูดคุยทักทายผู้ที่กำลังติดตามฟังวิทยุ แต่ถ้าได้ไปดูสถานที่ก่อน ก็จะมีข้อมูล รายละเิอียดเกี่ยวกับการทำโครงการเพิ่มขึ้น จึงได้พากันไปดูโรงเรียนในพื้นที่ักันก่อน คุณวิเชียรและอาจารย์นิสัย ร่วมขบวนไปด้วย
โรงเรียนทุ่งละหาน เป็นสถานที่แรกที่พาไปดู ซึ่งได้ดูจากนอกรั้วโรงเรียน รายละเัอียดและเกร็ดจากการพูดคุยหารือกัน ฟังได้จากคลิปวิดีโอ
บรรยากาศการไปดูโรงเรียนบ้านมาบฟักทอง ข้อมูลและข้อสังเกตจากสถานที่, บริเวณโดยรอบ ประเ้ด็นการพูดคุยปรึกษาหารืออย่างเป็นกันเอง ชมได้จากคลิปวิดีโอ
บรรยากาศการไปดูสถานที่ที่โรงเรียนบ้านภูไทร ซึ่งได้เข้าไปในบริเวณโรงเรียน ที่นี่คุณวิเชียรได้โทรติดต่อกับคุณยุพิน ซึ่งเป็น อบต.ในพื้นที่ และเป็นภรรยาของ ผอ.โรงเรียนนี้ จึงได้เบอร์โทรศัพท์และข้อมูลจากโรงเรียนในหลายเรื่อง ฟังและชมได้ในคลิปวิดีโอ
บรรยากาศการไปเยี่ยมชมโรงเรียนบ้านห้วยไข่เน่า ซึ่งชมจากนอกบริเวณโรงเรียน เป็นโรงเรียนแห่งสุดท้ายที่นำตัวแทนกลุ่มดินรักษ์ฟ้ามาสำรวจพื้นที่ในวันนี้
บันทึกการเดินทาง (2) เมื่อกลุ่มดินรักษ์ฟ้าพบกับคุณวิเชียร - อ.นิสัยกับอาหารมื้อเที่ยงที่ร้านอาหารตามสั่งในบ้านห้วยขวาง 25 ธ.ค.2553
เมื่อกลุ่มดินรักษ์ฟ้าเข้ามาึถึงบ้านห้วยขวาง นั่งพูดคุยกันพอสมควร จึงได้สอบถามว่า ตอนเย็น คุณไก่ จะไปเล่นดนตรีที่จังหวัดระยองตอนกี่โมง คุณไก่บอกว่า ไปเล่นมาแล้วเมื่อวาน (24 ธ.ค.) วันนี้ไม่ได้ไปไหน นายบอนเลยโทรไปบอกพี่ปู (ปิญชาน์ สุขภูตานันท์) ซึ่งวางแผนไว้ว่า ตอนเย็นจะไปรอคุณไก่ แมลงสาบและสมาชิกกลุ่มดินรักษ์ฟ้าที่จังหวัดระยอง ซึ่งจะพาน้องคุ๊กกี้มาทานข้าวด้วย ... เมื่อคุณไก่ ไม่ได้ไปเล่นดนตรี จึงบอกพี่ปูไปว่า เย็นนี้มาเจอคุณไก่ ที่บ้านห้วยขวางได้เลย ไม่ได้ไประยองแล้ว พี่ปูบอกว่าจะเข้ามาตอน 18.00 น.
ที่บ้านห้วยขวาง คุณไก่ , คุณพระอาทิตย์, พี่ต่อ, น้องปลา, นายบอน นั่งคุยกับคุณ Kat และคุณ Sako จนเวลาล่วงเลยมาถึง 13.10 น. พี่ต่อ เสบียงเลยพาไปทานข้าว ที่ร้านอาหารตามสั่งประจำหมู่บ้าน เมื่อไปถึงร้าน คุณวิเชียร ตั้งธรรมสถิตย์ก็ขับรถตามมาถึงพอดี มาพร้อมกับอาจารย์นิสัย และได้ี่รับประทานอาหารเที่ยงร่วมกัน (แต่พี่ต่อ เสบียง พึ่งทานข้ามอิ่มมาได้สักพัก ยังไม่หิว เลยไม่ได้ทานด้วย)
ในวงสนทนา อาหารมื้อเที่ยง หลังสั่งอาหารมาหลายอย่าง คุณวิเชียรได้พูดคุยเรื่องค้าปลีกให้ฟัง ซึ่งคุณ Sako ดินรักษ์ฟ้า มีความสนใจในเรื่องนี้อย่างมาก เมื่อ 10 ปีก่อนเขาเคยแต่งเพลง โชห่วย เพราะเห็นถึงผลเสียของห้างค้าปลีกที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และอีกหลายเรื่องที่พูดคุยอย่างเป็นกันเอง
ที่บ้านห้วยขวาง คุณไก่ , คุณพระอาทิตย์, พี่ต่อ, น้องปลา, นายบอน นั่งคุยกับคุณ Kat และคุณ Sako จนเวลาล่วงเลยมาถึง 13.10 น. พี่ต่อ เสบียงเลยพาไปทานข้าว ที่ร้านอาหารตามสั่งประจำหมู่บ้าน เมื่อไปถึงร้าน คุณวิเชียร ตั้งธรรมสถิตย์ก็ขับรถตามมาถึงพอดี มาพร้อมกับอาจารย์นิสัย และได้ี่รับประทานอาหารเที่ยงร่วมกัน (แต่พี่ต่อ เสบียง พึ่งทานข้ามอิ่มมาได้สักพัก ยังไม่หิว เลยไม่ได้ทานด้วย)
ในวงสนทนา อาหารมื้อเที่ยง หลังสั่งอาหารมาหลายอย่าง คุณวิเชียรได้พูดคุยเรื่องค้าปลีกให้ฟัง ซึ่งคุณ Sako ดินรักษ์ฟ้า มีความสนใจในเรื่องนี้อย่างมาก เมื่อ 10 ปีก่อนเขาเคยแต่งเพลง โชห่วย เพราะเห็นถึงผลเสียของห้างค้าปลีกที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และอีกหลายเรื่องที่พูดคุยอย่างเป็นกันเอง
บันทึกการเดินทาง (1) กลุ่มดินรักษ์ฟ้ากับการพบมิตรใหม่ที่บ้านห้วยขวาง จ.ชลบุรี เมื่อ 25 ธ.ค.2553
หลังจากที่กลุ่มดินรักษ์ฟ้า ทำโครงการอบรม "ขอเป็นคนดีเพื่อพ่อหลวง รุ่นที่ 2" เสร็จสิ้นลงเมื่อ 3 ธันวาคม 2553 ในช่วงเย็นวันนั้น ได้ไปรับประทานอาหารมื้อเย็นหลังเสร็จโครงการ ได้มีการพูดคุย ปรึกษาหารือ ทบทวนถึงสิ่งที่ได้ทำผ่านมาแล้ว และมองไปข้างหน้ากับก้าวเดินต่อไปของโครงการในรุ่นที่ 3 ซึ่งนายบอน ได้แนะนำให้ไปดูสถานที่ ณ บ้านห้วยขวาง ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งสมาชิกในกลุ่มดินรักษ์ฟ้า ตัดสินใจที่จะไปบ้านห้วยขวาง ซึ่งคงจะเดินทางไปดูสถานที่ในช่วงต้นปี 2554 ซึ่งคงจะหาวันเวลาที่เหมาะสมกันอีกที
แต่ทว่าวันที่ 15 ธันวาคม 2553 คุณไก่ แมลงสาบ ได้แต่งเพลงใหม่ ตั้งชื่อว่า "ดินรักษ์ฟ้า-ขอเป็นคนดีเพื่อพ่อหลวง" นำมาเผยแพร่ในเวบของกลุ่ม ศิลปะ ดนตรี กวีประชาชน ในวันที่ 17 ธ.ค.2553 ซึ่งสมาชิกกลุ่มดินรักษ์ฟ้า ได้ฟังแล้วประทับใจมาก เนื้อหาตรงประเด็น ทำให้ต้องปรึกษาหารือกันอีกครั้ง และทางตัวแทนกลุ่มดินรักษ์ฟ้าได้ตัดสินใจเดินทางไปเยี่ยมคุณไก่ แมลงสาบในวันที่ 25 ธ.ค.2553 ซึ่งเร็วกว่าที่คาดไว้ และเป็นระยะเวลา 10 วัน หลังจากคุณไก่ แมลงสาบแต่งเพลงแรกให้กับกลุ่มดินรักษ์ฟ้า
ก่อนถึงวันนัดหมาย ได้มีการติดต่อประสานงานทาง facebook และทางโทรศัพท์ เมื่อนึกย้อนไปถึงเย็นวันที่ 3 ธ.ค.2553 กับความตั้งใจของกลุ่มดินรักษ์ฟ้าที่อยากทำโครงการครั้งต่อไป ให้ดีขึ้นกว่าครั้งที่ผ่านมา ด้วยการเติมเต็มหลายสิ่งเข้าไป และเพื่อให้ความคิดที่พูดนั้น เป็นความจริงขึ้นมา แม้อาจจะต้องพบกับอุปสรรคบางอย่าง เช่น จำนวนคนที่มาช่วยงาน และปัญหาหลายอย่าง จึงมองหาคนที่มีอุดมการณ์และแนวคิดเหมือนกัน ให้ได้มาเจอกัน ว่าแล้วก็ติดต่อ พี่ปู ปิญชาน์ สุขภูตานันท์ แล้วให้พี่ปู ชวนคุณวิเชียร ตั้งธรรมสถิตย์ มาร่วมทานข้าวเที่ยงด้วยกัน ซึ่งพี่ปูก็ตอบรับและโทรนัดหมายให้อย่างเต็มใจ
25 ธ.ค.2553 คุณ Kat Atthakor หรือ คุณแคทรียา อัตถากร หัวหน้ากลุ่มดินรักษ์ฟ้า พร้อมด้วยคุณ Sako Dinrakfah หรือพี่กู๋ แวะรับนายบอน ที่ริมถนนหน้าร้าน ปอกุ้งเผา ริมถนนแจ้งวัฒนะ ทางไปรามอินทรา แล้วขับรถไปตามทางมอเตอร์เวย์ มุ่งสู่พัทยา เมื่อถึงพัทยาก็แวะเข้าไปในคอนโดที่พัก เก็บสัมภาระแล้ว ก็ออกเดินทางมาที่บ้านห้วยขวาง ซึ่งในระหว่างที่มาถึงคอนโดที่พัก แถวเขาพระตำหนัก ย่านพัทยาใต้ คุณพระอาทิตย์ก็โทรมาแจ้งว่า คุณไก่ แมลงสาบ กำลังจัดรายการวิทยุอยู่ และรออยู่ที่สถานีวิทยุ
หลังจากกลุ่มดินรักษ์ฟ้าออกจากคอนโดที่พัก ขับรถมาตามถนน แล่นมาจนถึงบ้า่นอำเภอ เลี้ยวเข้ามาตรงทางเข้าสู่บ้านห้วยขวาง ก็เห็นคุณไก่ แมลงสาบกำลังเอาเหล็กงัดประตูรถเก๋งของคุณพระอาทิตย์ ..คงจะลืมกุญแจไว้อีกแล้ว คุณ sako และคุณ kat จึงจอดรถ ได้สวัสดีทักทายกับคุณไก่และคุณพระอาทิตย์ที่ปากทางเข้าบ้านในตอนนั้น แล้วก็มาจอดรอที่สถานีวิทยุชุมชนบ้านห้วยขวาง ส่วนคุณไก่ และคุณพระอาทิตย์ก็ขับรถตามมาติดๆ หลังจากแนะนำให้รู้จักกันแล้ว ก็พากันเข้ามานั่งคุยกัน ที่ศาลาปลื้มใจ ซึ่งได้จัดโต๊ะ เก้าอี้ไว้เป็นที่นั่งคุยกันไว้พร้อมแล้ว น้องปลา คอยต้อนรับ เอาเครื่องดื่มมาให้ แล้วมิตรใหม่ก็ได้พบปะ พุดคุยทำความรู้จักกันทันทีตั้งแต่นาทีนั้น..
หลังจากนั้น พี่ต่อ เสบียง ก็เข้ามาร่วมพูดคุยด้วยอย่างเป็นกันเอง ซึ่งได้มีการพูดคุยเื่รื่องการทำกิจกรรมเพื่อสังคม, เรื่องดนตรี และอีกหลายเรื่องที่มีความสนใจเหมือนๆกัน
แต่ทว่าวันที่ 15 ธันวาคม 2553 คุณไก่ แมลงสาบ ได้แต่งเพลงใหม่ ตั้งชื่อว่า "ดินรักษ์ฟ้า-ขอเป็นคนดีเพื่อพ่อหลวง" นำมาเผยแพร่ในเวบของกลุ่ม ศิลปะ ดนตรี กวีประชาชน ในวันที่ 17 ธ.ค.2553 ซึ่งสมาชิกกลุ่มดินรักษ์ฟ้า ได้ฟังแล้วประทับใจมาก เนื้อหาตรงประเด็น ทำให้ต้องปรึกษาหารือกันอีกครั้ง และทางตัวแทนกลุ่มดินรักษ์ฟ้าได้ตัดสินใจเดินทางไปเยี่ยมคุณไก่ แมลงสาบในวันที่ 25 ธ.ค.2553 ซึ่งเร็วกว่าที่คาดไว้ และเป็นระยะเวลา 10 วัน หลังจากคุณไก่ แมลงสาบแต่งเพลงแรกให้กับกลุ่มดินรักษ์ฟ้า
ก่อนถึงวันนัดหมาย ได้มีการติดต่อประสานงานทาง facebook และทางโทรศัพท์ เมื่อนึกย้อนไปถึงเย็นวันที่ 3 ธ.ค.2553 กับความตั้งใจของกลุ่มดินรักษ์ฟ้าที่อยากทำโครงการครั้งต่อไป ให้ดีขึ้นกว่าครั้งที่ผ่านมา ด้วยการเติมเต็มหลายสิ่งเข้าไป และเพื่อให้ความคิดที่พูดนั้น เป็นความจริงขึ้นมา แม้อาจจะต้องพบกับอุปสรรคบางอย่าง เช่น จำนวนคนที่มาช่วยงาน และปัญหาหลายอย่าง จึงมองหาคนที่มีอุดมการณ์และแนวคิดเหมือนกัน ให้ได้มาเจอกัน ว่าแล้วก็ติดต่อ พี่ปู ปิญชาน์ สุขภูตานันท์ แล้วให้พี่ปู ชวนคุณวิเชียร ตั้งธรรมสถิตย์ มาร่วมทานข้าวเที่ยงด้วยกัน ซึ่งพี่ปูก็ตอบรับและโทรนัดหมายให้อย่างเต็มใจ
25 ธ.ค.2553 คุณ Kat Atthakor หรือ คุณแคทรียา อัตถากร หัวหน้ากลุ่มดินรักษ์ฟ้า พร้อมด้วยคุณ Sako Dinrakfah หรือพี่กู๋ แวะรับนายบอน ที่ริมถนนหน้าร้าน ปอกุ้งเผา ริมถนนแจ้งวัฒนะ ทางไปรามอินทรา แล้วขับรถไปตามทางมอเตอร์เวย์ มุ่งสู่พัทยา เมื่อถึงพัทยาก็แวะเข้าไปในคอนโดที่พัก เก็บสัมภาระแล้ว ก็ออกเดินทางมาที่บ้านห้วยขวาง ซึ่งในระหว่างที่มาถึงคอนโดที่พัก แถวเขาพระตำหนัก ย่านพัทยาใต้ คุณพระอาทิตย์ก็โทรมาแจ้งว่า คุณไก่ แมลงสาบ กำลังจัดรายการวิทยุอยู่ และรออยู่ที่สถานีวิทยุ
หลังจากกลุ่มดินรักษ์ฟ้าออกจากคอนโดที่พัก ขับรถมาตามถนน แล่นมาจนถึงบ้า่นอำเภอ เลี้ยวเข้ามาตรงทางเข้าสู่บ้านห้วยขวาง ก็เห็นคุณไก่ แมลงสาบกำลังเอาเหล็กงัดประตูรถเก๋งของคุณพระอาทิตย์ ..คงจะลืมกุญแจไว้อีกแล้ว คุณ sako และคุณ kat จึงจอดรถ ได้สวัสดีทักทายกับคุณไก่และคุณพระอาทิตย์ที่ปากทางเข้าบ้านในตอนนั้น แล้วก็มาจอดรอที่สถานีวิทยุชุมชนบ้านห้วยขวาง ส่วนคุณไก่ และคุณพระอาทิตย์ก็ขับรถตามมาติดๆ หลังจากแนะนำให้รู้จักกันแล้ว ก็พากันเข้ามานั่งคุยกัน ที่ศาลาปลื้มใจ ซึ่งได้จัดโต๊ะ เก้าอี้ไว้เป็นที่นั่งคุยกันไว้พร้อมแล้ว น้องปลา คอยต้อนรับ เอาเครื่องดื่มมาให้ แล้วมิตรใหม่ก็ได้พบปะ พุดคุยทำความรู้จักกันทันทีตั้งแต่นาทีนั้น..
หลังจากนั้น พี่ต่อ เสบียง ก็เข้ามาร่วมพูดคุยด้วยอย่างเป็นกันเอง ซึ่งได้มีการพูดคุยเื่รื่องการทำกิจกรรมเพื่อสังคม, เรื่องดนตรี และอีกหลายเรื่องที่มีความสนใจเหมือนๆกัน
วันอังคารที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2553
10 บทเพลงเปลี่ยนชีวิตที่มีคนได้ฟังจากเวบของกลุ่มศิลปะ ดนตรี กวีประชาชน ช่วงปลายปี พ.ศ.2553
บทเพลงที่มีความหมายและสาระดีๆ มักจะสะดุดความคิดคน เปลี่ยนความคิดเปลี่ยนชีวิตคนได้ ในแวดวงคนที่ใช้อินเทอร์เนตที่ขอนแก่น-มหาสารคาม ที่คลิกเข้ามาติดตามข้อมูลข่าวสารจากเวบของกลุ่มศิลปะ ดนตรี กวีประชาชนแห่งนี้ หรือติดตามทาง facebook, ค้นหาจาก google หรือทาง twitter มีหลายบทเพลงที่ฟังแล้วชื่นชอบประทับใจ แม้จะเป็นบทเพลงที่หาฟังได้ทางอินเทอร์เนตเท่านั้น หาฟังทางสื่อทั่วไปไม่ได้ แต่เมื่อเกิดความชื่นชอบ ความประทับใจในผลงานเพลงที่ฟัง จนมีการบอกต่อ ให้พรรคพวกเพื่อนฝูงได้ฟังกันด้วย
เมื่อได้สอบถามว่า ชอบเพลงใดมากที่สุด เพราะอะไร คำตอบที่ได้รับจากผู้ฟังกลุ่มหนึ่ง มีคุณค่ายิ่งนัก เพราะเพลงที่ฟังได้เปลี่ยนความคิดและเปลี่ยนชีวิต นี่คือ 10 บทเพลงที่เปลี่ยนชีวิตจากคนฟังกลุ่มนี้ รวบรวมมาเป็น 10 อันดับตามที่คนฟังกลุ่มนี้ได้จัดอันดับมา
อันดับที่ 10 เพลงยิ้มยิ้มสู้ - The แมลงสาบ project
ผลงานของวง The แมลงสาบ Project ...ซึ่งมีนักศึกษากลุ่มหนึ่งที่กำลังประสบปัญหาชีวิตหลายอย่าง ทั้งเรื่องการเรียน การเงิน และปัญหาส่วนตัวของแต่ละคนจนเกิดความรู้สึกท้อถอย บางคนเกือบจะเลิกเรียนหนังสือ แต่เมื่อเพื่อนในกลุ่มเปิดเพลงนี้จากเวบไซต์ให้นักศึกษากลุ่มนี้ได้ฟังกัน โดยเปิดลำโพงเสียงดังๆ ดนตรีของเพลงนี้ ที่ฟังดูแตกต่างจากเพลงที่ได้ยินในปัจจุบัน ทำให้นักศึกษากลุ่มนี้ตั้งใจฟัง ซึ่งเนื้อหาของเพลงในแต่ละประโยค เป็นคำสอนที่เตือนสติ จนเกิดเป็นกำลังใจให้นักศึกษากลุ่มนี้ ยิ้มยิ้มสู้ แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
อันดับที่ 9 เพลงคนทำทาง - คีตาญชลี
เป็นเพลงจากปลายปากกาของ อ.เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ที่คอเพลงเพื่อชีวิตหลายคนรู้จักคุ้นเคยเป็นอย่างดี แต่หลายคนพึ่งเคยได้ยินจากเวบของกลุ่มศิลปะ ดนตรี กวีประชาชน .ซึ่งมีครูอัตราจ้างคนหนึ่งในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ที่พยายามทุ่มเททำงานหลายอย่างเพื่อการศึกษาของเด็กนักเรียนในโรงเรียน ท่ามกลางสายตาของหลายคนที่จ้องมองด้วยความรู้สึกเวทนา เพราะมองว่า สิ่งที่กำลังทำลงไป เสียเวลาเปล่าๆ ไม่คุ้มกับเงินเดือนที่ได้รับ จนเมื่อครูคนนั้นย้ายกลับบ้าน เด็กในโรงเรียนเรียกร้องอยากทำกิจกรรมที่คุณครูท่านนั้นเคยพาทำ จนหลายคนต้องช่วยกันทำกิจกรรมที่คุณครูท่านนั้นเคยทำมาก่อน มีเพื่อนคุณครูในโรงเรียนนั้นยกย่องว่า เธอเป็นคนทำทาง โดยเปิดเพลง "คนทำทาง" เพื่อเตือนใจเพื่อนครูในโรงเรียนแห่งนั้น
อันดับที่ 8 เพลงคำเตือนของพ่อ - อัลบั้มเอกลักษณ์ลูกทุ่งชุมชน
เพลงลูกทุ่งมีอิทธิพลในพื้นที่ภาคอีสานมากพอสมควร เมื่อมีคนคลิกฟังเพลง คำเตือนของพ่อ แล้วชื่นชอบทันที เพราะเนื้อหาตรงกับความรู้สึกและวิถีชีวิตในครอบครัวจนได้แนะนำให้หลายคนได้ฟังกัน กลายเป็นบทเพลงนอกกระแสที่เตือนสติลูกๆหลายคนได้อย่างคาดไม่ถึง
อันดับที่ 7 เพลงวันของเธอ
ในกลุ่มนักศึกษาราชภัฏที่กำลังทำโครงการออกค่ายอาสาพัฒนาชนบทช่วงเดือนตุลาคม 2553 ในช่วงที่กำลังเตรียมงาน ประกาศรับสมัครนักศึกษาที่สนใจไปออกค่ายด้วยกัน ได้เปิดเพลงนี้ในชมรม มีหลายคนเดินเข้าไปลงชื่อ ไปออกค่าย หลายคนได้กำลังใจเมื่อได้ฟังเพลงนี้ และบทเพลงนี้ยังถูกนำไปเปิดใช้ในอีกหลายโอกาส
อันดับที่ 6 เพลงยิ่งทำยิ่งได้
บทเพลงที่นำหลักปรัชญาของในหลวง มาร้อยเรียงเป็นบทเพลง ได้เปลี่ยนความคิดของนักศึกษากลุ่มหนึ่งที่มีนิสัยเห็นแก่ตัว แก่งแย่งแข่งขัน ให้กลายเป็นผู้ที่มีจิตใจเสียสละ เห็นใจคนที่ด้อยโอกาส กลายเป็นคนที่มีน้ำในเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ให้แก่ผู้อื่น
อันดับที่ 5 เพลงเกิดมาเป็นคน - ไก่+ สุเวศน์
ในแวดวงของคนที่ทำหน้าที่เป็นอาสาสมัครช่วยชีวิต หน่วยกู้ภัย ช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุบนท้องถนนที่เกิดขึ้นบนทางหลวงแผ่นดิน ก่อนที่จะมาเป็นอาสาสมัคร หลายคนดูเหมือนเป็นคนไร้ค่าในสายตาของผู้คนในสังคม เป็นคนด้อยโอกาส ขาดโอกาสหลายอย่าง ทำให้คนกลุ่มนี้เกิดความท้อถอย เลือกทางชีวิตที่ผิดพลาด หลายครั้งมองคนที่มีโอกาสดีกว่า มีฐานะและอาชีพที่ดีกว่าแล้วเกิดความท้อแท้ แต่ความจริงแล้ว คุณค่าของความเป็นคนไม่ได้อยู่ที่ฐานะทางการเงินเท่านั้น ไม่ว่ารวยหรือจนก็มีศักดิ์ศรีเช่นกัน
เพลงนอกกระแสที่ชื่อว่า "เกิดมาเป็นคน" ที่นักศึกษาคนหนึ่งเอาไปเปิดให้เพื่อนบ้านที่ทำงานเป็นอาสาสมัครกู้ภัยฟัง ด้วยเนื้อหาตรงไปตรงมาของบทเพลง ทำให้ความคิดเปลี่ยนไปทันที จนถึงขั้นหยิบประโยคที่โดนใจ เอาไปทำเป็นสติกเกอร์ติดข้างระกระบะ ข้อความนั้น คือ " เกิดมาเป็นคน รวยจนย่อมมีศักดิ์ศรี" และได้ร้องบางช่วงบางตอนของเพลงนี้ เพื่อเตือนใจเพื่อนร่วมงานที่เป็นอาสาสมัครด้วยกัน จนบางคนนึกว่า เขาเป็นคนแต่งเพลงนี้ แต่อาสาสมัครกู้ภัยก็บอกว่า เป็นเพลงใต้ดินของศิลปินที่ชื่อ ไก่ กับลุงสุเวศน์ ทั้งชื่นชอบและประชาสัมพันธ์ให้ด้วย
อันดับที่ 4 เพลงดอกไม้แกร่งในแปลงชุมชน
บทเพลงที่แต่งขึ้นในงานประชุมวิชาการ 12 ปีกับเวชศาสตร์ครอบครัวในประเทศไทย บทเพลงความหมายดีที่ให้กำลังใจแด่คุณหมอทุกคนที่ทำงานเพื่อชุมชน กลายมาเป็นบทเพลงที่ให้กำลังใจแด่หมออนามัยในชุมชนท้องถิ่นที่ทำงานหนักตลอดทั้งเดือน มีเวลาพักผ่อนน้อย ส่งรายงานประจำเดือนแทบจะไม่ทัน เมื่อมีชาวบ้านที่เจ็บป่วยมารับการรักษาพยาบาล ตรวจสุขภาพทีไร เธอรีบมาให้บริการทุกครั้ง แม้กระทั่งเวลาพักผ่อนช่วงค่ำมืด เมื่อมีชาวบ้านมาตามให้ไปทำคลอด ไปดูคนเจ็บ ฯลฯ เธอก็รีบไปยังบ้านผู้ป่วย เมื่อทำงานหนัก หลายครั้งเกิดความรู้สึกอยากจะขอย้ายกลับไปทำงานในตัวจังหวัดอยู่กับครอบครัว จะได้ทำงานสบายมากกว่านี้ จนเกิดความรู้สึกที่ขัดแย้งอยู่บ่อยๆ เมื่อชาวบ้านมาหาก็เต็มใจช่วยดูแลรักษาพยาบาล ในบางเวลาก็คิดอยากย้ายกลับบ้าน แต่อีกใจก็เป็นห่วงพี่น้องในชุมชน
เมื่อน้องสาวมาเยี่ยมพี่สาวที่เป็นหมออนามัยได้ฟังเพลงดอกไม้แกร่งในแปลงชุมชนแล้วก็ดาวน์โหลด mp3 ไปเปิดให้พี่สาวฟังในวันคล้ายวันเกิดของพี่สาวเมื่อช่วงต้นเดือน พ.ย.2553 เมื่อฟังแล้ว พี่สาวบอกทันทีว่า จะขอทำงานในชุมชนต่อไป ถึงแม้จะเหนื่อย แต่ลึกๆแล้ว มีความสุขที่ได้ทำงานแบบนี้ และยังได้นำบทเพลงนี้ ไปเปิดให้พื่อนร่วมงานฟังอีกด้วย กลายเป็นบทเพลงที่เติมกำลังใจให้คุณหมอในชุมชนได้อย่างดีทีเดียว
อันดับที่ 3 เพลง พระคุณพ่อ, แม่ - The แมลงสาบ project
ในบรรดานักศึกษาที่เข้ามาเรียนหนังสือในตัวเมืองและพักที่หอพักกับเพื่อนๆ หลายสิ่งหลายอย่างทำให้เผลอใจทำในสิ่งที่ไม่เหมาะสม เกิดความผิดพลาดหลายอย่าง บางคนเมื่อพ่อแม่ รู้เรื่อง บางคนได้เห็นน้ำตาของพ่อแม่ เกิดความรุ้สึกผิด เสียใจ จนเกือบจะเสียคน
เพลง พระคุณพ่อ-แม่ เป็นเพลงที่นักศึกษากลุ่มนี้ ฟังแล้วฟังอีก เหมือนการตอกย้ำตัวเอง ถึงความคาดหวังของพ่อแม่ผู้ให้กำเนิด ไม่เฉพาะคนที่เคยทำผิดพลาดเท่านั้น แม้แต่นักศึกษาที่ตั้งใจเรียน รัก-เคารพพ่อแม่ ฟังเพลงนี้แล้วก็คิดถึงพ่อแม่ คิดถึงบ้านเช่นกัน
"เป็นเพลงเตือนสติที่ทำให้เรานึกถึงคำสอนของพ่อแม่ เรามาอยู่หอพัก ไม่มีพ่อแม่คอยเตือน คอยสั่งสอนเราเหมือนตอนอยู่บ้าน เพลงนี้ทำให้นึกถึงตอนที่อยู่บ้านกับพ่อแม่" เป็นอีกหนึ่งความคิดเห็นที่บอกเล่ามา
อันดับที่ 2 เพลงถามพี่ชาย - ไก่ แมลงสาบ
แทบไม่น่าเชื่อว่า เพลงถามพี่ชายที่นำมาเผยแพร่ในเวบของกลุ่มศิลปะ ดนตรี กวีประชาชน จะชนะใจกลุ่มคนฟังกลุ่มนี้มากกว่าหลายบทเพลงที่รายงานไปแล้ว 8 อันดับ ทั้งๆที่เป็นเพลงที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ยังไม่ได้บันทึกเสียง และคลิปวิดีโอที่นำมาเผยแพร่ ก็เป็นบรรยากาศระหว่างการขับรถ ไม่ใช่การบันทึกวิดีโอที่ตั้งใจขับร้องและเล่นกีตาร์ เปิดคอร์ดกีตาร์เพื่อความสมบูรณ์ในการร้องเพลง
แต่เหตุผลที่หลายคนประทับใจเพลงนี้ อยู่ตรงที่ อยากรู้ว่าทำไมคุณไก่ แมลงสาบถึงยังสู้อยู่ ยังคงรับใช้มวลชนอยู่อย่างต่อเนื่อง และจากการติดตามข้อมูลข่าวสารในเวบของกลุ่มศิลปะ ดนตรี กวีประชาชน พี่ชายของกลุ่มคนฟัง ก็ยังคงแต่งเพลงใหม่ ออกมาให้ฟังกันอย่างต่อเนื่อง แล้วคลิปวิดีโอบรรยากาศของเพลงถามพี่ชาย เสียงพูด บอกเล่าที่มาของเพลงนี้ ประทับใจคนฟังกลุ่มนี้มาก เพราะไม่เคยเห็นศิลปินคนไหนทำงานในแบบนี้มาก่อน ในขณะที่เห็นศิลปินคนอื่นในทีวี กว่าจะทำงานเพลงใหม่ออกมา ต้องคิดถึงเงื่อนไขหลายอย่าง ทั้งเงินทุน ความคุ้มค่า กระแสตอบรับ ผลกำไร แต่คุณไก่ แมลงสาบ คิดถึงสิ่งเดียวคือ "เพื่อมวลชน"
เมื่อคนฟังกลุ่มนี้หันกลับมามองตนเอง เจอปัญหาอุปสรรคบางอย่าง เกิดความท้อถอยเสียแล้ว แต่คุณไก่ แมลงสาบยังคงสู้อย่างต่อเนื่อง ทำให้บทเพลงนี้โดนใจคนฟังอย่างมาก อยากถามพี่ชายทำไมยังรับใช้มวลชนอยู่ เพื่อนีทคนฟังจะได้มีพลังต่อสู้ ไม่ย่อท้อเหมือนคุณไก่ แมลงสาบบ้าง
อันดับที่ 1 เพลงฝ่าฝัน
"หากวันใดท้อแท้ จงมีกำลังใจ
บทเพลงที่แต่งโดย ไก่ แมลงสาบ และขัดเกลาคำร้องโดย อ.เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ เพลงนี้โดนใจคนฟังทันทีตั้งแต่ที่ได้ยินท่อนแรก ไม่ว่าจะเป็นผู้ฟังกลุ่มนี้ และคนฟังอีกหลายคนที่ได้ฟังเพลงนี้ครั้งแรกแล้วเกิดกำลังใจขึ้นมาทันทั บทเพลงนี้ หลายคนฟังครั้งแรก มีกำลังใจแล้ว เมื่อเวลาผ่านไป ก็เหมือนเดิม ชีวิตไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง มาดูว่า เพลงนี้เปลี่ยนชีวิตใคร อย่างไรบ้าง
ในกลุ่มคนฟังกลุ่มนี้ เมื่อสมาชิกในกลุ่มคนหนึ่งได้ฟังเพลง ฝ่าฝันแล้วรีบดาวน์โหลด mp3 ใส่โทรศัพท์มือถือทันที เพื่อเอาไปให้เพื่อนได้ฟังด้วย เมื่อเปิดให้เพื่อนฟังแล้ว เพื่อนๆชอบ จึงส่งไฟล์เข้ามือถือของเพื่อน เพื่อจะได้เอาไว้เปิดฟังกัน
เมื่อไปเจอเพื่อนที่กำลังนั่งทุกข์ใจ มีคนเปิดเสียงจากโทรศัพท์ เล่นเพลง ฝ่าฝัน คนที่กำลังทุกข์ใจ จากที่ไม่สนใจสิ่งรอบตัว ก็ตั้งใจฟัง แล้วถามว่า เพลงอะไร เมื่อเพื่อนเปิดใจรับฟังแล้ว ก็สามารถพูดให้กำลังใจ ปลอบโยนเตือนสติได้ และเพลงนี้ทำให้คนฟังมีพลังในการต่อสู้อุปสรรค ยิ่งเป็นคนที่กระตือรือร้น ต่อสู้มาตลอด แต่เมื่อเจอปัญหาชีวิตจนสะดุดลง เพลงฝ่าฝันจะปลุกวิญญาณนักสู้ให้ฟื้น ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง
เพลงฝ่าฝัน จึงเป็นเพลงเปลี่ยนความคิด เปลี่ยนชีวิตที่หลายคนหลายกลุ่ม ชื่นชอบประทับใจอย่างมาก
เมื่อได้สอบถามว่า ชอบเพลงใดมากที่สุด เพราะอะไร คำตอบที่ได้รับจากผู้ฟังกลุ่มหนึ่ง มีคุณค่ายิ่งนัก เพราะเพลงที่ฟังได้เปลี่ยนความคิดและเปลี่ยนชีวิต นี่คือ 10 บทเพลงที่เปลี่ยนชีวิตจากคนฟังกลุ่มนี้ รวบรวมมาเป็น 10 อันดับตามที่คนฟังกลุ่มนี้ได้จัดอันดับมา
อันดับที่ 10 เพลงยิ้มยิ้มสู้ - The แมลงสาบ project
ผลงานของวง The แมลงสาบ Project ...ซึ่งมีนักศึกษากลุ่มหนึ่งที่กำลังประสบปัญหาชีวิตหลายอย่าง ทั้งเรื่องการเรียน การเงิน และปัญหาส่วนตัวของแต่ละคนจนเกิดความรู้สึกท้อถอย บางคนเกือบจะเลิกเรียนหนังสือ แต่เมื่อเพื่อนในกลุ่มเปิดเพลงนี้จากเวบไซต์ให้นักศึกษากลุ่มนี้ได้ฟังกัน โดยเปิดลำโพงเสียงดังๆ ดนตรีของเพลงนี้ ที่ฟังดูแตกต่างจากเพลงที่ได้ยินในปัจจุบัน ทำให้นักศึกษากลุ่มนี้ตั้งใจฟัง ซึ่งเนื้อหาของเพลงในแต่ละประโยค เป็นคำสอนที่เตือนสติ จนเกิดเป็นกำลังใจให้นักศึกษากลุ่มนี้ ยิ้มยิ้มสู้ แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
อันดับที่ 9 เพลงคนทำทาง - คีตาญชลี
เป็นเพลงจากปลายปากกาของ อ.เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ที่คอเพลงเพื่อชีวิตหลายคนรู้จักคุ้นเคยเป็นอย่างดี แต่หลายคนพึ่งเคยได้ยินจากเวบของกลุ่มศิลปะ ดนตรี กวีประชาชน .ซึ่งมีครูอัตราจ้างคนหนึ่งในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ที่พยายามทุ่มเททำงานหลายอย่างเพื่อการศึกษาของเด็กนักเรียนในโรงเรียน ท่ามกลางสายตาของหลายคนที่จ้องมองด้วยความรู้สึกเวทนา เพราะมองว่า สิ่งที่กำลังทำลงไป เสียเวลาเปล่าๆ ไม่คุ้มกับเงินเดือนที่ได้รับ จนเมื่อครูคนนั้นย้ายกลับบ้าน เด็กในโรงเรียนเรียกร้องอยากทำกิจกรรมที่คุณครูท่านนั้นเคยพาทำ จนหลายคนต้องช่วยกันทำกิจกรรมที่คุณครูท่านนั้นเคยทำมาก่อน มีเพื่อนคุณครูในโรงเรียนนั้นยกย่องว่า เธอเป็นคนทำทาง โดยเปิดเพลง "คนทำทาง" เพื่อเตือนใจเพื่อนครูในโรงเรียนแห่งนั้น
อันดับที่ 8 เพลงคำเตือนของพ่อ - อัลบั้มเอกลักษณ์ลูกทุ่งชุมชน
เพลงลูกทุ่งมีอิทธิพลในพื้นที่ภาคอีสานมากพอสมควร เมื่อมีคนคลิกฟังเพลง คำเตือนของพ่อ แล้วชื่นชอบทันที เพราะเนื้อหาตรงกับความรู้สึกและวิถีชีวิตในครอบครัวจนได้แนะนำให้หลายคนได้ฟังกัน กลายเป็นบทเพลงนอกกระแสที่เตือนสติลูกๆหลายคนได้อย่างคาดไม่ถึง
อันดับที่ 7 เพลงวันของเธอ
ในกลุ่มนักศึกษาราชภัฏที่กำลังทำโครงการออกค่ายอาสาพัฒนาชนบทช่วงเดือนตุลาคม 2553 ในช่วงที่กำลังเตรียมงาน ประกาศรับสมัครนักศึกษาที่สนใจไปออกค่ายด้วยกัน ได้เปิดเพลงนี้ในชมรม มีหลายคนเดินเข้าไปลงชื่อ ไปออกค่าย หลายคนได้กำลังใจเมื่อได้ฟังเพลงนี้ และบทเพลงนี้ยังถูกนำไปเปิดใช้ในอีกหลายโอกาส
อันดับที่ 6 เพลงยิ่งทำยิ่งได้
บทเพลงที่นำหลักปรัชญาของในหลวง มาร้อยเรียงเป็นบทเพลง ได้เปลี่ยนความคิดของนักศึกษากลุ่มหนึ่งที่มีนิสัยเห็นแก่ตัว แก่งแย่งแข่งขัน ให้กลายเป็นผู้ที่มีจิตใจเสียสละ เห็นใจคนที่ด้อยโอกาส กลายเป็นคนที่มีน้ำในเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ให้แก่ผู้อื่น
อันดับที่ 5 เพลงเกิดมาเป็นคน - ไก่+ สุเวศน์
ในแวดวงของคนที่ทำหน้าที่เป็นอาสาสมัครช่วยชีวิต หน่วยกู้ภัย ช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุบนท้องถนนที่เกิดขึ้นบนทางหลวงแผ่นดิน ก่อนที่จะมาเป็นอาสาสมัคร หลายคนดูเหมือนเป็นคนไร้ค่าในสายตาของผู้คนในสังคม เป็นคนด้อยโอกาส ขาดโอกาสหลายอย่าง ทำให้คนกลุ่มนี้เกิดความท้อถอย เลือกทางชีวิตที่ผิดพลาด หลายครั้งมองคนที่มีโอกาสดีกว่า มีฐานะและอาชีพที่ดีกว่าแล้วเกิดความท้อแท้ แต่ความจริงแล้ว คุณค่าของความเป็นคนไม่ได้อยู่ที่ฐานะทางการเงินเท่านั้น ไม่ว่ารวยหรือจนก็มีศักดิ์ศรีเช่นกัน
เพลงนอกกระแสที่ชื่อว่า "เกิดมาเป็นคน" ที่นักศึกษาคนหนึ่งเอาไปเปิดให้เพื่อนบ้านที่ทำงานเป็นอาสาสมัครกู้ภัยฟัง ด้วยเนื้อหาตรงไปตรงมาของบทเพลง ทำให้ความคิดเปลี่ยนไปทันที จนถึงขั้นหยิบประโยคที่โดนใจ เอาไปทำเป็นสติกเกอร์ติดข้างระกระบะ ข้อความนั้น คือ " เกิดมาเป็นคน รวยจนย่อมมีศักดิ์ศรี" และได้ร้องบางช่วงบางตอนของเพลงนี้ เพื่อเตือนใจเพื่อนร่วมงานที่เป็นอาสาสมัครด้วยกัน จนบางคนนึกว่า เขาเป็นคนแต่งเพลงนี้ แต่อาสาสมัครกู้ภัยก็บอกว่า เป็นเพลงใต้ดินของศิลปินที่ชื่อ ไก่ กับลุงสุเวศน์ ทั้งชื่นชอบและประชาสัมพันธ์ให้ด้วย
อันดับที่ 4 เพลงดอกไม้แกร่งในแปลงชุมชน
บทเพลงที่แต่งขึ้นในงานประชุมวิชาการ 12 ปีกับเวชศาสตร์ครอบครัวในประเทศไทย บทเพลงความหมายดีที่ให้กำลังใจแด่คุณหมอทุกคนที่ทำงานเพื่อชุมชน กลายมาเป็นบทเพลงที่ให้กำลังใจแด่หมออนามัยในชุมชนท้องถิ่นที่ทำงานหนักตลอดทั้งเดือน มีเวลาพักผ่อนน้อย ส่งรายงานประจำเดือนแทบจะไม่ทัน เมื่อมีชาวบ้านที่เจ็บป่วยมารับการรักษาพยาบาล ตรวจสุขภาพทีไร เธอรีบมาให้บริการทุกครั้ง แม้กระทั่งเวลาพักผ่อนช่วงค่ำมืด เมื่อมีชาวบ้านมาตามให้ไปทำคลอด ไปดูคนเจ็บ ฯลฯ เธอก็รีบไปยังบ้านผู้ป่วย เมื่อทำงานหนัก หลายครั้งเกิดความรู้สึกอยากจะขอย้ายกลับไปทำงานในตัวจังหวัดอยู่กับครอบครัว จะได้ทำงานสบายมากกว่านี้ จนเกิดความรู้สึกที่ขัดแย้งอยู่บ่อยๆ เมื่อชาวบ้านมาหาก็เต็มใจช่วยดูแลรักษาพยาบาล ในบางเวลาก็คิดอยากย้ายกลับบ้าน แต่อีกใจก็เป็นห่วงพี่น้องในชุมชน
เมื่อน้องสาวมาเยี่ยมพี่สาวที่เป็นหมออนามัยได้ฟังเพลงดอกไม้แกร่งในแปลงชุมชนแล้วก็ดาวน์โหลด mp3 ไปเปิดให้พี่สาวฟังในวันคล้ายวันเกิดของพี่สาวเมื่อช่วงต้นเดือน พ.ย.2553 เมื่อฟังแล้ว พี่สาวบอกทันทีว่า จะขอทำงานในชุมชนต่อไป ถึงแม้จะเหนื่อย แต่ลึกๆแล้ว มีความสุขที่ได้ทำงานแบบนี้ และยังได้นำบทเพลงนี้ ไปเปิดให้พื่อนร่วมงานฟังอีกด้วย กลายเป็นบทเพลงที่เติมกำลังใจให้คุณหมอในชุมชนได้อย่างดีทีเดียว
อันดับที่ 3 เพลง พระคุณพ่อ, แม่ - The แมลงสาบ project
ในบรรดานักศึกษาที่เข้ามาเรียนหนังสือในตัวเมืองและพักที่หอพักกับเพื่อนๆ หลายสิ่งหลายอย่างทำให้เผลอใจทำในสิ่งที่ไม่เหมาะสม เกิดความผิดพลาดหลายอย่าง บางคนเมื่อพ่อแม่ รู้เรื่อง บางคนได้เห็นน้ำตาของพ่อแม่ เกิดความรุ้สึกผิด เสียใจ จนเกือบจะเสียคน
เพลง พระคุณพ่อ-แม่ เป็นเพลงที่นักศึกษากลุ่มนี้ ฟังแล้วฟังอีก เหมือนการตอกย้ำตัวเอง ถึงความคาดหวังของพ่อแม่ผู้ให้กำเนิด ไม่เฉพาะคนที่เคยทำผิดพลาดเท่านั้น แม้แต่นักศึกษาที่ตั้งใจเรียน รัก-เคารพพ่อแม่ ฟังเพลงนี้แล้วก็คิดถึงพ่อแม่ คิดถึงบ้านเช่นกัน
"เป็นเพลงเตือนสติที่ทำให้เรานึกถึงคำสอนของพ่อแม่ เรามาอยู่หอพัก ไม่มีพ่อแม่คอยเตือน คอยสั่งสอนเราเหมือนตอนอยู่บ้าน เพลงนี้ทำให้นึกถึงตอนที่อยู่บ้านกับพ่อแม่" เป็นอีกหนึ่งความคิดเห็นที่บอกเล่ามา
อันดับที่ 2 เพลงถามพี่ชาย - ไก่ แมลงสาบ
แทบไม่น่าเชื่อว่า เพลงถามพี่ชายที่นำมาเผยแพร่ในเวบของกลุ่มศิลปะ ดนตรี กวีประชาชน จะชนะใจกลุ่มคนฟังกลุ่มนี้มากกว่าหลายบทเพลงที่รายงานไปแล้ว 8 อันดับ ทั้งๆที่เป็นเพลงที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ยังไม่ได้บันทึกเสียง และคลิปวิดีโอที่นำมาเผยแพร่ ก็เป็นบรรยากาศระหว่างการขับรถ ไม่ใช่การบันทึกวิดีโอที่ตั้งใจขับร้องและเล่นกีตาร์ เปิดคอร์ดกีตาร์เพื่อความสมบูรณ์ในการร้องเพลง
แต่เหตุผลที่หลายคนประทับใจเพลงนี้ อยู่ตรงที่ อยากรู้ว่าทำไมคุณไก่ แมลงสาบถึงยังสู้อยู่ ยังคงรับใช้มวลชนอยู่อย่างต่อเนื่อง และจากการติดตามข้อมูลข่าวสารในเวบของกลุ่มศิลปะ ดนตรี กวีประชาชน พี่ชายของกลุ่มคนฟัง ก็ยังคงแต่งเพลงใหม่ ออกมาให้ฟังกันอย่างต่อเนื่อง แล้วคลิปวิดีโอบรรยากาศของเพลงถามพี่ชาย เสียงพูด บอกเล่าที่มาของเพลงนี้ ประทับใจคนฟังกลุ่มนี้มาก เพราะไม่เคยเห็นศิลปินคนไหนทำงานในแบบนี้มาก่อน ในขณะที่เห็นศิลปินคนอื่นในทีวี กว่าจะทำงานเพลงใหม่ออกมา ต้องคิดถึงเงื่อนไขหลายอย่าง ทั้งเงินทุน ความคุ้มค่า กระแสตอบรับ ผลกำไร แต่คุณไก่ แมลงสาบ คิดถึงสิ่งเดียวคือ "เพื่อมวลชน"
เมื่อคนฟังกลุ่มนี้หันกลับมามองตนเอง เจอปัญหาอุปสรรคบางอย่าง เกิดความท้อถอยเสียแล้ว แต่คุณไก่ แมลงสาบยังคงสู้อย่างต่อเนื่อง ทำให้บทเพลงนี้โดนใจคนฟังอย่างมาก อยากถามพี่ชายทำไมยังรับใช้มวลชนอยู่ เพื่อนีทคนฟังจะได้มีพลังต่อสู้ ไม่ย่อท้อเหมือนคุณไก่ แมลงสาบบ้าง
อันดับที่ 1 เพลงฝ่าฝัน
"หากวันใดท้อแท้ จงมีกำลังใจ
ให้สู้กันต่อไป เพื่อนเอ๋ย
อยู่อย่างคนมีหวัง มีพลังก้าวไกล
แม้พบเจอผองภัย หยัดยืน"
บทเพลงที่แต่งโดย ไก่ แมลงสาบ และขัดเกลาคำร้องโดย อ.เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ เพลงนี้โดนใจคนฟังทันทีตั้งแต่ที่ได้ยินท่อนแรก ไม่ว่าจะเป็นผู้ฟังกลุ่มนี้ และคนฟังอีกหลายคนที่ได้ฟังเพลงนี้ครั้งแรกแล้วเกิดกำลังใจขึ้นมาทันทั บทเพลงนี้ หลายคนฟังครั้งแรก มีกำลังใจแล้ว เมื่อเวลาผ่านไป ก็เหมือนเดิม ชีวิตไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง มาดูว่า เพลงนี้เปลี่ยนชีวิตใคร อย่างไรบ้าง
ในกลุ่มคนฟังกลุ่มนี้ เมื่อสมาชิกในกลุ่มคนหนึ่งได้ฟังเพลง ฝ่าฝันแล้วรีบดาวน์โหลด mp3 ใส่โทรศัพท์มือถือทันที เพื่อเอาไปให้เพื่อนได้ฟังด้วย เมื่อเปิดให้เพื่อนฟังแล้ว เพื่อนๆชอบ จึงส่งไฟล์เข้ามือถือของเพื่อน เพื่อจะได้เอาไว้เปิดฟังกัน
เมื่อไปเจอเพื่อนที่กำลังนั่งทุกข์ใจ มีคนเปิดเสียงจากโทรศัพท์ เล่นเพลง ฝ่าฝัน คนที่กำลังทุกข์ใจ จากที่ไม่สนใจสิ่งรอบตัว ก็ตั้งใจฟัง แล้วถามว่า เพลงอะไร เมื่อเพื่อนเปิดใจรับฟังแล้ว ก็สามารถพูดให้กำลังใจ ปลอบโยนเตือนสติได้ และเพลงนี้ทำให้คนฟังมีพลังในการต่อสู้อุปสรรค ยิ่งเป็นคนที่กระตือรือร้น ต่อสู้มาตลอด แต่เมื่อเจอปัญหาชีวิตจนสะดุดลง เพลงฝ่าฝันจะปลุกวิญญาณนักสู้ให้ฟื้น ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง
เพลงฝ่าฝัน จึงเป็นเพลงเปลี่ยนความคิด เปลี่ยนชีวิตที่หลายคนหลายกลุ่ม ชื่นชอบประทับใจอย่างมาก
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)